นี่คือการกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งของรถสปอร์ตเจ้าแห่งตำนานที่เคยได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของรถดริฟท์ การถือกำเนิดขึ้นภายใต้อนุพันธุ์ของรถอย่างAE86 โดยค่ายToyota ใช้รหัสรุ่นว่า FT86G Sport Concept...
โครงการสร้างรถสปอร์ตสองประตู เครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลังของ Toyota ห่างหายจากวงการรถยนต์นานกว่า16ปีแล้ว จากรุ่นสุดท้ายทีี่ Toyota เคยผลิตออกขายคือ Supra รหัส JZA80 ที่ออกมาทำตลาดในช่วง 1994-1997 ทั้งนี้ไม่นับรถอย่าง Toyota MR2และMRS ที่เป็นรถ Roadster ขนาดเล็กสองที่นั่งเครื่องวางกลางขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ Celica T23 ซึ่งเป็นรถ Coupe เครื่องวางตามขวางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อคู่หน้าและซุปเปอร์คาร์ตัวล่าสุดจากLexus ในรุ่น LFA ซึ่งเป็นรถที่ผลิตแบบลิมิเต็ทอิดิชั่น แต่ทั้งรถทั้งสามโมเดลของ Toyota ก็ไม่อาจนับได้ว่ามันคือประวัติศาสตร์ของรถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับ Supra หรือ AE86 ที่ได้สร้างสมรรถนะในการขับขี่และพลังของเครื่องยนต์เอาไว้ในยุค 1980-1990 แผนงานในการออกแบบและสร้างรถสปอร์ตที่จะเข้ามาสานต่อตำนานของทาคูมิและรถ AE86 สุดยอดนักดริฟท์กับรถขับหลังตัวเจ็บที่แฟนๆ ของ Toyota ถวิลหาโครงการสร้างรถสปอร์ตที่มีพื้นฐานเดียวกันกับรถรุ่น AE86 จึงได้เริ่มต้นขึ้นโดยใช้ชื่อรุ่นว่า Toyota FT86G Sport Concept ซึ่งใช้รูปแบบของตัวรถ การวางเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนคล้ายกับเจ้า AE86 พาหนะของทาคูมิการ์ตูนรถแข่งสุดฮิตกับสุดยอดรถดริฟท์ในยุค 80'
Toyota AE86
การแข่งขันรถยนต์ในรูปแบบดริฟท์ (Drift) ของประเทศญี่ปุ่นได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ขาซิ่งจำนวนมหาศาลและระบาดไปทั่ววงการมอเตอร์สปอร์ตมานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุค 1980 คงหนีไม่พ้นเจ้า Toyota AE86 ซึ่งความนิยมชมชอบดังกล่าวเกิดขึ้นจากความคิดส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อที่ว่า รถ Drift อย่าง AE86 เป็นรถที่มีพื้นฐานเหมาะสมกับการนำมาขับสาดโค้งเนื่องจากตำแหน่งการวางเครื่องยนต์และการขับเคลื่อนตลอดจนแรงม้าและแรงบิดที่มีความสมดุลย์มากกว่ารถรุ่นอื่นในยุคนั้นจวบจนถึงปัจจุบันนี้คนญี่ปุ่นเริ่มเก็บเป็นคลาสสิกกันแล้ว ส่วนหนึ่งก็คงมาจากตำนานในเรื่องความเป็นที่สุดของรถ Drift รวมไปถึงรูปทรงที่ดูดีมากกว่ารถสปอร์ตรุ่นอื่นๆที่ผลิตออกมาในช่วง 80' รถ Toyota AE86 ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ รุ่นที่มีไฟหน้าแบบ POP-UP จะเรียกว่า Toyota Trueno แต่ถ้าเป็นไฟหน้าแบบธรรมดา จะเรียกว่า Toyota Levin
Body Work And Design
Toyota FT86 ถูกสร้างขึ้นมาในรูปของรถสปอร์ตต้นแบบสองรุ่นคือรุ่น FT86 ตัวถังแบบปกติ และ รุ่น FT86G Sport Conceptตัวถังติดตั้งอุปกรณ์ชุดแต่งเต็มพิกัดแบบรถแข่ง รถต้นแบบ FT86 ทั้งสองคันได้รับการออกแบบโดยทีมออกแบบของบริษัทดีไซน์รถยนต์ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ตัวถังของมันมีกลิ่นไอของรุ่น AE86 เพียงแค่การวางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้าและขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง รูปทรงแบบ Sport Coupe ถูกออกแบบให้มีภาพลักษณ์ของรถจากยุโรปแนว GT ผสมผสานอยู่บนงานตัวถัง สปอยเลอร์หน้าขนาดยักษ์ตามสมัยนิยมที่่เหนี่ยวนำเอามวลกระแสของอากาศมาระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำ และ ชุดเบรคหน้า อินเตอร์คูลเลอร์ใบเขื่องซ่อนอยู่ภายใต้กันชน แต่มองเห็นได้อย่างเด่นชัดแบบจงใจตามสไตล์รถแรงของพี่ยุ่นซึ่งวัยรุ่นบ้านเราทำตามกันมานมนานแล้ว ชายล่างของสปอยเลอร์หน้าที่มุมซ้าย-ขวา ทำเป็นครีบรีดอากาศคล้ายกับรถ Audi ไฟหน้าโปรเจคเตอร์-ซีนอนพร้อมคิ้วไฟหรี่ด้านบนหรือไฟ Day-Light ใช้หลอดแบบ LED ที่ให้แสงสว่างโทนสีฟ้าและช่วยเสริมมุมมองด้านหน้าให้มีความดุดันมากยิ่งขึ้นยามเข้าไปดูดท้ายรถคันข้างหน้า
Body Work And Design
FT86G Sport Concept มีฝากระโปรงหน้าสไตล์ GTR เซาะร่องระบายความร้อนแบบตัวแข่งในสนาม แนวด้านข้างของตัวถังเน้นความสวยงามด้วยการใช้แนวเส้นข้างคล้ายรถ Ferrari 599 GTB ผสมกับ Nissan GTR 2009 ที่ถูกดึงโป่งล้อทั้งสี่ให้ดูอวบขึ้นทั้งบังโคลนหน้าและซุ้มล้อหลัง เสาAและเสาC ใช้ความลาดเอียงของกระจกหน้าและกระจกหลังเป็นตัวกำหนดความเป็นสปอร์ตของรูปทรงด้านข้างที่ออกแบบได้อย่างไม่มีที่ติ ด้านหลังใช้รูปแบบของไฟท้ายทรงยาวหลอดLED วิงหลังคาร์บอนที่ติดอยู่เหนือฝากระโปรงหลังสามารถปรับองศาได้และสปอรเลอร์หลังพร้อมท่อไอเสียสแตนเลสคู่ ชายล่างของสปอยเลอร์หลังที่มุมทั้งสองข้างทำเป็นช่องระบายอากาศ สมแล้วกับงานดีไซน์ตัวถังที่ใช้ทีมวิศวกรจากยุโรปทั้งหมดและขอบอกอีกครั้งว่ามันดูดีมากจริงๆ
Subaru 2.0 Boxer Engine
Toyota FT86G มีพัฒนาการของเครื่องยนต์ตลอดจนรูปแบบในการวางลงไปในตัวต้นแบบร่วมกับค่าย Subaru โดยนำเอาเครื่องยนต์สูบนอนแบบ Boxer ของค่ายหมู่ดาวมาวางลงไปในห้องเครื่องยนต์ของเจ้า FT86G แบบไม่แยแสสนใจเสียงนินทาว่าร้ายของแฟนๆ ทาทูมิในการนำเอาเครื่องยนต์ที่มิไช่สายพันธุ์รถสปอร์ตของค่ายสามห่วงมาใช้ ทั้งๆที่ Toyota เองก็มีแผนกมอเตอร์สปอร์ตอย่าง TRD กับเครื่องยนต์ตัวแรงมากมายทั้งแบบสี่สูบ หกสูบแถวเรียงหรือV6 ติดระบบอัดอากาศแบบซุปเปอร์ชาร์ทหรือเทอร์โบเช่นเครื่องยนต์ในตระกูล 4A-GZE, 3S-GTE,1JZ -2JZ GTE Toyota FT86G จะใช้เครื่องยนต์ Boxer 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่หยิบยืมมาจาก Subaru Impreza WRX โดยกำลังจะถูกส่งไปยังล้อหลังผ่านเกียร์ธรรมดาอัตราทด 6 จังหวะ ส่วนในตัวรถที่จะผลิตออกขายจะใช้เครื่องของToyota ที่พัฒนาขึ้นเองจากแผนกมอเตอร์สปอร์ตในยุโรปซึ่งอาจเป็นเครื่องV6ทวินเทอร์โบที่มีแรงม้ามากกว่า 300 ตัว
Cockpit
แทบไม่เชื่อสายตาว่าค่ายสามห่วงจะเปลี่ยนแปลงการออกแบบภายในห้องโดยสารของFT86 G Sport Concept จากรูปแบบเดิมๆของ Toyota ที่ดูแล้วน่าเบื่อกลับกลายมาเป็นงานดีไซน์ที่ล้ำไปในอนาคตอย่างยิ่งยวด ความงดงามของรายละเอียดภายในที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี หน้าปัด และอุปกรณ์ภายในของตัวต้นแบบทำเอาแฟนรถสปอร์ตจากฝั่งยุโรปถึงกับตกตะลึงในความงามอลังการ ส่วนแฟนพันธุ์แท้ของ Toyota ต่างก็พากันคาดหวังว่าตัวรถที่จะผลิตจริงคงจะถูกเปลี่ยนแปลงรายละเอียดไปจากรถต้นแบบเพียงเล็กน้อย กรอบหน้าปัดทรงรีสีเงินล้อมรอบวงหน้าปัด ด้านขวามือเป็นวัดรอบแบบดิจิตอลใจกลางบอกความเร็วของรถเป็นระบบตัวเลข เพื่อการอ่านค่าที่ง่ายขึ้น ด้านซ้ายมือบอกตำแหน่งเกียร์ด้วยตัวเลขเรืองแสงสีแดง ใจกลางเป็นจอ LED มัลติฟังชั่นที่คอยแจ้งเตือนระบบต่างๆ ของตัวรถ และ ปรับเป็นจอมอนิเตอร์เพื่อใช้กับกล้องด้านหน้า-หลัง ส่วนที่โดดเด่นอยู่ตรงรูปทรงห้าเหลี่ยมของช่องแอร์ทั้ง6 ช่องและวงพวงมาลัยสามก้านที่มีดีไซน์คล้ายกับพวงมาลัยรถแข่ง เบาะคู่หน้าทรงอวกาศแถมยังมีพื้นที่เล็กๆของเบาะด้านหลังอีกด้วย กระปุกหัวเกียร์ทรงกลมทำเลียนแบบรถ Type R ด้วยการใช้หนังโทนสีเทากับการเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดงซึ่งลามไปถึงด้ามเบรคมือด้วย งานนี้ต้องยกประโยชน์ให้กับทีมออกแบบจากยุโรปที่บรรจงสร้างผลงานระดับสูงและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของลูกค้า
FT86G Sport Concept Wheels
FT-86 คันต้นแบบรุ่นมาตรฐานวิ่งบนล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้วลายห้าก้านสีเงินมีขอบด้านในของก้านทั้งห้าเป็นวัสดุประเภทเคฟล่าประกบเอาไว้เพื่อความสวยงามแปลกตา ส่วนล้อของรุ่น FT86G Sport Concept ที่ติดตั้งชุดแต่งแบบเต็มยศมีขนาด 19 นิ้วเท่ากันแต่เป็นลายสิบก้านคู่ขอบแดง-ดำ ก้านสีเงินประกบกับเคฟล่าตรงก้านเพิ่มความดุดันให้สมกับเป็นตัวแข่งและมีมุมมองที่โหดกว่ารุ่นปกติ ล้อของทั้งสองรุ่นห่อหุ้มด้วยยางขนาด 225/40R19 ที่ล้อคู่หน้าและ245/40/R19 ที่ล้อคู่หลังโดยใช้ยางBridgestone Potenza RE050A จานดิสเบรคขนาด 320 มิลลิเมตรถูกประกบด้วยคาร์ลิปเปอร์เบรคสีเงินแบบ4สไลส์ลูกสูบในล้อคู่หน้า ส่วนล้อหลังใช้คาร์ลิปเปอร์แบบ 2 สไลส์ลูกสูบ การวางตำแหน่งคาร์ลิปเปอร์เบรคยังคล้ายกับรถขับเคลื่อนล้อหน้าโดยอยู่หน้าจานเบรคไม่เหมือนกับรถขับหลังทั่วๆไปที่ตัวคาร์ลิปเปอร์จะอยู่ด้านหลังของจานเบรค
Toyota FT86 G Sport Concept
Toyota จะเริ่มต้นผลิตจริงในปี 2012 นี้หลังจากการทดสอบรายละเอียดทุกจุดของตัวรถเสร็จสิ้นลงซึ่งอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในบางจุดเพื่อความลงตัวในสมรรถนะของตัวรถ หลังจากการทดสอบอย่างหนักหน่วงในทุกระบบของการทำงานทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง การเกาะยึดของช่วงล่างบนสนามทดสอบในทวีปยุโรปเสร็จสิ้นลง.
www.caradvice.com.auwww.topspeed.comwww.toyota.co.jp