AE. Racing Club
04 มีนาคม 2568 19:34:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 [3] 4 5 ... 13  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: !!!ปั่นจักรยาน รักษาโรคได้นะครับ มาปั้นจักรยานกันครับ!!!  (อ่าน 50788 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 27 มีนาคม 2553 10:50:45 »

ฝึก “ปั่น” จักรยานเสือภูเขากันเถอะ (ก็อปเขามานะ) อาจจะมีประโยขนฺ์กะ เพื่อนๆบ้างนะ

ใครๆก็มักแต่จะหาซื้อจักรยานดีๆ ของแต่งแพงๆ มาใช้กัน แต่ลืมไปว่าพลังขับเคลื่อนที่จะให้จักรยานพาเราไปไหนต่อไหนนั้นก็ได้จากตัว เราเอง ทั้งการควบคุมบังคับให้สามารถลุยทางโหดๆกันได้ก็มาจากความชำนาญและไหวพริบ ของคนขี่อีกนั่นแหละ ดังนั้นใครที่มีจักรยานอยู่แล้วและอยากใช้ให้คุ้มก็ต้องมาฝึกพื้นฐานกำลัง กันก่อน ถ้าใครอยากหัดขี่ตามแม่น้องพิน ก็ต้องตั้งใจกันหน่อยนะคะ เราตั้งเป้าไว้ว่า ภายในหนึ่งเดือนเราจะต้องขี่จักรยานเสือภูเขากันได้คล่อง พร้อมกับมีร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือขาที่แข็งแรง พร้อมจะขี่จักรยานไปไหนต่อไหนได้สบายๆ ดังนั้นในแต่ละสัปดาห์จึงควรจะเจียดเวลามาขี่จักรยานกันให้ได้อย่างน้อย 4 วัน ครบหนึ่งเดือน ผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ก็จะมีพื้นฐานร่างกายที่ดี มีความชำนาญในการเล่นกับเกียร์ของจักรยานได้พอสมควร และแม้แต่หลังเดือนแรกนี้ไปแล้วเกิดได้ขี่จักรยานอีกแค่เดือนละครั้งสอง ครั้ง สภาพร่างกายของคุณก็จะยังพอจะรับกับการขี่จักรยานเที่ยวทั้งวันไหว คุ้มค่ากับการเสียเวลากับการปั่นจักรยานอย่างจริงจังตั้งเดือนแน่นอนค่ะ



บท เรียนที่หนึ่ง

สำหรับทุกคนที่ขี่จักรยานสองล้อเป็นแล้ว และเมื่อคุณได้มีโอกาสเป็นเจ้าของจักรยานเสือภูเขาดีๆซักคัน รับรองได้เลยว่ามากกว่าร้อยละ 90 จะต้องลองขี่กันให้สมใจอยาก …ผลที่ได้หรือคะ? สนุกแน่ แต่ระบม…ใช่หรือเปล่าเอ่ย? บางคนถึงกับเดินขาถ่างเป็นอาทิตย์ก็มีมาแล้ว ใครที่ยังไม่มีประสพการณ์ร้ายๆอย่างนั้น และได้มีโอกาสอ่านตำราจักรยาน หรืออย่างน้อยก็ข้อเขียนนี้ ก็ขอให้จำไว้เป็นบทเรียนด้วยค่ะ ว่าในครั้งแรกที่คุณได้มีโอกาสขี่จักรยานที่ได้รับการปรับตำแหน่งในการขี่ ที่ถูกต้อง ห้ามใช้เวลาอยู่บนอานจักรยานเกินกว่าครึ่งชม. ไม่มีการยกเว้นแม้แต่คุณจะใส่กางเกงขี่จักรยานโดยเฉพาะก็ตาม เนื่องจากสรีระของทุกคนจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับเบาะและ ตำแหน่งนั่งบนจักรยาน อย่าเพิ่งตะบี้ตะบันขี่นานๆ นอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ยังทำให้เกิดอาการแหยงไม่อยากขี่จักรยานอีกด้วยค่ะ

หลักง่ายๆที่แม่ น้องพินใช้ก็คือใช้นาฬิกาตั้งเวลาไว้15นาที แล้วก็ขี่จักรยานออกไปเรื่อยๆ(โดยใช้วิธีการปั่นในหัวข้อถัดไป) ครบ15นาทีตรงไหนก็ขี่กลับเส้นทางเดิม ถ้าไม่แวะไปเถลไถลที่ไหนก็จะใช้เวลาขี่ราวๆครึ่งชั่วโมงพอดี เราจะใช้เวลาบนจักรยานวันละครึ่งชั่วโมงนี้ประมาณ 4-5 วันหรือถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อยก็ซ้ำเป็น 6 วันติดๆกันเลยก็ดีค่ะ แต่หลังจากหมด 4-6 วันแรกนี้แล้วขอบังคับให้หยุดขี่ เอาโซ่ล่ามจักรยานไว้เลย 1-2 วันเพื่อเป็นการพักร่างกาย



หลัก การปั่นจักรยาน

อันนี้เป็นหลักการ “ปั่น” จักรยานที่ถูกต้อง ใช้ประกอบตั้งแต่บทเรียนที่หนึ่งไปจนจบหลักสูตรพื้นฐานเลยล่ะค่ะ เคยสังเกตุบ้างไหมคะว่าเวลาพูดชวนกันไปขี่จักรยาน หลายๆคน(โดยเฉพาะผู้สูงอายุ)มักใช้คำว่า “ไป ‘ถีบ’ จักรยานกัน” ลองมาดูความแตกต่างของสองคำนี้จะรู้ได้เลยว่ามันผิดกันที่ “ความเร็ว”ของขา เวลาเราขี่จักรยานให้ถูกต้องจึงต้องซอยขาปั่นกันยิกๆ ไม่ใช่ “ถีบ”ไปเรื่อยๆ

แล้วต้องซอยขากันเร็วแค่ไหนล่ะ? ตามสูตรที่แม่น้องพินฝึกก็คือ 80 รอบต่อนาที วิธีหัดก็คือขี่จักรยานด้วยเกียร์ต่ำ(ออกแรงขาน้อย แต่จักรยานไม่ค่อยวิ่ง ถ้าจักรยานของคุณมีเลขบอกเกียร์ที่มือสับเกียร์ ก็ลองปรับให้มือสับข้างซ้ายอยู่เลข2 มือสับข้างขวาอยู่เลข3) ขี่จักรยานด้วยความเร็วพอสมควร แล้วเริ่มจับเวลา(จะด้วยนาฬิกาข้อมือ,มาตรวัดความเร็วที่ติดจักรยาน หรือนาฬิกาแบบไหนก็ตามสะดวก) ใช้หัวเข่าขวาเป็นหลัก ทุกครั้งที่เข่าขวาขึ้นมาสุดก็ให้นับ 1 ขึ้นมาสุดอีกครั้งนับ2 ไปเรื่อยๆ จนครบ 15 วินาที นับได้กี่ครั้งก็คูณด้วย 4 จะได้จำนวนครั้งต่อนาทีที่ขาเราปั่นจักรยาน ก็มาดูว่าถ้าเกิน 80 ก็ชะลอขาลงหน่อยนึงแล้วก็นับใหม่อีก 15 วินาที หรือน้อยกว่า80ก็ซอยขาปั่นเร็วขึ้นอีกหน่อยนึงแล้วก็นับใหม่อีก 15 วินาที ลองจนกว่าจะนับเข่าขวาขึ้นมาสุดได้ 20 ครั้งใน 15 วินาที(ก็เท่ากับ 80 รอบต่อนาที) ก็ให้ปั่นด้วยความเร็วคงที่ขนาดนั้นไปให้ตลอดโดยไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ ถ้าใครไม่มีมาตรวัดความเร็วติดจักรยานก็คอยเช็คด้วยการจับเวลานับหัวเข่า อยู่เรื่อยด้วยนะคะ เพราะหัดปั่นขาเร็วขนาดนี้สำหรับคนไม่เคยจะบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า “เหนื่อยจัง” แล้วก็จะผ่อนความเร็วลงไปเพราะความไม่ชิน(ซึ่งเป็นกันทุกคน โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรกนี้) แต่เชื่อไหมคะว่าคนที่ใช้หลักสูตรเดียวกับแม่น้องพินนี่ เดี๋ยวนี้ปั่นกันเป็นปรกติที่ 85-90 รอบต่อนาทีกันทุกคน (รวมแม่น้องพินด้วย) โดยไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยหรือเร็วไปซักคนเลยค่ะ ขอให้ตั้งใจทำความเคยชินกับการซอยขาที่ 80 รอบต่อนาทีนี้ให้ได้นะคะเพราะสำคัญมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ถ้าตั้งใจกันแล้วก็จะคุ้นเคยในเวลาแค่ไม่เกินสัปดาห์เดียว ขาเราก็จะเคยชินกลายเป็นความจำโดยอัตโนมัติ คราวนี้แทบไม่ต้องนับหัวเข่ากันเลยค่ะ

การปฏิบัติสำหรับบทเรียนที่ หนึ่งนี้คือ

เลือกใช้เกียร์ให้ถูกต้อง(มือสับเกียร์ข้างซ้ายอยู่ เลข2-จานกลาง/มือสับเกียร์ข้างขวาอยู่เลข 2 หรือ 3) แล้วก็ใช้เกียร์นั้นไปตลอดโดยไม่มีการเปลี่ยนเกียร์
ปั่นขาที่80รอบต่อ นาทีให้ตลอดเวลา โดยไม่มีการฟรี หรือ หยุดรถ(ถ้าไม่จำเป็น) จนกว่าจะครบเวลา (ในสัปดาห์แรกนี้ก็คือครึ่งชั่วโมง)
หัดปั่นในทางราบ ไม่มีเนินเขา จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ สามารถปั่นขาที่ความเร็วคงที่,ออกแรงได้คงที่ ได้ตลอดเวลา
ออกไปฝึกปั่นแต่ละครั้งอย่าใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง สำหรับสัปดาห์แรกนี้ ถนอมส่วนพึงสงวนกันไว้ก่อนเถอะค่ะ ถ้าระบมเดี๋ยวจะฝึกขี่กันได้ไม่ต่อเนื่อง
ให้เวลาในการฝึกช่วงแรกนี้ 4-6 วัน ถ้าสามารถฝึกติดต่อกันได้ทุกวันจะทำให้ร่างกายชินกับจักรยานได้เร็วขึ้น จากนั้นพักการฝึก 1-2 วันโดยไม่มีการขึ้นขี่จักรยานเลย เป็นการจบการฝึกในช่วงแรก
สัปดาห์ที่สองใช้เกียร์เดิม ปั่นขาที่ 80 รอบต่อนาทีเท่าเดิม แต่เพิ่มเวลาในการขี่เป็นวันละไม่เกิน 1 ชม.(อย่าน้อยกว่า 45 นาที คงจะเจียดเวลาได้นะคะ) ฝึก 4-6 วันเหมือนเดิม แล้วก็หยุดพัก 1-2 วัน เป็นอันจบบทเรียนที่หนึ่ง
คำแนะนำสำหรับสอง สัปดาห์แรกนี้

จักรยานของคุณมีกี่เกียร์ลืมไปก่อนเลยค่ะ ใช้เกียร์ที่แม่น้องพินแนะนำให้ไปก่อน อย่าเพิ่งเล่นเกียร์
เวลาขี่ให้ หลังตรงอยู่เสมอ แล้วโน้มตัวไปหาแฮนด์ด้วยการใช้สะโพกเป็นจุดหมุน อย่าให้หลังค่อม
ดื่มน้ำทุก 15 นาที น้ำหนึ่งกระติก(เล็ก)ควรจะหมดในเวลาหนึ่งชั่วโมง
เพื่อป้องกันอาการเดิน ขาถ่าง ถ้าหาวาสลินได้สะดวก(ซื้อได้ตามร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป) ก็จัดการทาให้ทั่วขาหนีบ แล้วค่อยใส่กางเกง
หลังจากการขี่จักรยานทุก ครั้งให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กางเกงจักรยานที่เพิ่งใช้ให้ซักทันที อย่าทิ้งข้ามวันข้ามคืน ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคซักด้วยก็ดี แล้วตากให้แห้งสนิท(ไม่ควรตากแดด)ก่อนเก็บเสมอ


บทเรียนที่สอง

ผ่าน การฝึกมา 2 ยกแล้ว ถึงตอนนี้ร่างกายของแต่ละคนก็ควรจะชินกับท่าทางในการปั่นจักรยานกันแล้ว ระบบการทำงานต่างๆในร่างกายก็ควรจะดีขึ้นด้วย กล้ามเนื้อขาที่ใช้ในการปั่นขาจาน(หรือถีบลูกบันได)ก็ได้รับการโปรแกรมให้ ปั่นที่ความเร็วรอบสูงแล้ว คราวนี้เรามาเริ่มออกกำลังกันจริงๆล่ะค่ะ ที่ผ่านมาสองสัปดาห์นั่นแค่อุ่นเครื่องเท่านั้นเอง

หัดใช้เกียร์

จักรยาน เสือภูเขาสมัยนี้(หรือจะเป็นรุ่นเก่าๆก็ตาม)จุดเด่นก็เห็นจะอยู่ที่มีเกียร์ เยอะแยะนี่ล่ะค่ะ อีทีนี้จะใช้เกียร์ไหนตอนไหนใช้ยังไงนี่สิ ไม่ค่อยเห็นมีใครบอกกันให้ชัดๆเลย แต่ถ้าใครมาเข้าโปรแกรมฝึกของแม่น้องพินแล้วคราวนี้เล่นไม่ยาก เพราะขาเราจะชินกับการปั่นที่ 80 รอบต่อนาทีกันแล้ว ก็ยึดรอบขานี้ไว้เป็นหลักนะคะ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่เกียร์ไหน-ความเร็วเท่าไร ก็ให้รักษารอบการปั่นไว้เท่านี้เสมอ (ยกเว้นแต่จะขี่ช้าๆดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ)

แล้วจะใช้ยังไงบ้าง? ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับการทำงานของอุปกรณ์ติดจักรยานคันเก่งของเรากันก่อน มาดูกันที่มือสับเกียร์ทั้งข้างซ้ายและขวา ตัวเลขน้อยคือเกียร์ที่ใช้กับความเร็วต่ำ(แต่ใช้แรงน้อย) ตัวเลขมากใช้กับความเร็วสูง(แต่ต้องออกแรงมาก) มือสับข้างขวาจะใช้ในการเปลี่ยนแนวโซ่ไปยังเฟืองขนาดต่างๆที่ล้อหลัง เฟืองเล็กคือเกียร์สูง(ตัวเลขมาก-ต้องออกแรงมาก) เฟืองใหญ่คือเกียร์ต่ำ(ตัวเลขน้อย-ออกแรงน้อย) การเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือขวานี้จะให้ความเร็วในแต่ละเกียร์ไม่กระโดดต่างกัน มาก ซึ่งการเปลี่ยนเกียร์ในการขับขี่โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้มือขวานี้เป็นหลักล่ะ ค่ะ

เราจะเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือขวานี้ตามความเร็วของจักรยาน เช่น จากหยุดอยู่กับที่เริ่มออกตัวก็ควรจะใช้เกียร์1 พอขี่ไปหน่อยเริ่มมีความเร็วก็เปลี่ยนเป็นเกียร์2 เร็วขึ้นอีกก็เปลี่ยนเป็นเกียร์3 ไปเรื่อยๆ เวลาลดความเร็วลงมาก็ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงมาด้วยเช่นกัน จนรถหยุดก็จะอยู่ที่เกียร์1 เหมือนตอนเริ่มต้นขี่ แต่เวลาใช้งานจริงๆแล้วเกียร์หนึ่งนี่จะเบามากเกินไป เรามักจะเริ่มออกรถกันที่เกียร์สอง หรือ สาม กันมากกว่า เรื่องที่ต้องจำตรงนี้คือระบบเกียร์ของจักรยานส่วนใหญ่จะทำงานต่อเมื่อมีการ ขับโซ่ให้หมุนไปข้างหน้าเท่านั้น ดังนั้นเวลาชะลอความเร็วแล้วต้องเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ต่ำก็ให้ปั่นบันไดเดิน หน้าไปด้วยไม่งั้นเกียร์ไม่เปลี่ยนให้หรอกค่ะ

มาดูมือสับเกียร์ข้าง ซ้ายกันบ้าง ข้างนี้จะเปลี่ยนแนวโซ่ไปยังจานโซ่ซึ่งมี 3 ขนาด เล็ก-กลาง-ใหญ่ จากขนาดที่ต่างกันมากนี้ทำให้ความเร็วของแต่ละเกียร์ต่างกันมากด้วย การที่จะเลือกใช้จานโซ่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทางที่เราจะไป เช่น จานเล็กสุด(เกียร์หมายเลข 1 )ก็เอาไว้ใช้ในทางที่ไปได้ด้วยความเร็วต่ำแต่ต้องการกำลังมากๆ อย่างช่วงที่ต้องขึ้นเขา หรือ ลุยโคลนลึกๆ จานใหญ่สุด(เกียร์หมายเลข3 )ก็เอาไว้ใช้ในช่วงที่ต้องการความเร็วสูง เช่น ตอนลงเขา และสำหรับทางในป่า หรือ สภาพทางทั่วๆไปเราก็จะใช้จานโซ่ใบกลาง(เกียร์หมายเลข2)เป็นหลัก ถ้าใครใช้รถยนต์อ๊อฟโร้ดขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็ให้นึกง่ายๆว่าจานเล็กสุดก็คือเกียร์ 4L จานกลางก็คือเกียร์ 4H หรือ Full Time 4WD ส่วนจานใบใหญ่ก็คือเกียร์ 2H นั่นแหละค่ะ ใช้เหมือนกันเลยทีเดียวแหละ

การปฏิบัติสำหรับบทเรียนที่สองนี้คือ

เริ่ม ด้วยการใช้จานโซ่ขนาดกลาง(มือสับเกียร์ข้างซ้ายชี้เลข2) มือสับข้างขวาชี้เลข2เช่นกัน เราจะใช้แต่เกียร์ที่มือขวาเท่านั้นนะคะ มือสับเกียร์ข้างซ้ายปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ต้องไปยุ่งอะไร
ออกรถ ปั่นไปจนกว่าขาจะซอยอยู่ที่ 80 รอบต่อนาทีหรือมากกว่า แล้วเปลี่ยนเกียร์ที่มือขวาเป็นเกียร์3 รอบขาของเราจะตกลงมาต่ำกว่า 80 รอบต่อนาที
เร่งซอยขาจนได้ 80 รอบต่อนาทีหรือมากกว่า แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์4 รอบขาจะต่ำกว่า 80 รอบอีกแล้ว
เร่งซอยขาจนได้ 80 รอบต่อนาทีหรือมากกว่า แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์5 พยายามซอยขาขึ้นมาที่ 80 รอบต่อนาทีอีก แล้วคงความเร็วขนาดนั้นไว้ซักพักนึง ถึงตรงนี้คุณจะมีทางเลือก 3 ทาง ทางแรก คุณยังมีแรงเหลือเฟือแล้วก็อยากไปเร็วขึ้นอีก ก็เปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้นได้เรื่อยๆ ทางที่สอง คุณอยากปั่นด้วยความเร็วขนาดนี้แหละ ก็รักษารอบขาไว้ประมาณนี้ ทางที่สาม คุณรู้สึกเหนื่อยและต้องออกแรงที่ขามาก ก็ให้ลดเกียร์ต่ำลงมาหนึ่งเกียร์ และพยายามคงรอบขาไว้แถวๆ 80 รอบต่อนาที
ใช้วิธีซอยขาให้ได้ประมาณ 80-90 รอบต่อนาทีนี้ แล้วถามความรู้สึกของขาคุณเองว่าเกียร์ที่ใช้อยู่นั้นหนักไป(ใช้เกียร์สูง ไป) หรือ เบาไป(ใช้เกียร์ต่ำไป) แล้วก็เปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงทีละ 1 เกียร์ให้พอดีกับแรงขา
ดื่มน้ำทุก 10-15 นาที พอ1/2 ชม.ก็จอดพักซักหน่อย แล้วก็เริ่มปั่นกลับบ้าน
การฝึกในช่วงสัปดาห์ที่ สามนี้ พยายามใช้เวลาให้ได้ 60-90 นาทีต่อวัน ครบ 4-6 วันแล้วก็อย่าลืมพักเต็มๆอีกวันก่อนการฝึกในช่วงที่สี่ด้วยนะคะ

ฝึก ความชำนาญในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือขวานี้ให้คล่องในทุกๆเกียร์
คำแนะนำ สำหรับการหัดใช้เกียร์

มือสับเกียร์ข้างซ้ายอย่าเพิ่งไปเล่นนะคะ ใช้สมาธิกับการใช้เกียร์ที่มือขวาก็พอแล้ว
พยายามใช้ให้หมดทุก เกียร์(มือขวา) จับความสัมพันธ์ของเกียร์กับความเร็วในแต่ละเกียร์ และกับแรงที่ต้องใช้
รักษารอบขาให้อยู่ในช่วง 80-90 รอบต่อนาทีตลอดการฝึก
จะเลือกใช้เกียร์ไหนก็ให้ถามขาของคุณเองแหละค่ะ ว่าเบาไป หรือ หนักไป
เวลาเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งให้ผ่อนแรงถีบบันไดลง แต่อย่าหยุดปั่น จะทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้น
อย่าเพิ่งขึ้นเขา รอให้ฝึกสำเร็จก่อนค่ะ


บทเรียนที่สาม

สัปดาห์ที่สี่นี้ เราจะมาลองใช้มือสับเกียร์ข้างซ้ายกันบ้างนะคะ ขาของแต่ละคนก็น่าจะมีแรงพอจะปั่นด้วยจานโซ่ใบใหญ่สุดได้สบายๆ ช่วงที่สี่นี้เราจะค่อนข้างฟรีสไตล์ ขอให้คุณๆทำความรู้จักกับจักรยานเสือภูเขาคันเก่งของคุณให้ได้มากที่สุด เวลาในการขี่ในแต่ละวันไม่จำกัด ขออย่าให้น้อยกว่า 90 นาทีเป็นใช้ได้

การ ปฏิบัติสำหรับบทเรียนที่สาม

ปั่นจักรยานด้วยความเร็วพอสมควรใน เกียร์ 3 หรือ 4 แล้วใช้มือซ้ายเปลี่ยนเกียร์จาก 2 ไป 3 ผ่อนแรงถีบบันไดเล็กน้อย สังเกตุดูรอบขาด้วยนะคะว่าตกมาเยอะแค่ไหน
ลอง ซอยขาขึ้นไปที่ 80-90 รอบต่อนาทีลองเปลี่ยนเกียร์ที่มือขวาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ออกแรงปั่นเยอะหน่อยนะคะ ดูซิว่าที่เกียร์สูงสุดนั้นคุณจะยังปั่นขาที่ 80 รอบต่อนาทีได้มั๊ย? ถ้าได้-นานแค่ไหน?ก่อนจะหมดแรง
ลองเปลี่ยนเป็น เกียร์ต่ำดูบ้าง เปลี่ยนเกียร์ไปที่เลข1 ทั้งสองข้าง ชะลอความเร็วลงมาจนเกือบหยุด ลองปั่นขาดู
ลองเกียร์ให้ครบทุกตำแหน่งนะ คะว่ารู้สึกอะไรบ้าง การเปลี่ยนเกียร์ยาก-ง่ายแค่ไหน? การออกแรงขาเป็นอย่างไร?
เลี่ยงภูเขา ดื่มน้ำ พักผ่อน เหมือนที่เคยฝึกกันมา
เมื่อจบช่วงที่สี่นี้ก็เท่ากับว่าคุณๆทั้งหลายได้ ปูพื้นฐานที่ดีสำหรับการเป็นนักเล่นจักรยานเสือภูเขาอย่างเต็มตัวแล้วนะคะ คุณๆจะมีทักษะและกำลังขาในการปั่นจักรยานไปไหนๆได้สบาย ใครที่ติดมาตรวัดระยะทางไว้ด้วยก็ลองดูซิคะว่าคุณใช้ระยะทางไปทั้งหมดเท่า ไหร่ในการปูพื้นฐานให้ขาของคุณ ของแม่น้องพินเองจำได้ว่าต้องปั่นร่วมๆ 800 กม. และหลายๆคนที่ฝึกแบบเต็มที่ส่วนใหญ่จะได้ระยะทางมากกว่า 1,000 กม.ในเวลาแค่เดือนเดียว! อย่าลืมว่าการฝึกขั้นพื้นฐานเป็นเรื่องสำคัญมากในการก้าวขึ้นไปสู่ขั้นที่ สูงขึ้น อย่างใครที่เคยเรียนเทนนิสอย่างถูกต้องก็คงจำได้นะคะว่าต้องรำไม้เปล่าๆกัน อยู่ตั้งหลายนานกว่าจะได้ลงตีลูกจริงๆ หรืออย่างนักกอล์ฟก็ต้องหมั่นซ้อมวงสวิงกันอยู่ตลอด เพราะพื้นฐานที่ถูกต้องเหล่านี้แหละที่จะนำเราไปสู่การพัฒนาระดับฝีมือที่ สูงขึ้นค่ะ แต่ละอาทิตย์ถ้าไม่มีเวลาที่จะขี่จักรยานกันได้ทุกวัน ก็ขอให้ใช้วันหยุดของคุณไปในการปั่นจักรยานไกลๆ (มากกว่า 60 กม.)ซักวัน เพื่อรักษาสภาพความพร้อมของร่างกายไว้ให้ได้มากที่สุด ต่อไปเป็นคำถามที่มักจะถามกันบ่อยๆเกี่ยวกับโปรแกรมการฝึกนี้ค่ะ

ทำไม ต้องซอยขาที่ 80 รตน.หรือมากกว่า?

เหตุผลมีหลายอย่างค่ะ

อย่าง แรกเลยก็เพราะต้องการให้หัวเข่าปลอดภัยจากอาการบาดเจ็บ อย่าลืมว่าต้องปรับตำแหน่งและความสูงของเบาะให้ถูกต้องด้วยนะคะ เพราะถ้าหากปรับเบาะไม่ถูกต้องแล้ว การซอยขาเร็วก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก การปั่นซอยขาได้เร็วเป็นตัวชี้ว่าขาเราออกแรงไม่มากจนเกินไป แรงกดที่กระทำต่อกระดูกหัวเข่าชิ้นต่างๆจึงไม่มากนักด้วย การสึกหรอก็น้อยตาม และจากการตั้งตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องกับรอบขาที่สูงโดยที่แรงกดไม่มากนี้จะทำ ให้ชิ้นส่วนต่างๆของหัวเข่าได้ขัดถูกันอย่างดี การเคลื่อนไหวของหัวเข่าก็จะราบลื่นตามไปด้วย

อย่างที่สองคือลดหรือ เลี่ยงอาการบาดเจ็บ หรืออาการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของขา จากเหตุที่ว่าขาเราไม่ต้องออกแรงมากไงคะ กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั้งหลายก็พลอยสบายไปด้วย ผลพลอยได้จากการที่กล้ามเนื้อไม่ต้องออกแรงเค้นมาก และการซอยขาที่สม่ำเสมอไม่มีการกระแทกกระทั้นเหมือนกีฬาอย่างอื่น ทำให้กล้ามเนื้อขาของนักจักรยานที่ฝึกตามสูตรนี้มีรูปทรงที่สวย ไม่ปูดโปนอย่างนักฟุตบอลหรือนักวิ่งแน่นอนค่ะ(สาวๆทั้งหลายสบายใจได้)

เหตุผล อย่างที่สามมาจากห้องวิจัยด้านกีฬา(ของฝรั่ง)ว่า การซอยขาปั่นจักรยานที่ 80-90 รตน.นี้เป็นช่วงที่เราได้ประสิทธิภาพโดยรวมจากร่างกายมากที่สุด คือได้กำลังจากขามากแต่ขณะเดียวกันก็ใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อน้อย และการขจัดกรดแลคติคที่เป็นของเสียจากการออกกำลังของกล้ามเนื้อก็มีอัตราที่ สูง พูดง่ายๆว่าถ้าให้ใครซักคนทานอาหารที่ปริมาณเท่าๆกันแล้วปั่นจักรยาน การใช้รอบขา 80-90 รตน.นี้จะไปได้ไกลที่สุดก่อนจะหมดแรงหรือล้าจนปั่นไม่ไหว เมื่อเทียบกับการที่ใช้รอบขามากหรือน้อยกว่านี้น่ะค่ะ

เหตุผลที่ สี่ก็มาจากห้องแล็บอีกแหละค่ะ คือว่าการปั่นขาที่ 80-90 รตน.นี้จะสามารถเร่งความเร็วขาขึ้นไปที่รอบสูงได้ดีกว่าการปั่นขาที่รอบต่ำ กว่านี้ และสามารถส่งต่อเกียร์ที่สูงขึ้นได้ดีกว่า พูดง่ายๆว่าเร่งแซงได้เร็วขึ้นกว่าการปั่นขาที่รอบต่ำ ถ้าเทียบเป็นรถยนต์ก็ลองดูสิคะว่าจากความเร็ว 60 กม./ชม.ขึ้นไปที่ความเร็ว 100 กม./ชม.นั้น ถ้าใช้เกียร์สี่จะกินเวลาเท่าไหร่? แล้วลองใช้เกียร์สามที่ต้องใช้รอบสูงขึ้นจะใช้เวลาน้อยลงแค่ไหน พอจะเห็นภาพกันหรือเปล่าคะ?

เหตุผลข้อสุดท้ายคือเป็นการถนอมระบบขับ เคลื่อนของจักรยานคันเก่งของเราให้ทนขึ้น ซึ่งก็คล้ายกับเหตุผลข้อแรกนั่นแหละค่ะแต่มาประยุกต์ใช้กับจักรยานแทน แค่ห้าข้อนี่ก็น่าจะจูงใจให้มาหัด “ซอยยิกๆ” กันบ้างแล้วนะคะ

ทำไม ต้องดื่มน้ำเยอะ

กีฬาจักรยานเป็นกีฬาที่มีอะไรแปลกๆหลายอย่าง อย่างนึงก็คือเรื่องดื่มน้ำนี่แหละค่ะ คนที่ขี่จักรยานส่วนใหญ่ถ้าแดดไม่ร้อน หรือขี่อยู่แค่ใกล้ๆก็จะไม่ค่อยนึกถึงเรื่องกระหายน้ำกัน เหตุก็เพราะขณะที่เราขี่จักรยานฝ่าอากาศไปนั้น ลมที่มาปะทะตัวเราจะพาเหงื่อให้ระเหยไปอย่างรวดเร็ว เราจึงไม่รู้สึกร้อน แล้วก็พลอยไม่กระหายน้ำไปด้วย ไม่เหมือนกีฬาอย่างอื่นที่เล่นอยู่กับที่และการเคลื่อนที่ผ่านอากาศก็ไม่ต่อ เนื่องเช่น เทนนิส บาสเกตบอล ฯลฯ ที่พอหยุดเคลื่อนไหวแล้วจะรู้สึกร้อนวูบขึ้นมาทันที ก็เลยต้องหาน้ำดื่มคลายร้อนกันโดยอัตโนมัติ แต่อย่าลืมว่าขณะที่เราออกแรงปั่นจักรยาน ร่างกายก็ต้องเกิดความร้อนขึ้นเช่นกัน แล้วความร้อนนี้ก็ถูกควบคุมโดยน้ำในร่างกายที่ออกมาเป็นเหงื่อ เราจึงต้องทดแทนน้ำส่วนที่เป็นเหงื่อนี้ด้วยการดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปเช่นกัน ไม่เช่นนั้นหากเสียน้ำในรูปของเหงื่อหรือปัสสาวะมากเกินไปก็จะเกิดอันตราย ได้ ดังนั้นจึงควรฝึกดื่มน้ำในขณะขี่จักรยานให้เยอะๆไว้จนเป็นนิสัยค่ะ

ทำไม ต้องมีวันหยุดพัก,ฝึกปั่นทุกวันไม่ได้หรือ?

ก็มีหลายเหตุผลอีกแหละ ค่ะ หนึ่งคือเพื่อเป็นการปรับร่างกายให้เคยชินกับการฝึก จากการทดลองของฝรั่งเค้าพบว่า ถ้าตะบี้ตะบันฝึกทุกวันแล้ว อัตราการก้าวหน้าในการปรับตัวของร่างกายจะไม่ค่อยดี สู้ฝึกๆหยุดๆไม่ได้ ซึ่งจากการทดลองก็เลยพบเหตุที่สองคือสภาพที่เรียกว่า “โอเวอร์เทรนนิ่ง” (Overstraining) หรือคืออาการโทรมจากการฝึกซ้อมมากเกินไปน่ะค่ะ สภาพนี้จะทำให้ประสิทธิภาพของร่างกายตกต่ำลงอีกต่างหาก และอาจเกิดอันตรายด้วยหากยังดันทุรังฝึกหนักต่อไป ไว้จะมาแจงรายละเอียดกันเมื่อมีโอกาสนะคะ หรืออาจต้องขอความรู้จากนักวิชาการตัวจริงให้มาช่วยวิสัชนากันหน่อย

ทำไม ต้องให้รีบซักชุดที่ขี่จักรยาน?

เหตุผลก็คือไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของ เชื้อโรคไงคะ เพราะทั้งเหงื่อ ทั้งฝุ่น ทั้งขี้ไคล ขี้โคลน ฯลฯ จะทำให้ชุดเก่งของคุณๆเป็นแหล่งอาหารอันสมบูรณ์ของแบคทีเรียทั้งหลาย ไม่เชื่อก็ลองทิ้งไว้ไม่ซักสิคะ ไม่เกิน3วันเท่านั้นแหละ…เป็นศพ..เอ๊ย!..กลิ่นตลบ คราวนี้ถ้าซักไม่สะอาดจริงชุดของคุณโดยเฉพาะเป้ากางเกงก็จะเป็นบ้านอันแสน สุขของเหล่าแบคทีเรีย เวลาปั่นจักรยานครั้งต่อไปเมื่อขาหนีบของคุณเสียดสีกัน ไม่ต้องถึงกับเป็นแผลหรอกค่ะ แค่เป็นรอยถลอกบางๆเท่านั้นแหละ เจ้าแบคทีเรียทั้งหลายก็จะเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังของคุณ แล้วก็ขยายตัวก่อให้เกิดอาการอักเสบ-ระบมขึ้นไงคะ

ผมเล่นจักรยานมา นานแล้ว จำเป็นที่จะต้องมาเริ่มโปรแกรมปั่นพื้นฐานของมือใหม่นี้ด้วยหรือเปล่า?

โปรแกรม นี้มีจุดประสงค์ที่จะปูพื้นฐานที่ถูกต้องให้กับผู้ที่รักจะเล่นจักรยาน(ทุก ชนิด)ในแบบที่ถูกต้อง ก็ลองถามตัวคุณเองดูนะคะว่าคุณได้เริ่มต้นเล่นจักรยานมาอย่างถูกต้องหรือ เปล่า? โดยการดูว่า 1)ร่างกายของคุณปรับตัวเข้ากับจักรยานได้ดีหรือไม่? 2)ในการขี่จักรยานโดยปรกติคุณใช้รอบขาสูง 80-90 รตน.หรือไม่? 3)คุณใช้เกียร์ได้คล่องและถูกต้องหรือไม่? ถ้าคุณตอบ “ไม่” ตั้งแต่หนึ่งข้อขึ้นไปแล้วคุณอยากจะเล่นจักรยานให้ได้ดีไม่มีการบาดเจ็บจาก การออกกำลัง แม่น้องพินก็คิดว่าคุ้มค่าที่คุณจะมาเริ่มฝึกใหม่ตามโปรแกรมค่ะ

ขณะฝึกตามโปรแกรม จะหยุดพักได้บ่อยแค่ไหน?

หยุดพักได้ เมื่อคุณขี่ได้ครึ่งหนึ่งของเวลาที่คุณตั้งใจจะขี่ค่ะ อย่างเช่นถ้าคุณอยู่ในช่วงแรกของบทเรียนที่หนึ่ง คุณก็จะหยุดพักได้เมื่อขี่ไปแล้ว 15 นาที แต่ในขณะที่ปั่นอยู่ใน15นาทีนั้น อย่าหยุดปั่นขาบ่อยหรือไม่ควรหยุดปั่นขาเลย (ยกเว้นในจุดที่ต้องชะลอความเร็ว เช่น ตามทางแยก หรือ ต้องเหล่หนุ่ม-เหล่สาว ฯลฯ) เพราะการซอยขาตลอดเวลาจะทำให้กล้ามเนื้อขาของเรา “จำ” การซอยขาที่ 80 รตน.นี้ได้เร็วขึ้น และทำให้ระบบการหายใจ,การเผาผลาญอาหาร ฯลฯ ของร่างกายทำงานได้คงที่ด้วยซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายของเราเองค่ะ แต่ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ ดังนั้น จงหยุดพักได้บ่อยเท่าที่คุณอยากจะพักนั่นแหละค่ะ ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าตัวคุณเองหรอก
...เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง... (ก๊อปเขามา)

จาก www.thaimtb.com
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
AE80
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,427


2E-TE


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 27 มีนาคม 2553 11:02:05 »

โปรแกรมการฝึกจะมีสองแบบครับ
แบบที่ 1 HR heart rate ช่วยฝึก
แบบที่ 2 watt

ผมจะลงแบบแรกให้โหลดนะครับ
การฝึกแบ่งเป็นขั้น สำหรับเราๆทั่วไป ไม่ได้แข่งขันก็แค่ tempo ก็พอ
1.Active Recovery
2.Endurance
3.Tempo

รับรองได้ว่าฝึกตามนี้ ออกทริป 70-80 กิโล สบายๆ
http://www.yousendit.com/transfer.php?action=batch_download&batch_id=THE0eUNEY1NqV0JFQlE9PQ

ตารางฝึกนี้ผมได้จากคุณยอด www.thaimtb.com อดีตนักกีฬาทีมชาติครับ
ขอบคุณครับ....
บันทึกการเข้า

aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 27 มีนาคม 2553 11:24:13 »

ปั่นจักรยานไม่ใช่แค่ร่างกายแข็งแรง
อย่างอื่นก็แข็ง....จนน้องหลง











กล้ามเนื้อนะครับ อย่าคิดลึก
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
AE80
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,427


2E-TE


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 28 มีนาคม 2553 00:34:14 »

ปั่นจักรยานไม่ใช่แค่ร่างกายแข็งแรง
อย่างอื่นก็แข็ง....จนน้องหลง




กล้ามเนื้อนะครับ อย่าคิดลึก
อันนี้จริงครับ...
บันทึกการเข้า

>> OaTzy << SZ#013
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,901


[SZ#013]


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 28 มีนาคม 2553 09:32:18 »

ปั่นอยู่ครับ สมัยร่างเพรียว สัปดาห์ ไม่ต่ำกว่า 100 กม.


สมัยนี้ สัปดาห์ ไม่ถึง 10 กม. ครับ 555

ยังปั่นอยู่นะ

มาดิลุง ปั่นกัน เส้นเลียบด่วนดีมะ Grin Grin

อยู่แถวนี้  เช้าวันอาทิตย์ไหน ที่ว่างๆ  ก็ไป จัสโก้พัฒนาการ นะ    เด๋วป๋า พาทัวร์ อย่างถึงใจ  ไม่ต้องไป เรียบด่วนหรอก  ปั่นไม่หนุกแล้ว เพราะรถจอดขวาง ทางปั่นเยอะ  

ปล. ถ้า คืนพรุ่งนี้  (เสาร์27) ว่า่ง  พี่จะปั่นเข้าเมือง สนป่ะ ออกซักประมาณ 1 ทุ่น จบ กลับน่าจะ เที่ยงคืน- ตี1 ถ้าสน ป๋าจัดให้

 อารมณ์ดี + ตังค์เหลือ  จะ ขนไป ปั่นกับ น้า AE80 ที่นครนายกแล้วกัน พวก สามหลั่น อะไรพวกนี้

รอก่อน ๆ รถยังไม่ได้ แต่อีกไม่กี่วัน แล้วยางมันเส้นหนาหนืด ๆ กินแรง ต้องรอลงยางเล็ก ๆ ก่อน ต้องฟิตตัวใหม่ก่อน ไม่ได้ปั่นมา 5-6 ปีละ เมื่อก่อนบ้าขี่ขึ้นดอยสุเทพอยู่พักนึง Grin Grin

อยากได้มากกคันนี้ แต่ตังไม่ถึง 555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 มีนาคม 2553 10:12:30 โดย >> OaTzy << SZ#013 » บันทึกการเข้า

อุบัติเหตุไม่ใช่เวรกรรม . . . . แต่เป็นการกระทำของเทอร์โบ !!!   
aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 28 มีนาคม 2553 19:58:53 »

kuma เป็นเฟรมระดับกลางของ เบียงคี่ (อาจกระเดียดมาทางล่างหน่อย) แต่ปั่นดี
เฟรมพุ่งใช้ได้ครับ อาจไม่เท่าตัว top รุ่นพี่ แต่ถ้าไม่มองยี่ห้อมากนัก ลองปั่น merida สิครับ
ไม่ต้องเติมแรงมาก ปั่นอยู่ในระดับแล้วนิ่งดี
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 11:57:23 »

ปั่นอยู่ครับ สมัยร่างเพรียว สัปดาห์ ไม่ต่ำกว่า 100 กม.


สมัยนี้ สัปดาห์ ไม่ถึง 10 กม. ครับ 555

ยังปั่นอยู่นะ

มาดิลุง ปั่นกัน เส้นเลียบด่วนดีมะ Grin Grin

อยู่แถวนี้  เช้าวันอาทิตย์ไหน ที่ว่างๆ  ก็ไป จัสโก้พัฒนาการ นะ    เด๋วป๋า พาทัวร์ อย่างถึงใจ  ไม่ต้องไป เรียบด่วนหรอก  ปั่นไม่หนุกแล้ว เพราะรถจอดขวาง ทางปั่นเยอะ   

ปล. ถ้า คืนพรุ่งนี้  (เสาร์27) ว่า่ง  พี่จะปั่นเข้าเมือง สนป่ะ ออกซักประมาณ 1 ทุ่น จบ กลับน่าจะ เที่ยงคืน- ตี1 ถ้าสน ป๋าจัดให้

 อารมณ์ดี + ตังค์เหลือ  จะ ขนไป ปั่นกับ น้า AE80 ที่นครนายกแล้วกัน พวก สามหลั่น อะไรพวกนี้

รอก่อน ๆ รถยังไม่ได้ แต่อีกไม่กี่วัน แล้วยางมันเส้นหนาหนืด ๆ กินแรง ต้องรอลงยางเล็ก ๆ ก่อน ต้องฟิตตัวใหม่ก่อน ไม่ได้ปั่นมา 5-6 ปีละ เมื่อก่อนบ้าขี่ขึ้นดอยสุเทพอยู่พักนึง Grin Grin

อยากได้มากกคันนี้ แต่ตังไม่ถึง 555+



โอว รถพี่ ยางเล็กสุด 2.3 เองอ่ะ  เล็กกว่านี้ไม่มีแล้ว มีแต่ใหญ่กว่า
บันทึกการเข้า
~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,930


: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 12:35:08 »

รันเวย์สนามบินก็สนุกครับ
แถวปั๊ม ปตท. ลานจอดรถระยะยาว ใส่กันมันๆ AV 25-35 ยาวๆ

AV 25-35 แม่จ้าว ว !! Max เท่าไหร่ครับเนี่ย 

ใช้ Merida ตัวไหนครับ ใส่ยางเรียบรึเปล่า 
บันทึกการเข้า

aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 13:43:31 »

รันเวย์สนามบินก็สนุกครับ
แถวปั๊ม ปตท. ลานจอดรถระยะยาว ใส่กันมันๆ AV 25-35 ยาวๆ

AV 25-35 แม่จ้าว ว !! Max เท่าไหร่ครับเนี่ย 

ใช้ Merida ตัวไหนครับ ใส่ยางเรียบรึเปล่า 

max(หมอบ) ขาแรงอยู่ที่ 40+ ครับ ทางมันสั้น เรียบ ตรง รอบละ 10 กม.
ส่วนผม av(MTB) อยู่ที่ 28-30 บางครั้งก็ 32 ส่วนมากอยู่ที่ 28 วิ่งสามรอบ 30 กิโล

ใส่ยางทางเรียบครับ 1.5 ใช้ merida matts5 D คอนนี้เหลือแต่เฟรม รอโบนัสออก จะไปสอย HFS 4000 มาครอบครอง
เฟรมอะไรไม่รู้ ปั่นมันชมัด ตอนแรกจะออกเบียงคี่ พอมาลอง HFS เปลี่ยนใจเลย แถมมีถอนตั้งครึ่งหมื่น
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,930


: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 14:36:32 »

อีกครึ่งหมือนเอาไว้เติม Group Set ของ XTR ได้เลยล่ะ...โบนัสดีจริงๆ  


แก้ครับ "หมื่น" มะใช่ หมือน !?

ว่าแต่...ตอนนี้ SLX กำลังมานะครับ เกรดขั้นกลางระหว่าง XT กับ XTR (แต่ผมว่ายังไง XT ก็สวยกว่านะ  )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 มีนาคม 2553 17:02:04 โดย yellow_NOBITA » บันทึกการเข้า

aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 15:00:33 »

อีกครึ่งหมือนเอาไว้เติม Group Set ของ XTR ได้เลยล่ะ...โบนัสดีจริงๆ 

XTR ไม่ไหวครับ แพงไป ตอนนี้ก็ XT พอใจแล้ว 
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
>> OaTzy << SZ#013
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,901


[SZ#013]


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 19:40:19 »

พรุ่งนี้จะไปเอารถแล้วนะลุงรอง เสาร์นี้ไปไหนดี Grin Grin Grin ขี่ไปปั๊มกันมะ 555+

ขี่รอน้องด้วยนะ ห่างหายไปนาน โฮ่ ๆ ๆ ๆ     
บันทึกการเข้า

อุบัติเหตุไม่ใช่เวรกรรม . . . . แต่เป็นการกระทำของเทอร์โบ !!!   
aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553 23:39:36 »

SLX ผมใช้แต่จานหน้า มันคุ้มค่าดี ใจก็อยากได้ XT เป็น group set เลย
แต่ตอนนั้น งบหมดเลยได้แค่จานหน้า slx

รอ 30 speeds shimano สำหรับ MTB อยู่ครับ หุหุหุ

ไม่ได้รอซื้อนะครับ แค่รอดู
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 30 มีนาคม 2553 08:59:46 »

พรุ่งนี้จะไปเอารถแล้วนะลุงรอง เสาร์นี้ไปไหนดี Grin Grin Grin ขี่ไปปั๊มกันมะ 555+

ขี่รอน้องด้วยนะ ห่างหายไปนาน โฮ่ ๆ ๆ ๆ     

วันเสาร์ตูทำง๊านนนนน.....  ถ้าว่างแวะมาที่ทำงานตรูจิ   จักรยานอยู่ที่ทำงาน
บันทึกการเข้า
Far_3S_GTE
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,177


FORGE inside


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 30 มีนาคม 2553 10:36:50 »

พรุ่งนี้จะไปเอารถแล้วนะลุงรอง เสาร์นี้ไปไหนดี Grin Grin Grin ขี่ไปปั๊มกันมะ 555+

ขี่รอน้องด้วยนะ ห่างหายไปนาน โฮ่ ๆ ๆ ๆ     

วันเสาร์ตูทำง๊านนนนน.....  ถ้าว่างแวะมาที่ทำงานตรูจิ   จักรยานอยู่ที่ทำงาน

ปั่นมารับฟาร์หน่อยดิ่เพ่  จะใส่โรเลอร์เบลดเกาะหลังไป ปั่นลากไปถึงเชียงรายเลยนะ เดี๋ยวเสบียงจะใส่รถคาราวาน พ่วงหลังจักรยานพี่ไปด้วย
บันทึกการเข้า

AE80
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,427


2E-TE


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #55 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553 01:09:55 »

SLX ผมใช้แต่จานหน้า มันคุ้มค่าดี ใจก็อยากได้ XT เป็น group set เลย
แต่ตอนนั้น งบหมดเลยได้แค่จานหน้า slx

รอ 30 speeds shimano สำหรับ MTB อยู่ครับ หุหุหุ

ไม่ได้รอซื้อนะครับ แค่รอดู
แล้วโซ่มันจะเหลือเล็กกว่าเดิมป่าวครับ...
บันทึกการเข้า

Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553 08:46:03 »

พรุ่งนี้จะไปเอารถแล้วนะลุงรอง เสาร์นี้ไปไหนดี Grin Grin Grin ขี่ไปปั๊มกันมะ 555+

ขี่รอน้องด้วยนะ ห่างหายไปนาน โฮ่ ๆ ๆ ๆ     

วันเสาร์ตูทำง๊านนนนน.....  ถ้าว่างแวะมาที่ทำงานตรูจิ   จักรยานอยู่ที่ทำงาน

ปั่นมารับฟาร์หน่อยดิ่เพ่  จะใส่โรเลอร์เบลดเกาะหลังไป ปั่นลากไปถึงเชียงรายเลยนะ เดี๋ยวเสบียงจะใส่รถคาราวาน พ่วงหลังจักรยานพี่ไปด้วย

มาเด๊ะ  ก้า เกาะ ก็ก้า ปั่น    เชียงราย ไม่ไหว เอาเป็น หน้าหมู่บ้านก็พอมั๊ง นังหมวย
บันทึกการเข้า
Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553 08:46:39 »

SLX ผมใช้แต่จานหน้า มันคุ้มค่าดี ใจก็อยากได้ XT เป็น group set เลย
แต่ตอนนั้น งบหมดเลยได้แค่จานหน้า slx

รอ 30 speeds shimano สำหรับ MTB อยู่ครับ หุหุหุ

ไม่ได้รอซื้อนะครับ แค่รอดู
แล้วโซ่มันจะเหลือเล็กกว่าเดิมป่าวครับ...

โห  แล้วมันจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ป่ะ คับเนี่ย
บันทึกการเข้า
aunt_101
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะสู้ต่อไป...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553 09:16:35 »

SLX ผมใช้แต่จานหน้า มันคุ้มค่าดี ใจก็อยากได้ XT เป็น group set เลย
แต่ตอนนั้น งบหมดเลยได้แค่จานหน้า slx

รอ 30 speeds shimano สำหรับ MTB อยู่ครับ หุหุหุ

ไม่ได้รอซื้อนะครับ แค่รอดู
แล้วโซ่มันจะเหลือเล็กกว่าเดิมป่าวครับ...

โห  แล้วมันจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ป่ะ คับเนี่ย

เห็นแว่วๆว่าจะออกกลางปี เดือน มิ.ย. อ่ะครับ เพราะผู้บริหารชิมาโน่ที่ญี่ปุ่นมาเมืองไทย
แล้วผมไปเจอที่ Bike station พัฒนาการ เลยแอบฟังไปหน่อย

โซ่บางกว่า 27 speeds แน่นอน แต่ราคาแพงแน่นอน
แถมต้องเปลี่ยนโม่อีก ชุดเกียร์ทั้งหมด ใช้ได้แค่สับจานกับจานหน้ามั้งครับ
ตอนนี้ผมก็อยากรู้อัตราทดเฟืองเหมือนกันว่าทั้งสิบเฟืองหลัง มีกี่ฟัน เวลาเปลี่ยนคงนุ่มนิ่มทุกเกียร์
หุหุหุ

ใครสนใจเฟรมคาร์บอนราคา 1x,xxx ของใหม่ๆ ไม่เคยประกอบบ้างครับ เห็นขายใน www.thaimtb.com
บันทึกการเข้า


รับลั่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม ฯลฯในเครือห้างเซนทรัล โรบินสัน ส่วนลด 10-30% ไม่ต้องรอ Sales 
 Benetton,Casualist, Daniel Hechter, Evoluzine, FCUK, FILA, G2000, Hush Puppies, Jockey, John Henry ETC.
AE80
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,427


2E-TE


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553 10:42:06 »

SLX ผมใช้แต่จานหน้า มันคุ้มค่าดี ใจก็อยากได้ XT เป็น group set เลย
แต่ตอนนั้น งบหมดเลยได้แค่จานหน้า slx

รอ 30 speeds shimano สำหรับ MTB อยู่ครับ หุหุหุ

ไม่ได้รอซื้อนะครับ แค่รอดู
แล้วโซ่มันจะเหลือเล็กกว่าเดิมป่าวครับ...

โห  แล้วมันจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ป่ะ คับเนี่ย

เห็นแว่วๆว่าจะออกกลางปี เดือน มิ.ย. อ่ะครับ เพราะผู้บริหารชิมาโน่ที่ญี่ปุ่นมาเมืองไทย
แล้วผมไปเจอที่ Bike station พัฒนาการ เลยแอบฟังไปหน่อย

โซ่บางกว่า 27 speeds แน่นอน แต่ราคาแพงแน่นอน
แถมต้องเปลี่ยนโม่อีก ชุดเกียร์ทั้งหมด ใช้ได้แค่สับจานกับจานหน้ามั้งครับ
ตอนนี้ผมก็อยากรู้อัตราทดเฟืองเหมือนกันว่าทั้งสิบเฟืองหลัง มีกี่ฟัน เวลาเปลี่ยนคงนุ่มนิ่มทุกเกียร์
หุหุหุ

ใครสนใจเฟรมคาร์บอนราคา 1x,xxx ของใหม่ๆ ไม่เคยประกอบบ้างครับ เห็นขายใน www.thaimtb.com
เฟรมตัวที่ไม่มีลายเลยใช่ป่าวครับ เข้าไปดูอยู่เหมือนกันครับ...
บันทึกการเข้า

หน้า:  «  1 2 [3] 4 5 ... 13  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!