:: บทความ
:: น้ำมันเครื่องเกิน
มีหลายคนมักจะพูดกันว่า ถ้าเติมน้ำมันเครื่องเกินจะเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
พร้อมกันนั้นก็สืบเนื่องมาจากรายการวิทยุรายการหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า เกินไม้วัดที่ขีดบนได้แค่หัวไม้ขีดเท่านั้น ถ้าเกินกว่านั้นอาจทำให้น้ำมันเครื่องล้นทะลักออกหม้อกรอง จากคำพูดตรงนี้ได้มีกลุ่มผู้ใช้เข้ามาหาผม และให้ถ่ายน้ำมันเครื่องออก เพราะเกินถึง 1 เซนติเมตร ดังนั้นผมจึงขอชี้แจงไว้ในที่นี้เพื่อจะได้ไม่เข้าใจผิด กรณีแรกที่ว่าเติมเกินตรงนี้ ถ้ารถมีปริมาณ 5 ลิตร เติมเกินได้ถึง 1 ลิตร แต่ถ้าเกินมากกว่านี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าน้ำมันเครื่องอาจจะขึ้ นมาโดนกับข้อเหวี่ยงเพลาหมุน จนทำให้เกิดแรงต้าน ทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง และจะเป็นไปได้ก็เฉพาะรถที่มีเครื่องแบบช่วงชักยาว ๆ เท่านั้น เช่น เครื่องยนต์รถบรรทุก หรือเครื่องแบบบ๊อกเซอร์ที่มีสูบอยู่แนวนอน
จากนี้ผมอยากให้มองไปภายในเครื่อง แล้วจะเห็นเป็นภาพว่า อ่างน้ำมันเครื่องก็เหมือนอ่างน้ำในบ้านเรา จะเป็นอ่างล้างชามก็ได้ แต่อ่างน้ำมันเครื่องจะมีน้ำมันเครื่องขังอยู่ในนั้น และลองนึกภาพต่ออีกว่า ถ้าเราเอาเครื่องดูดน้ำจุ่มลงไป เช่น เครื่องไดโว่สูบน้ำนั่นแหละ และเปิดมอเตอร์เพื่อให้ดูดน้ำ และน้ำที่ดูดออกมาก็ให้ไหลกลับไปในอ่างอย่างเดิม เราก็จะเห็นภาพว่า น้ำจะยุบและยุบลงจนหมด แต่ถ้าน้ำไหลกลับมาในอ่างไม่ทัน นั่นก็แสดงว่าน้ำที่ไหลออกไปกลับมาแทนที่ไม่ทัน ถ้าเป็นในเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่ไหลไปหล่อเลี้ยงแล้วไหลกลับมาในอ่างไม่ทันก็จะ เกิดอันตรายต่อเครื่อง เพราะปั๊มน้ำมันเครื่องจะกลายเป็นดูดเอาฟองอากาศเท่านั้น น้ำมันเครื่องที่จะไปหล่อเลี้ยงก็จะไม่พอ การสึกหรอย่อมจะเกิดทันที และอยากให้เห็นอีกภาพหนึ่งว่า ถ้าน้ำมันเครื่องอยู่ในอ่างสูงจนถึงข้อเหวี่ยงเล็กน้อย แต่พอติดเครื่องน้ำมันจะยุบทันที เพราะปั๊มจะหมุนและดูดน้ำมันขึ้นไปหล่อเลี้ยง น้ำมันเครื่องในอ่างจะยุบ ฉะนั้นแล้วน้ำมันเครื่องในอ่าง จะต้องมีปริมาณไหลกลับมาอยู่ในอ่างได้ทัน คือในอ่างจะไม่แห้งไปก่อน ถ้าน้ำมันเครื่องลดน้อยมาก น้ำมันไหลกลับมาอยู่ในอ่างไม่ทันเมื่อไหร่ อย่างที่บอกเครื่องสึกหรอแน่นอน
เอาล่ะ ผมอธิบายชี้ให้เห็นว่า น้ำมันเครื่องเกินดีกว่าขาด ยิ่งขาดมาก ๆ ก็จะทำให้เครื่องมีปัญหา และถ้าเกิน ไม่ต้องไปตกอกตกใจอย่างที่เขาบอกแล้วกัน เอาแน่ ๆ ไว้ก่อนคือ เติมให้พอดี หรือเผื่อเอาไว้ครึ่งลิตรก็ได้ น้ำมันเครื่องมาก การหล่อลื่นก็จะจางสภาพได้ช้า
และสุดท้ายที่อยากจะแนะนำถึงวิธีการวัดน้ำมันเครื่อง ถ้าติดเครื่องก่อนสัก 15 วินาที หรือ 30 วินาที แล้วค่อยดับเครื่องจากนั้นก็วัดระดับดู ถ้าทำแบบนี้รับรองว่าน้ำมันไม่ขาด แต่ถ้าจอดรถไว้นาน ๆ แล้วก็ชักไม้วัดออกมาดูเลยจะเห็นว่าเกินระดับ 1 เซนติเมตรแน่นอน ท้ายนี้ก็ฝากไปยังหมอรถทั้งหลาย พูดอะไรแล้วอธิบายไม่เป็นก็อาจเกิดการเข้าใจผิดได้ ช่างจริง ๆ เขาเวียนหัวรู้มั้ย
บุญมา นาวาทอง
ไปก๊อบเค้ามาให้อ่าน แต่ไม่รู้ว่าจะใช่หรือเปล่านะ สรุปไม่รู้อันไหนดี แต่ผมว่าเติมให้พอดีจะดีสุด
น้ำมันเครื่องเกินขีดจะทำให้...
-กินกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เปลืองเชื้อเพลิง
-น้ำมันเครื่องถูกอัดขึ้นส่วนบนมากทำให้น้ำมันเข้าไปเผาทิ้งมากกว่าปกติ
พวกร้านบริการมักจะทำอย่างนี้เพราะ
-คนที่ทำให้...ไม่รู้เรื่อง
-ตอนวัดปริมาณน้ำมันยังไม่ไหลลงมาอยู่ในอ่างทั้งหมด ทำให้วัดผิดๆ
-งี่เง่า...ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ถ้าเป็นคนที่รู้เรื่องจะเติมให้แค่ขีดล่างก่อน จอดรถทิ้งข้ามคืนก็จะลงมาเต็มขีดหรือใกล้เคียง
เอาไปให้ร้านเดิมถ่ายออกแต่ไม่ใช่ถ่ายทิ้งนะ ให้เขาเก็บใส่กระป๋องมาไว้เติมเมื่อขาดหรือเอาไปใช้งานอย่างอื่นๆได้ ตอนเครื่องร้อนเหลือแค่ขีดล่างก็พอ หลังจากนั้นก็เช็คเองตอนเช้าก่อนติดเครื่อง ขาดก็เติม ถ้าร้านเดิมคิดเงินก็ด่ากลับไปเลย เขาควรต้องจ่ายค่าน้ำมันที่เกินกับค่าแรงที่เราต้องจ่าย(ถ้าไปให้ร้านอื่นทำให้)
ถ้าจะให้ดีให้น้ำมันเครื่องอยู่กลางๆขีดบน-ล่าง ไม่กินน้ำมันเชื้อเพลิงและไม่กินน้ำมันเครื่อง
ไปก๊อบมาให้อ่านเหมือนกันไม่รู้จะอ้างอิงใครเพราะข้อความเหมือนกันหมดในหลายเวป
การวัดระดับน้ำมันเครื่องหลังจากที่ได้มีการวอร์มเครื่องยนต์แล้ว และรออีก 2 - 3
นาทีหลังจากทำการดับเครื่องยนต์ เมื่อทำการวัดระดับน้ำมันเครื่อง หากมีระดับน้ำมันเครื่องสูงเกินกว่าขีด
F ขึ้นไปมาก ควรทำการให้ช่างถ่ายออกมาครับ เพราะถ้าระดับของน้ำมันสูงเกินไป
จะมีผลต่อแรงดันภายในที่กระทำกับซีลต่างๆได้ หรือถ้าวัดแล้วขาดไปก็ควรทำการเติม
แต่ถ้าขาดหรือเกินไปนิดหน่อยถือว่าใช้งานได้ ส่วนระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
จะต้องทำการไล่ตำแหน่งเกียร์ก่อน โดยการติดเครื่องยนต์พร้อมทำการไล่เกียร์ จากตำแหน่ง P มาจนถึงตำแหน่ง
L แล้วไล่เกียร์จาก L ไปที่ P อีกครั้ง แล้วค้างไว้ที่ตำแหน่ง P ไม่ต้องดับเครื่องยนต์
ทำการวัดระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ โดยระดับที่ถูกต้องควรอยู่ที่ขีดบน
หากมีระดับน้ำมันเกินหรือขาดไปนิดหน่อยถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเกินหรือขาดไปมากควรทำการเติมหรือถ่ายออก
โดยให้ทางช่างเป็นผู้ดำเนินการให้ครับ..
อันนี้ก๊อบมาจากฝ่ายเทคนิคโตโยต้าพิธาน
ขอบคุณมากครับ
