ปั่นรอบโลกถวายในหลวง

ฝรั่งหัวใจไทยชื่อ 'นายอิสระ'
ด้วยวัย 44 คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายคนหนึ่งจะปั่นจักรยาน รอบโลก หากร่างกายและจิตใจไม่กล้าแกร่งพอ แต่ภารกิจนี้เพื่อ พ่อหลวง
หัวใจฝรั่งคนนี้ยอมรับว่า มีเกินร้อย ในการทุบสถิติเดิมที่ จูเลี่ยน ซาเยอร์ ได้ปั่นจักรยานรอบโลก 28,970 กิโลเมตร ในเวลา 165 วัน
ผู้ที่จะทำลายสถิติครั้งใหม่คือ อลัน เบท (นายอิสระ) นักปั่นน่องเหล็กจาก เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน
ได้พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทำให้ฝรั่งคนนี้หลงรักเมืองไทยและประทับใจในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จนทำให้เขาเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนไทยใช้นามใหม่ว่านายอิสระ

การปั่นจักรยานเพื่อทำลายสถิติครั้งนี้ นายอิสระ ตั้งเป้าปั่นให้ได้ไกลกว่าสถิติเดิม 500 กิโลเมตรในเวลาที่เร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้แน่นอน
ผมว่าพ่อสุดยอดที่สุด ผมรักพ่อ นายอิสระ กล่าวถึงถ้อยคำที่พูดกับเพื่อนคนไทยและชาวต่างชาติอยู่เสมอ
ในการชื่นชมพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สะท้อนผ่านโครงการหลวง จนทำให้ฝรั่งอย่างเขา รักในหลวง
และพร้อมฝากชีวิตที่เหลือไว้ในอ้อมกอดของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ในฐานะประชาชนชาวไทยของ พ่อหลวง
จากการอยู่เมืองไทยมา 3 ปี จนได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทยมีลูกชาย 1 คน นายอิสระ มองว่า
พระราชกรณียกิจหลายสิ่งที่ในหลวงได้ทรงมีพระราชดำริต่างมุ่งเน้นพัฒนาให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
ตนและครอบครัวก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่ได้รับประโยชน์จากพระราชกรณียกิจ จึงอยากตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ
จึงคิดโครงการปั่นจักรยานรอบโลกเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เพราะเป็นสิ่งที่ถนัดและสามารถทำให้ชาวโลก รู้จักประเทศไทยได้
ตอนแรกที่มาเมืองไทยไม่เคยรู้ถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงมาก่อน แต่พอนานเข้าเพื่อนและภรรยาเล่าให้ฟัง
และเข้าไปชมโครงการพระราชดำริต่าง ๆ จึงรู้สึกปลาบปลื้มในน้ำพระทัย ของพระองค์ที่เห็นได้จาก เมื่อ 30 ปีก่อนในภาวะที่โลกเกิดวิกฤติน้ำมัน
พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟ ทั้งที่มีทางเลือกในการเสด็จพระราชดำเนินทางรถและเครื่องบิน แต่พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงภาวะวิกฤติเหล่านั้น

ทุกวันนี้ นายอิสระ อาศัยอยู่กับลูกและภรรยาใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย
การปั่นจักรยานรอบโลกถวายในหลวงก็เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อประชาชนชาวไทย
และหวังจะให้การเดินทางครั้งนี้เป็นอีกแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยรุ่นใหม่ในการก้าวมาเป็นนักกีฬาที่มีประสิทธิภาพ
ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้สอนเด็กท้องถิ่นเพื่อให้ก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปั่นจักรยานเพื่อถวายในหลวงเพราะที่ผ่านมา 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2549
ปั่นจากเชียงใหม่-กรุงเทพฯ 760 กิโลเมตรใช้เวลา 26.04 ชั่วโมง ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2550
ปั่นจากภูเก็ต-กรุงเทพฯ ระยะทาง 860 กิโลเมตร ใช้เวลา 29.15 ชั่วโมง และครั้งที่ 3
ปั่นจาก อ.เชียงของ เข้าตัวเมืองเชียงราย 105 กิโลเมตร ด้วยเวลา 2.42 ชั่วโมง สามารถทำลายสถิติโลกได้ทั้งหมด
แต่ การปั่นรอบโลกครั้งนี้ เสมือนการเป็นตัวแทนคนไทยเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมและบอกเล่าพระราชกรณียกิจของในหลวง ที่มีต่อประชาชน
ขณะเดียวกันก็มีคำถามตามมาถึงเหตุผลที่นักปั่นตาน้ำข้าวผู้นี้อยากเป็นคนไทย
ซึ่งหากเป็นไปได้การทำลายสถิติโลกในครั้งนี้จึงอยากจดในฐานะคนไทยที่ชื่อ นายอิสระ ประชาชนผู้รักในหลวงและทำให้คนทั่วโลก
ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยานรอบโลกได้รู้จักวัฒนธรรมไทยมากขึ้น

ผมอยากใช้ชื่อไทยว่า นายอิสระ เพราะปัจจุบันคนเกิดมาพร้อมประสาทสัมผัสที่เย้ายวนให้คนหลงในวัตถุจนเกินไป
แต่จากประสบการณ์ ปั่นจักรยานมาหลายแห่งในเมืองไทยได้เห็นความงดงามหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ทำให้รู้สึกชีวิตมีอิสระ
สำหรับการปั่นจักรยานรอบโลกในครั้งนี้จะเริ่มสตาร์ตในวันที่ 31 มีนาคม 2553 ช่วงเวลา 20.00 น. บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
โดยก่อนออกเดินทางจะไปร่วมลงนามถวายพระพรในหลวงที่ รพ.ศิริราช พร้อมทีมงานเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางก่อนจะปั่นจักรยานลงใต้ของไทย
สู่มาเลเซีย สิงคโปร์ นั่งเครื่องบินไปลงยังเมืองเพิร์ท และปั่นไปที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
ต่อยังเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ปั่นต่อไปที่เมืองซานฟรานซิสโกและนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา สู่เมืองฮาลิแฟกซ์
ทะลุอเมริกาใต้ ไปยังอาร์เจน ตินา อุรุกวัย บราซิล โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ข้ามฝั่งสู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แล้วย้อนไปฝรั่งเศสสู่เนเธอร์แลนด์
เบลเยียม เยอรมนี ตุรกี ลัดเลาะไปถึงเมืองอัมริตสาร ทางตะวันออกของ ประเทศอินเดีย ต่อไปถึงเมืองกัลกัตตา ตบท้ายด้วยปั่นระยะทาง 5 กิโลเมตรในพม่า
มุ่งตรงสู่เมืองเชียงของประเทศไทย แล้วมาสิ้นสุดที่กรุงเทพฯ

เส้นทางที่ยากในการปั่นจักรยานครั้งนี้อยู่ที่ออสเตรเลีย เพราะเป็นระยะทางไกลและมีอุปสรรคของภูมิประเทศมากมาย
โดยตอนนี้ตนพยายามใช้หลักจิตวิทยาในการไม่หาข้อมูลของพื้นที่เพิ่มเพื่อให้เวลาปั่นจะได้ไม่รู้สึกท้อ
และเชื่อว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาน่าจะช่วยให้ผ่านไปได้ ส่วนเส้นทางสหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี
เป็นระยะทางที่ไกลมีภูเขาซึ่งไม่เหมาะกับการปั่นจักรยานจึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง และเส้นทางที่น่าเป็นห่วงอีกที่คือ
ช่วงสุดท้ายในการปั่นเข้ากรุงเทพฯ เป็นช่วงที่ล้ามากที่สุดเพราะจะปั่นแบบไม่หยุด
ไม่ว่าสุดท้ายจะปั่นจักรยานรอบโลกสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ได้ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทย
เพื่อให้ชาวโลกเห็นถึงความงดงามของประเทศและรับรู้ถึงพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยม ไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชน
จึงอยากให้คนไทยร่วมเชียร์ ซึ่งตลอดการเดินทางจะมีการสื่อสารผ่านเฟซ บุ๊ก ไฮไฟว์และเว็บไซต์ตลอดการเดินทางเพื่อให้คนไทยและคนทั่วโลกได้รับรู้ถึงการ ทำลายสถิติในครั้งนี้ และขอขอบคุณ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ที่เป็นสปอนเซอร์ ในการเดินทางครั้งนี้
นายอิสระ หรือ อลัน เบท เริ่มปั่นจักรยานมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ด้วยความที่ครอบครัวอัตคัดเพราะพ่อและน้องมีความพิการ
ภาระทุกอย่างจึงตกมาอยู่ที่แม่ซึ่งมีอาชีพเพียงพนักงานทำความสะอาด ซึ่งความฝันของเขาถูกจุดประกายขึ้นด้วยนายจ้างในร้านซ่อมจักรยานที่เขาเป็นลูกจ้าง
ทั้งที่เริ่มแรกเขาคลั่งไคล้กีฬารักบี้จนหัวปักหัวปา แต่ในที่สุดนายจ้างในร้านจักรยานเห็นแววเลยพาเขาปั่นจักรยานไปบนยอดเขาแห่งหนึ่งของเมืองลิเวอร์พูล
ประเทศอังกฤษ เพื่อดักรอดูการแข่งขันปั่นจักรยาน และเมื่อแสงไฟของรถนำทางแยงตาและตามมาด้วยนักแข่งจักรยานหลายคัน
เสียงโซ่และเกียร์จักรยานปลุกเร้าให้เด็กอย่างเขาเปลี่ยนฝันจากนักรักบี้กลายมาเป็นนักปั่น จนช่วงแรกพ่อโกรธมาก
แต่พ่อก็ยิ้มออกเมื่อลูกคว้ารางวัลชนะเลิศการปั่นจักรยานได้ และหลังจากนั้นก็ได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ แข่งขันในรายการต่าง ๆ ทั่วโลก
ชาวไทยยังคงต้องคอยลุ้นกับภารกิจครั้งสำคัญของ นายอิสระ ว่าจะสามารถทำลายสถิติเดิมได้หรือไม่
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เห็นในดวงตาของเขาคือ ความมุ่งมั่นและศรัทธาต่อในหลวง.
ที่มาจาก Daily News Online ไม่รู้ไปถึงใหนแล้ว นายอิสระ เอาใจช่วยครับ

