ขอเสริมนิดนึงน่ะครับ คือที่โรงงานผมก็ใช้น้ำในการผลิตอาหารทะเลส่งออก และยังผลิตน้ำให้กับพนักงานทั้งหมดในโรงงานกินด้วย
ผมดูแลเรื่องนี้มาร่วม10ปีแล้วครับ
เรื่องของน้ำจะเน้นอยู่4เรื่องหลักๆ 1.เรื่องสี 2. เรื่องกลิ่น 3.เรื่องความกระด้าง 4. เรื่องความสกปรก
ที่โรงงานก็ใช้อยู่เป็นระบบ RO.ครับ ก็จะมีใส้กรองคาร์บอน ไว้กรองกลิ่น ใส้กรองเรซิ่น ไว้กรองความกระด้าง
เมมเบรนไว้กรองแร่ธาตุอื่นๆอีกชั้น และสุดท้าย ก็UVครับในเรื่องของตัวเมนเบรนก็สามารถกรองเชื้อได้ในระดับหนึ่ง
แต่ที่ต้องใช้UVด้วยก็เพราะเมื่อกรองออกมาแล้วต้องเก็บในสต๊อกแท๊งค์เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
แต่เมื่อเก็บในสต๊อกแทงค์ระยะเวลานึงปริมาณเชื้อ ก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกจึงจำเป็นต้องใช้UVช่วย แต่ในส่วน
บ้านที่อยู่อาศัยที่ต่อจากเครื่องกรองเลยไม่จำเป็นต้องมีUVก็ได้ครับ
มาตรฐานของผลเชื้อน้ำดื่ม อยู่ที่ 5x10กำลัง2 หรือ500ตัว ซึ่งจริงๆคนเรารับเชื้อจากทางอื่นมากว่านี้อีก
พอดีที่โรงงานมีแลปอยู่ครับ น้ำที่โรงงานต้องผ่านแลปอย่างน้อย1ครั้งต่อสัปดาห์
ส่วนที่บ้านผมเองก็ใช้Ro.ธรรมดาครับไม่มีUVซื้อมาเกือบ4000ได้ ก็อาศัยถอดล้างทั้งกรองคาร์บอน กรองเรซิ่น
ส่วนเมมเบรนก็เปลี่ยนตามอายุของมันขึ้นอยู่กับความกระด้างของน้าที่ใส่เข้าไป ผมเคยเอาน้ำที่บ้านไปให้แลปที่โรงงานตรวจ
ยังผ่านมาตรฐานเลย เจอประมาณ400กว่าตัวได้
อันนี้ผมแค่มาแชร์ประสปการณ์น่ะครับ เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ขายเครื่องกรองทั้งหลายยังไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
หรือถึงรู้ก็อาจจะไม่บอกกับผู้ซื้อ พอดีเคยมีเซลมาเสนอขายกับพี่ข้างบ้านวันนั้นผมอยู่บ้านพอดีก็เลยได้มีโอกาสนั่งฟังด้วย
ผมก็เลยถามเค้าไป2-3ข้อเค้าก็ตอบไม่ได้ แต่ก็บอกว่าจะหาคำตอบมาให้จนทุกวันนี้ยังไม่มาตอบเลย ผมไม่ได้ต่อต้านอะไรทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องจะเลือกอะไรนั้นไม่สามารถบอกได้ครับขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน
