กำของประเทศนี้ ที่มีผู้บริหารมีวิสัยทัศน์แบบนั้น มันลองนึกอะไรได้ ก็ออกเป็นกฎเป็นข้อบังคับออกมา จะกระทบใครก็ช่างหัวใคร มันไม่สนหรอก ซึ่งกฎระเบียบหรือกฎหมายรึอะไรตามแต่จะเรียกที่ว่า มันก็ไม่ได้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงแต่อย่างไร เพราะเด๋วอีกหน่อย ....บิดามันก็เปลี่ยนกฎใหม่อีกนั่นล่ะ ทีนี้ ใครที่เดือนร้อน ก็พวกเราประชาชนตาดำๆนี่ล่ะ
คนที่ออกกฎหรือออกมาให้สัมภาษณ์นี้ ถามหน่อยว่ามันใช้รถรุนอะไร แล้วรถมันมีไฟซีนอนติดมาจากโรงงานไหม สาเหตุน่าจะมาจากพวกที่มีอำนาจวาสนาปัญญาไม่ค่อยแข็ง ที่ขับรถสวนกับพวกเด็กแว้น แล้วมันเปิดไฟสูงใส่ ไม่ก็งี่เง่าขับรถไม่ลืมหูลืมตาเปิดไฟสูงแยงตาเขา รึสาเหตุไรก็ช่างหัวมันเหอะ ก็เลยหาวิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ กำ.....ไม่แบ.....กำ......
ผมขับรถไปทั่วไทย ปีหนึ่งๆเกือบแสนกิโลหรือกว่าแล้วแต่ภาระกิจ งานนี้ ..........
๑. ร้านรับติด ซวยไปตามๆกัน อาจกระทบกับโรงงานผู้ผลิต แต่อย่างหลัง รับรองเด๋วมันบีบหำบักที่พูดให้ยกเลิกไปเองล่ะพี่น้อง ไม่ต้องกัว
๒. รถที่ติดหรือดัดแปลงก็ต้องผวา ว่าวันไหนหนอ กรุจะโดนแจ๊คพ็อท เหอะๆๆๆๆ
๓. พวกหัวเห็ดก็ยิ้มหวาน ว่ากรุมีเครื่องมือหากินอีกชิ้นแระ เหอะๆๆๆๆๆ
๔. แล้วมริงจาเอามาตราฐานไรวัดว่าคันไหนสว่างมากเกินไป แสรด ดีแต่พูดดี งานนี้กรุว่า ล้านมาตราฐานแน่ๆ ซวยเลยใครโดนเข้า
๕. ไฟซีนอน หากมันเปิดแค่ไฟต่ำ มันก็ไม่ไปรบกวนใครหรอก ทำไมมิงไม่ออกกฎหมายว่า ไอ้ที่เปิดไฟสูง ให้จับมาปรับซะฟายจิงๆ งานนี้มาโดนด่าเละ (อย่างน้อยๆก็ตูคนหนึ่งล่ะฟ่ะ)ไอ้ปัญญาอ่อน มีวาสนาได้เป็นผู้บริหารบ้านเมือง แต่มิงเอาสมองซีกไหนคิดฟ่ะ รึว่าเอาส่วนอื่นคิด
ก็อีแค่ตั้งสติให้ดี สมาธิให้นิ่งๆ ต่อให้บิดามริงปิดไฟสูงใส่หน้ามาเต็มๆ มิงก็อย่าไปมองดิ ถือพวงมาลัยให้ตรงๆ แล้วก็เกาะเส้นกลางไว้ มิงก็ปลอดภัยแล้ว แสรด
แล้วก็รู้จักหัดหาแว่นตัดแสงใส่ขับรถเวลากลางคืนมาใส่ด้วย แค่นี้มิงก็แก้ปัญหาได้แร้ว ไม่เห็นต้องออกกฎเน่าๆมาให้ชาวบ้านเขาเดือนร้อนเลย แต่รถข้าพเจ้าบ่อมีซีนอนเด้อ กรุก็ใช้ของเดิมๆญี่ปุ่นนี่ล่ะก็สว่างจนเหลือเฟือแระ เหอะๆๆ แต่ก็อดด่าไม่ได้เว้ย ไปตายซะกฎเน่าๆ กรุไม่สนหรอก ยังไงมิงก็จับกรุไม่ได้ เพราะที่นี่เมืองไทยนะจ๊ะ