ผู้ขับขี่หลายท่านคงจะเคยเจอว่าขณะขับรถยนต์ แล้วเกิดฝ้าที่กระจกบังลมหน้า ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผู้ขับขี่ก็ต้องกำจัดฝ้านั้นออกไป (ไม่ใช่ฝ้าบนใบหน้าของมนุษย์นะครับ) โดยการเปิดที่ปัดน้ำฝน (ถูกต้องนะคร๊าบ) เพื่อที่จะให้ไอน้ำ หรือ ฝ้าที่กระจกบังลมหน้าหลุดออกไป แต่เมื่อขับขี่รถยนต์ต่อไปก็เกิดขึ้นอีก เป็นอย่างนี้เรื่อยไป ผู้ขับขี่ก็ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเหมือนเช่นเคย ทำให้บางครั้งเสียสมาธิในการขับขี่ นอกจากนั้นไอน้ำหรือผ้าที่กระจกยังทำให้ทัศนะวิสัยของการมองไม่ชัดเจน ซึ่งอาจนำมาในการเกิดอุบัติเหตุได้
ในวันที่อากาศชื้น อย่าเป่าลมเย็นไปโดนกระจกบังลมหน้า เพราะจะทำให้กระจกเกิดฝ้าได้ เนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ระหว่างภายในกับภายนอกกระจกบังลมหน้าหรือห้องโดยสาร ถ้ารถยนต์คันไหนมีไอน้ำเกาะหรือไอเย็นของแอร์เกาะอยู่ที่กระจกบังลมหน้า ขอให้ตรวจสอบสวิทช์ของทิศทางแอร์ว่าถูกเปิดไว้หรือไม่ ถ้าไม่มีการเปิดอันนี้คงจะต้องให้ศูนย์บริการรถยนต์นั้นๆ เป็นผู้ตรวจสอบ เพราะอาจเกิดจากกลไกการทำงานจุดใดจุดหนึ่งขัดข้องหรือชำรุด และการที่จะกระทำด้วยตนเองถือว่ายากมาก ไหนจะเรื่องของอะไหล่อีก เป็นต้น ดังนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการเป็นดีที่สุดครับ
ผู้ขับขี่หลายท่านได้ทำความเข้าใจ กับคู่มือการใช้รถเกี่ยวกับฝ้าที่กระจกบังลมหน้า และในคู่มือการใช้รถยนต์ระบุไว้ว่าการไล่ฝ้าด้านในกระจกบังลมหน้า เพื่อให้ผลดีที่สุด ควรตั้งการทำงานดังต่อไปนี้
ตั้งความแรงพัดลม ไปที่ความแรงตามความต้องการ ยกเว้น OFF (ปิด)
ตั้งอุณหภูมิ ไปที่อุณหภูมิตามความต้องการ ยกเว้น OFF (ปิด)
ตั้งช่องอากาศเข้า ไปที่รับอากาศภายนอก
แต่ในทางปฏิบัติ การที่จะเปิดรับอากาศภายนอกนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ขับขี่จะไม่ทำกัน เพราะมลภาวะที่อยู่บนท้องถนน เช่น ฝุ่นควันต่างๆ จะเข้ามาภายในรถได้ ไหนจะเสี่ยงกับวัสดุที่จะเล็ดรอดเข้ามาภายในรถได้อีก เมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะถูกเป่าไปที่ตู้แอร์ วัสดุต่างๆเหล่านั้นก็จะไปค้างอยู่ที่ตู้แอร์ ทำให้ตู้แอร์เกิดการชำรุด (ตัน) แอร์ไม่เย็น สุดท้ายก็จะต้องเปลี่ยนใหม่ในที่สุด ซึ่งในรถยนต์สมัยใหม่นั้นในการบริการเกี่ยวกับแอร์รถยนต์นั้น จะใช้เวลาค่อนข้างนาน (เป็นวัน) ดังนั้น ทางผู้ขับขี่จะต้องระมัดระวังตรงจุดนี้ไว้ด้วย แต่ถ้าผู้ขับขี่มั่นใจว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะมีผลตามมา ก็สามารถกระทำได้ตามข้อความข้างต้นครับ
credit :
http://www.phithan-toyota.com/th/articledetail.php?article_id=174&category_id=2&read=1