การแจ้งเปลี่ยนเครื่อง (ไปมาแล้ว Update ข่าวครับ)

[Chan]

ความเดิมที่ถามไว้

รบกวนเพื่อนๆ ขอข้อมูลหน่อยครับ คือเท่าที่ผมรู้คือต้องแจ้งตัดเครื่องเก่าก่อน แล้วแจ้งเครื่องใหม่เข้าเล่ม อยากรู้ว่าต้องไปแจ้งที่ไหนครับ หมายถึงที่ๆ ชื่อเจ้าของรถอยู่ใช่เปล่าครับ หรือว่าต้องไปที่ ขนส่ง จตุจักร ครับ  คือไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่ไหนระหว่าง 2 ที่นี้ครับ

--------------------------------------------------------------------------------------

update หลังไปด้วยตัวเอง ที่จตุจักร นะประทับใจดีเดี๋ยวนี้บริการดี พูดจาดี และเร็วมากๆ ครับใช้เวลาโดนรวมไม่ถึง 30 นาทีครับ

1.ไปแจ้งตัดเครื่องที่ อาคาร 2 ชั้นที่เพื่อตัดบัญชีเครื่อง ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ เวลาที่ใช้ไม่เกิน 2 นาที

2.ไปตรวจสภาพรถที่อาคาร 4 ช่องที่ 5 งานด้านเปลี่ยนเครือง สี ขับเข้าไปจอดดับเครื่องน่าจะประมาณ 7 นาทีได้ครับช่างไม่ได้ดูอะไรมากแค่ดูเครื่อง ว่าตรง invioce ที่เชียงกงออกให้แล้ว แล้ก็ดูเอกสารลงบันทึกในเอกสารและคอม

3.อันนี้ผมชอบมากครับจากเดิมเราต้องไปที่อาคาร 4 เพื่อรอเอกสารตอนนี้มีบริการ drive thru แล้วครับเริ่มใช้งานเมื่อวานผมเลยได้ประเดิม เลยครับออกจากที่ตรวจสภาพเลี้ยวขวาเข้าช่องเหมือนทางด่วน ยืนเอกสาร น่าจะประมาณ 10 นาที่ได้ไม่เกิน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีประจำปี เสียกรณีที่ความจุมากกว่าเดิม หรือ เพิ่ม CC นั้นเองถ้า 1600 อยู่แล้วไม่ต้องเสียครับของผมเสียไป 46 บาท

รวมจ่ายไป 151 บาทครับจ่ายเงินเสร็จรับเอกสารขับกลับบ้านได้เลยครับ อุอุ ดีที่ไปเองประหยัดเงินไปบาน

เพิ่มเติมครับ ระวังพวกหากินกับความที่ไม่รู้ ความขี้เกียจ ของเรา นะครับหากินกันง่ายจริงๆ คือระหว่างที่ผมกำลังเดินทางจะถึงขนส่งจตุจักร จะมีพวกมอร์ไซ ขับมาประกบรถเราเลยครับแล้วเคาะกระจกด้วยผมก็งงอะไรของมันพอลดกระจกลงมันก็ถามว่าพี่มาทำอะไรที่ขนส่งเหรอ โอนรถหรืออื่นๆ  ประมาณว่าเขารับบริการดำเนินการให้ครับ บอกว่าคิด 100 เดียว ผมก็ OK ซิครับถ้าเร็วไม่ต้องรอ เพราะว่าผมเคยไปโอนรถรอเป็นวัน ขับตามไปเป็นพวกร้านที่อยู่หลังขนส่งครับพอจอดรถก็เข้าไปนั่งในร้านถามพี่จะทำอะไรบ้าง ผมเลยว่าไปแจ้งเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียวครับ เขาก็คำนวนแล้วบอกราคาผมมา 1650 ครับผมก็โอ้วค่าอะไรบ้างครับ เขาก็ว่า
-ค่าแจ้งเปลี่ยน 800
-ค่ายกเลิก 300
-ค่าตรวจ 300
-ค่าบริการอีก 250
ผมก็เลยว่าทำไมแพงจังเท่าที่รู้ไม่ได้ราคานี้นิครับ เขาก็แถ ไปบอกว่าราคานี้จริง ผมเลยว่างั้นไม่เป็นไรครับผมดำเนินการเองดีกว่า

หลังจากแจ้งเปลี่ยนเสร็จคิดในใจถ้าให้มันทำให้ โอ้วโดน 1500 เลย เตือนเพื่อนไว้นะครับ

[pinA]

ผมวางใหม่เพราะเครื่องพัง บอกเค้าวางกันเองกับเพื่อน ไปแบบนี้ครับ เพราะฉนั้นก้อมีแค่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องใหม่เท่านั้น ตอนนั้นยังคาไฟแนนซ์อยู่เลย ลองผ่านพวกหน้าม้าดูครับ น่าจะง่าย ให้ค่าแรงเค้าหน่อยนึง

[AT35 TZ#054]

ต้องไปแจ้งตัดเครื่องเก่าก่อนครับ ที่จตุจักรนะครับ และหลังจากนั้นจะไปแจ้งเปลี่ยนเครื่องที่ไหนก็ได้ครับ หรือว่าจะทำที่จตุจักรทีเดียวเลยก็ได้ครับ สำหรับผมใช้บริการของคนรู้จักกันครับให้เค้าทำให้ครับ ไม่ต้องตรวจสภาพครับ แค่ขู่เลขและก็เตรียมหลักฐานให้ครบ..อ้อเงินด้วยครับ...

[PyoungJ]

กำลังจะเปลี่ยนเครื่องเหมือนกัน อยากทราบด้วยคน

[OH']

ต้องไปแจ้งตัดเครื่องเก่าก่อนครับ ที่จตุจักรนะครับ และหลังจากนั้นจะไปแจ้งเปลี่ยนเครื่องที่ไหนก็ได้ครับ หรือว่าจะทำที่จตุจักรทีเดียวเลยก็ได้ครับ สำหรับผมใช้บริการของคนรู้จักกันครับให้เค้าทำให้ครับ ไม่ต้องตรวจสภาพครับ แค่ขู่เลขและก็เตรียมหลักฐานให้ครบ..อ้อเงินด้วยครับ...

-ใช้หลักฐานอะไรบ้างครับ
-ค่าใช้จ่ายเท่าไร

[OH']

ถามแบบโง่ๆเลยครับ

แล้วถ้าไม่เปลี่ยนจะเป็นอะไรหรือป่าวครับ ไม่รู้จิงๆ

[BOOK]

ก็เหมือนกับการไม่มีบัตรประชาชน ถ้าเมื่อไหร่ถึงคราวต้องใช้ ก็.........

[AT35 TZ#054]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

[Chan]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

ขอบคุณนะครับ

อ้ออันนี้อ่านแล้วครับ แต่สิ่งที่ผมส่งสัยคือ

บางคนบอกว่าจะต้องแจ้งที่จตุจักรเพื่อตัดเครื่องก่อน (ความหมายคือยังไงก็ต้องไปจตุจักรเหรอครับ)

แค่สงสัยว่าทำไมต้องไปสองที่ไปเขตที่ที่เจ้าของรถอยู่ได้เลยได้ไหมจะได้ไม่ต้องไป 2 ที่เสียเวลา

[hayata]

ต้องไปตัดเลข อินวิยเครื่องทีหมอชิตจตุจักรก่อนครับ มันเป็นทีเดียวที่ตัดเลขเครืองครับพีชาน

[Chan]

ต้องไปตัดเลข อินวิยเครื่องทีหมอชิตจตุจักรก่อนครับ มันเป็นทีเดียวที่ตัดเลขเครืองครับพีชาน

อืมสรุปย้งไงก็ต้องไปที่หมอชิตก่อนเพื่อแจ้งตัดเครื่องเก่าก่อน

ส่วนเรื่องแจ้งเครื่องใหม่เข้าเล่มก็ที่จตุจักรหรือเขตชื่อเจ้าของรถอยู่  ใช่เปล่าครับ

[AT35 TZ#054]

ต้องไปตัดเลข อินวิยเครื่องทีหมอชิตจตุจักรก่อนครับ มันเป็นทีเดียวที่ตัดเลขเครืองครับพีชาน

อืมสรุปย้งไงก็ต้องไปที่หมอชิตก่อนเพื่อแจ้งตัดเครื่องเก่าก่อน

ส่วนเรื่องแจ้งเครื่องใหม่เข้าเล่มก็ที่จตุจักรหรือเขตชื่อเจ้าของรถอยู่  ใช่เปล่าครับ

แม่นแล้วครับ

[iPuNN (ปั้น)]

ความรู้ๆ 

[S u r a n a y ™]

มาเก็บข้อมูลไว้ เพื่ออนาคต 

[taufhun]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

ตามนั้นเลยครับ วันนี้พึ่งไปตัดเลขเครื่องที่ขนส่ง ตรงจตุจักร เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะเอาไปแจ้งเปลี่ยนที่ ตจว.

[TIT]

จ้างร้านต่อทะเบียนทำคิด 1400 ทำให้หมดเลย

[aod_ae]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

คู่แฝด ผมนิ แน่นอน จริงๆ..

[AT35 TZ#054]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

คู่แฝด ผมนิ แน่นอน จริงๆ..

555......ผมเจ็บมาเยอะ...

[aod_ae]

เอามาจากอีกที่นะครับ ลองดูครับ

หลักฐานที่ใช้
1. สมุดทะเบียนรถ (ใบคู่มือจดทะเบียน เล่มสีฟ้า)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
3. เงินค่าธรรมเนียม (169.20 บาท)
- ค่าแบบคำร้องเปลี่ยนเครื่อง 5 บาท
- ค่าคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดท ะเบียน 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท
- ค่าภาษีเพิ่มกรณีความจุซีซีเพิ่ม

4. หลักฐานการซื้อขายเครื่องยนต์ (ควรจะเป็นต้นฉบับจริง ไม่ใช้ถ่ายเอกสาร) จากที่อู่ให้ผมมามีอยู่ 4 ใบดังนี้
- สำเนาบิลเงินสดและใบกำกับภาษี (บริษัท a ขายให้บริษัท b)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรั บและจำหน่ายเครื่องยนต์ (บริษัท a แจ้งการจำหน่ายเครื่องยนต์ต่อนายทะเบียนกทม.)
- บิลเงินสด/ใบกำกับภาษี (BILL CASH/TAX INVOICE บริษัท b ขายให้ "นาย x")
- หนังสือ ขอแก้ไขชื่อ และที่อยู่ในบิลเงินสด, ใบกำกับภาษี (ขอแก้ไขชื่อจากขายเครื่องยนต์ให้แก่นาย x เป็นขายให้เรา)

บริษัท a คือ ผู้นำเข้าเครื่อง
บริษัท b คือ ร้านที่เราไปซื้อเครื่อง
นาย x คือ เจ้าของอู่วางเครื่อง


ขั้นตอน
1. ไปทำเรื่องแจ้งยกเลิกการใช้เครื่องยนต์เก่าก่อน
สถานที่ : อาคาร 2 สำนักงานมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ ขึ้นไปชั้น 4 แผนก "ตัดบัญชีรถและเครื่องยนต์" ติดต่อ ช่อง 2 "งานบัญชีเครื่องยนต์"
เวลาที่ใช้ : 2 นาที

2. ไปติดต่อตรวจสภาพรถ
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นล่าง ขั้นตอนนี้รับบัตรคิวพร้อมเอกสารการตรวจสภาพ (ใช้เวลาประมาณ 1 นาที) เสร็จแล้วขับรถไปยังลานตรวจสภาพรถ รถเก๋งเข้าช่อง 1 รถกระบะ เข้าช่อง 2 (แต่เห็นมั่วๆ ปนกันอยู่เก๋งเข้าช่อง 2 ก็มี) ดับเครื่องรอได้เลย ตอนที่ไปมีต่อคิวอยู่ 5 คัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมีช่างมาเปิดกระโปรงเอาไฟฉายมาส่องๆ แล้วขูดเอาเลขตัวถังไป

เสร็จแล้วเอารถไปจอดเก็บที่เดิม แล้วมาติดต่อรอเรียกรับเอกสารผลการตรวจสภาพ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่างที่เดิม

3. ชำระเงิน
สถานที่ : อาคาร 4 ชั้นที่ 2 ช่อง 35 กรอกแบบ "คำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบ ียน" รอเรียกชำระเงิน ขั้นตอนนี้รอนานมาก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องรอค้นทะเบียนด้วย เสร็จแล้วจะได้สมุดสีฟ้าที่แก้ข้อมูลความจุเครื่องยน ต์ หมายเลขเครื่องยนต์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

- แนะนำให้จอดรถใกล้ๆ อาคาร 4 เพื่อที่จะได้สะดวกตอนที่ขับเข้าไปตรวจสภาพ มาตอนเช้าๆ จะมีที่จอดว่างด้านล่างได้ครับ ถ้ามาสายรถจะเยอะ (บางคันจอดซ้อนคันซะน่าเกลียดเลย) ก็ต้องขับขึ้นไปจอดบนอาคารจอดรถ

หมายเหตุ
- ขนส่งหยุดวันเสาร์อาทิตย์ครับ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับขอข้อมูลเพิ่มเติ ม ติดต่อฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ 02-272-3621 (เบอร์อื่น สำรอง) 02-272-3613, 02-272-5441, 02-272-5448, 02-272-5495, 02-272-3630, 02-272-3631

อ้างอิง เอกสารของกรมการขนส่งทางบก 2549 http://www.dlt.go.th

คู่แฝด ผมนิ แน่นอน จริงๆ..

555......ผมเจ็บมาเยอะ...

แล้วกับ น้อง ที่ผม แนะนำ ไป เป็นไง บ้างละ....ok ไหม๊...

[Chan]

ไปมาแล้ว