โดยส่วนตัวผมเชื่อใจแฟนผมนะ..ถึงจะฟังดูโง่ๆไปหน่อยเพราะเป็นใครก็ต้องระแวง
และผมพยามเข้าใจอย่างแรงเลยด้วย....แต่ตอนนี้ผมไม่รู้จะเข้าใจว่ายังไง
วันนี้แฟนผมไปรับรถ..ตอนเช้าเจ้านายไปส่งแล้วเธอโทรมาว่าผมน่าจะลาไปช่วยดูรรถ
เพราะเจ้านายไม่อยู่ดูรถด้วย..ผมหน้้าชาเลย..(ตกลงนี่ผมเป็นตัวสำรองเหรอ)
ตั้งแต่วันจอง พาไปดูรถ ไปส่งรับรถเจ้านายจัดการหมด แฟนผมให้เหตุผลว่า
"มันไม่ใช่รถเรา" ผมเลยบอกให้เธอลองโทรไปคุยกับพี่ชาย และแม่เธอดูว่าเค้าคิดยังไง
กับเรื่องนี้
ในเมื่อกล้าที่จะปรึกษาก็ต้องกล้ารับฟังนะครับ
ผมพิมพ์แรงไปขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าผมเป็นแฟนคุณ ผมจะปฏิเสธที่จะรับรถคันนี้
ก.ในอนาคตรู้อยู่แล้วว่ารับมาก็ต้องมีปัญหาแคลงใจกัน
ข.ในเมื่อมีรถคันนี้คุณต้องรู้สึกด้อยในตัวเองขึ้นมา เป็นผมผมไม่ทำนะ
ค.ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มเป็น ๒ เท่า ในเมื่อมีรถเพิ่มมาอีกคัน
ง.ไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะคิดแล้วทำให้ดูดีในการรับรถคันนี้
โดยส่วนตัวนะครับแฟนคุณทำงานแค่วันอาทิตย์วันเดียว..เงินเดือนๆละ 4000 แต่รถที่เจ้านายแฟนคุณ
ออกให้ถึงจะดาวห์เป็นแสนก็เถอะแต่ต้องผ่อนค่างวดเดือนละเท่าไหร่ครับ 4000 พอมั๊ย..
มองให้ลึกตั้งสติให้ดีแล้วถามใจคุณดูว่าคุณเชื่อมั่นในตัวแฟนคุณมากแค่ไหน..ถ้าตอบไม่ได้ลองถาม
แฟนคุณดูแต่ให้ถามอย่างมีสติอย่าใช้อารมณ์ว่าแฟนคุณรักคุณมากแค่ไหน..แล้วคุณก็จะพบคำตอบ
มันมองได้สองแง่คือเจ้านายของแฟนคุณอาจจะเจตนาดีเห็นว่ามันจำเป็นสำหรับงานที่แฟนคุณทำให้
เค้า..อีกแง่นึงเจ้านายของแฟนคุณก็มีเจตนาอื่นแอบแฝงไม่กับรถก็ตัวแฟนคุณ....แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวและใจของแฟนคุณ..เพราะถ้าคุณทั้งสองคนรักและเชื่อใจในกันและกันก็
ไม่มีอะไรมาแยกคุณสองคนจากกันได้..ใจเย็นๆครับตั้งสติให้ดี....เป็นกำลังใจให้ครับ