AE. Racing Club
11 มกราคม 2025 12:01:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2] 3 4 ... 7  »  [5»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อมูล ความรู้ต่างๆ  (อ่าน 59662 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 24 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 01:32:28 »

พยายามหา เหนี่อยทำลิ้งหาข้อมูลมาให้อ่าน ก็คลิกเข้าไปอ่าน หาความรู้เพิ่มเติมกันซะบ้าง พี่ก็ไม่ได้รู้ตั้งแต่เกิด


สำหรับไอ้พวกขี้เกียจหา ก็จงโง่ไม่รู้ต่อไป
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
Hanuy90@LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,930


ไม่ได้เป็นกลาง...อยู่ข้าง"ในหลวง"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 05:18:57 »

พยายามหา เหนี่อยทำลิ้งหาข้อมูลมาให้อ่าน ก็คลิกเข้าไปอ่าน หาความรู้เพิ่มเติมกันซะบ้าง พี่ก็ไม่ได้รู้ตั้งแต่เกิด


สำหรับไอ้พวกขี้เกียจหา ก็จงโง่ไม่รู้ต่อไป
ซุบซิบ   แหะ.. แหะ..   อิอิ   ตรบมือ 
 คำนับ  อินเลิฟ
บันทึกการเข้า

natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 09:40:17 »

 งง




 ล้อเลียน
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 09:45:20 »

เคยเอาหัวเทียนของสามห่วงมาใส่ เบอร์ รหัส ไม่ตรงกัน แต่ขนาดทุกอย่างเท่ากันหมด ความอยากรู้ เลย ลอง เอ ทำไมเหมือนมันวิ่งดีกว่าวะ - -

สงสัย หัวเทียน ที่รถ จะเก่ามาก 555+
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
Hanuy90@LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,930


ไม่ได้เป็นกลาง...อยู่ข้าง"ในหลวง"


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 10:01:36 »

เคยเอาหัวเทียนของสามห่วงมาใส่ เบอร์ รหัส ไม่ตรงกัน แต่ขนาดทุกอย่างเท่ากันหมด ความอยากรู้ เลย ลอง เอ ทำไมเหมือนมันวิ่งดีกว่าวะ - -

สงสัย หัวเทียน ที่รถ จะเก่ามาก 555+
เคยแต่เอาของคนอื่นมาใส่แล้วสะดุด
บันทึกการเข้า

vitty@LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,891


เมื่อก่อนเคยเปนเจ้าของคันเน้..เว้ย!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 11:55:56 »

ขโมย.....
บันทึกการเข้า

6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #26 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 17:04:17 »

งง




 ล้อเลียน

กรูว่าจะไม่นอกเรื่องในหัวข้อนี้ละนะ
สิงห์ลังลีโอลัง จัดมาด้วย อ้ายยยนิตตี้  ฉุน
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 17:11:49 »

รอยาวเลยละ งานนี้
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2010 17:43:36 »

รอยาวเลยละ งานนี้

จะรอยาวทำไม รถก้ไม่ทำ เอาตังมาซื้อเบียร์เลี้ยงพี่เลี้ยงน้องก่อนดิ ไม่รู้ไม่ชี้
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #29 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2010 09:27:00 »

-*-
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2010 01:07:26 »

เห็นสนใจเรื่องเกียร์ ลองอ่านดูละกัน เข้าใจยากหน่อย แต่ถ้าเข้าใจแล้ว จะเรียงเฟืองเกียร์ใหม่ ก็จะทำได้อย่างถูกต้องตรงความต้องการ
http://www.thaidriver.com/PDF_files/no_91/91_siriboon.pdf

เรื่อง : ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข และ กองบรรณาธิการ

THAIDRIVER • ขอไปทางรถบ้านสักนิด อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายของรถบ้านแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่แตกต่างกัน มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน

อ. ศิริบูรณ์ • ในกรณีของรถบ้านที่เอาไว้ขับไปช็อปปิ้ง ขับไปเรียนหนังสือ หรือขับไปทำงานด้วยงบประมาณค่าน้ำมันที่เมียจัดสรรให้เดือนละ 3,000 บาท รถจะพุ่งไม่แรงก็คงไม่เป็นไร
เกียร์ 1 ออกตัวได้โดยไม่สะอึก เกียร์สุดท้ายวิ่งความเร็วสูงตามกฎหมายโดยไม่ต้องใช้รอบจัดให้จั๊กกะจี้รูหู อัตราทดเกียร์แบบไหนก็ขับได้ทั้งนั้น ขับให้คุ้นเคยก็ใช้ได้คล่อง
ถ้าเป็นรถกระบะ โจทย์ของ GEAR DESIGNER ก็ต่างจากรถเก๋งเพราะรถกระบะที่มีพิกัดบรรทุก 1 ตัน เฉพาะรถเปล่าก็หนักเกือบ 2ตันเข้าไปแล้ว
พอบรรทุกน้ำหนักใส่กระบะหลังเพิ่มเข้าไป น้ำหนักรวมทั้งคันก็ประมาณ 3 ตันรถกระบะจึงต้องมีอัตราทดของเกียร์ 1 ‘จัดมาก’ ไม่อย่างนั้นออก
ตัวไม่ไหว และยิ่งเป็นเครื่องดีเซลที่มีรอบฯ ต่ำกว่าเครื่องเบนซินเกือบครึ่งอัตราทดเกียร์สำหรับ ‘ตีนปลาย’ ก็ต้องต่างไปจากรถเก๋ง
 ส่วนรถแข่งทางเรียบน้ำหนักเบาจะใช้อัตราทดเกียร์ 1 ‘ยาวเหยียด’ ให้ชิดเข้าไปหาเกียร์ 2 ก็ไม่ว่ากันเพราะเปลี่ยนชุดคลัตช์ใหม่ทุกสนามอยู่แล้ว
เกียร์ 5 หรือเกียร์สูงสุดมีความสำคัญในการใช้งานเฉพาะเมื่อต้องขับทางไกล รถบางรุ่นขับทางไกลแล้วกินน้ำมันมากเพราะเฟืองท้ายจัด
หรือเกียร์ 5 ซึ่งเป็นเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ มีอัตราทดต่ำลงมานิดเดียว (ยังใกล้ 1.00) เช่น เกียร์ 5 = 0.86 เฟืองท้าย 4.3 ย่อมกินน้ำมันมากกว่า
อีกคันที่มีอัตราทดเกียร์ 5 = 0.80 และเฟืองท้าย 4.1

ในรถแข่งควอเตอร์ไมล์ หรือแข่งแบบเซอร์กิต อัตราทดเกียร์ก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับรูปร่างหน้าตาของสนาม POWER-BAND ของเครื่อง
และฝีมือของคนขับ ถ้าเลือกอัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายได้เหมาะสม ก็พอทดแทนฝีมือให้กลายเป็นเก่งกว่าตัวจริง
ยกตัวอย่างฝีมือคนขับที่มีผลต่อการเลือกใช้อัตราทดเกียร์ รถคันเดียวกัน สนามเดียวกัน โค้งเดียวกัน อาจต้องใช้อัตราทดเกียร์ต่างกัน
คนขับ A ถึงโค้งแล้วย่องเหมือนมือใหม่ เนื่องจากรับมรดกมาเยอะ กลัวตายก่อนจะได้ใช้เงิน (ให้หมด)
คนขับ B เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงกว่า เนื่องจากที่บ้านไม่มีสมบัติตายก็ไม่หนักหัวใคร (หรือพูดอีกอย่างว่าฝีมือดีกว่า) เมื่อเข้าโค้งด้วย
ความเร็วต่างกัน เวลาออกจากโค้งรอบเครื่องยนต์ก็ต้องต่างกัน อัตราทดเกียร์หรือเฟืองท้ายก็ต้องต่างกันด้วย
อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายมีความสำคัญมากสำหรับรถแข่ง มันเป็นวิธีทำให้รถเร็วขึ้นโดยเสียเงินน้อยกว่าการทำเครื่องยนต์ ซื้อเทอร์โบ
ลูกละแสนกว่าบาท ยกเครื่องออกมาเปิดแล้วเปิดอีก ถอดฝาสูบมาเปิดพอร์ต เปลี่ยนวาล์ว เปลี่ยนแคมฯ เปลี่ยนลูกสูบ หมดเงินไปครึ่งล้าน
 จับยัดใส่รถลองวิ่งดูแล้วก็ยังไม่ได้เวลาสมใจอยากถ้าเปลี่ยนไส้เกียร์ไม่กี่บาท แล้วแต่คุณภาพของเกียร์ ถ้าสั่งจากอังกฤษอาจสองแสนบาท ถ้าสั่งจากสำนัก ‘แหกตา’ ในหลายประเทศ
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าจะดีจริงหรือเปล่า เพราะทำจากไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่เสียเยอะ
 แม้กระทั่งไส้เกียร์ที่ผมทำเป็น MASTERPIECE ก็ยังถูกเอาไปก็อปปี้แถวๆ นั้นออกมาขายในราคาถูกจนไม่น่าเชื่อว่าคนทำต้องกินข้าววันละ 3 มื้อ


THAIDRIVER • อัตราทดเกียร์ 1 = 3.273 หมายความว่าอย่างไร


อ. ศิริบูรณ์ • เราพูดกันถึงเกียร์ธรรมดาที่เปลี่ยนด้วยมือ (MANUAL)ของรถขับล้อหน้าก็แล้วกันนะ...มันแปลว่าอย่างนี้คือ เมื่อคลัตช์
จับเต็มตัว (และไม่ลื่น) ข้อเหวี่ยงของเครื่องหมุนไป 3,273 รอบฯ ส่งผ่านคลัตช์ซึ่งหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน ส่งไปที่ INPUT-SHAFT
(จำปา) หน้าห้องเกียร์ ‘เฟืองส่ง’ ตัวเล็ก (ฟันน้อยเพียง 11 ฟัน) หมุน3,273 รอบฯ แต่ขบอยู่กับ ‘เฟืองรับ’ ตัวใหญ่(36 ฟัน) บนแกนล่าง
ซึ่งมีจำนวนเฟืองมากกว่า 3.273 เท่า (36/11 = 3.273) แกนล่างซึ่งเป็น OUTPUT จึงส่งออกจากเกียร์เพียง 1,000 รอบฯ เพราะฉะนั้น
เราจึงเรียกว่า 3.273
เกียร์ 2,3,4,5 ก็จะมีฟันบนเฟืองส่งมากขึ้นเป็นลำดับ ส่วนฟันบนเฟืองรับจะน้อยลงลดหลั่นกันไป จนกระทั่งบางทีเฟืองส่งมีฟันมากกว่า
เฟืองรับ เช่น เฟืองส่ง 25 ฟัน เฟืองรับ 22 ฟัน อัตราทดคือ 22/25 =0.88 เมื่อนั้น ‘ชาวบ้าน’ จะเรียกว่าเป็น OVERDRIVE (แต่ผมเปล่า)


THAIDRIVER • รู้อัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และเส้นรอบวงยาง จะคำนวณความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์ได้อย่างไร


อ. ศิริบูรณ์ • KPH PER 1000 RPM = DIA (IN.) X 4.787 /FDR/GRi DIA คือเส้นผ่าศูนย์กลาง (DIAMETER) ของยาง (ไม่ใช่ของล้อ)
ใช่หน่วยเป็นนิ้ว (ไม่ใช่มิลลิเมตร ถึงแม้ว่าผมจะคำนวณออกมาเป็นความเร็ว KPH เพราะ 4.787 มันเป็น CONSTANT CONVERSION
FACTOR ข้ามหน่วยที่ผมคิดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว)FDR คือ อัตราทดเฟืองท้าย (FINAL-DRIVE RATIO)
แม้จะขับล้อหน้าก็เรียกว่าเฟืองท้าย เพราะ FINAL แปลว่าท้ายสุดก่อนจะถึงล้อขับเคลื่อน
GRi คืออัตราทดของแต่ละเกียร์ (GEAR-RATIO) ในห้องเกียร์  i เป็นสัญลักษณ์ตามธรรมเนียมทางคณิตศาสตร์ที่ใช้แทนตัวเลขใดๆ ก็ได้
GR1, GR2, GR3, GR4, GR5 คืออัตราทดของเกียร์ 1,2,3,4,5
เรานิยมคิด KPH PER 1000 RPM เพราะบนมาตรวัดรอบฯ(TACHOMETER) มักจะเขียนเอาไว้ด้วยเลขหลัก 1, 2, 3, 4, 5, 6,7, 8, 9 แล้วแอบตัวเล็กๆ ว่า x1000 ไว้บนจอ KPH PER 1000
RPM จึงเอามาคูณกับตัวเลขที่เข็มชี้บนมาตรวัดรอบฯเพื่อให้กลายเป็นความเร็ว (SPEED) ได้โดยสะดวก
ถ้าอยากรู้ว่าลากแต่ละเกียร์สุดๆ จนเครื่องกำลังจะกระจายเป็นเสี่ยงๆ แล้วได้ความเร็วเท่ากับเท่าไรก็ใช้สูตรนี้คำนวณ เมื่อถึงเกียร์สุดท้าย ถ้าเห็นความเร็วสูงมากกรุณาอย่าตกใจหรือดีใจ
 เครื่องของคุณมันอาจจะ ‘ตื้อ’ หมดแรงทะลวงอากาศไปก่อนหน้านั้นตั้งนานแล้ว นั่นละ...ความหมายที่แท้จริงของ OVERDRIVE ที่ผมพูดไม่เหมือนชาวบ้าน
ถ้าความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้จริงในเกียร์ 5 แช่อยู่ที่รอบฯ ต่ำกว่าที่เครื่องมีแรงม้าสูงสุด แสดงว่าใช้เฟืองท้ายเลขน้อยหรือยาวเกินไป (ตรงข้ามกับเฟืองท้ายจัดซึ่งมีเลขมาก)
แสดงว่าเกียร์ 5 เป็นโอเวอร์ไดร์ฟ คือขืนใจเด็กให้ทำงานผู้ใหญ่ รอบไม่สูง กินน้ำมันน้อย เสียงเครื่องไม่ดัง บริษัทรถแต่ละยี่ห้อเลือกใช้อัตราทดเกียร์ไม่เหมือนกัน
 บางยี่ห้อทำเกียร์ 5 จังหวะ โดยให้ทำความเร็วสูงสุดได้ในเกียร์ 4 ส่วนเกียร์ 5 เป็นเกียร์ประหยัด
บางยี่ห้อทำ 6 จังหวะ แล้วให้ทั้งเกียร์ 5 และ 6 เป็น“โอเวอร์ไดรฟ์ตามตัวเลข” เช่น รถสปอร์ตเครื่องโตทั้ง 2 รุ่นของอเมริกา
คือคอร์เว็ตต์และไวเปอร์ ซึ่งใช้เกียร์ 6 สปีดของ TREMEC T56 มีอัตราทดเกียร์ 5 = 0.84 เกียร์ 6 = 0.56 เข้าเกียร์ 6 เดินทางไกลเครื่องหมุนเหนือรอบเดินเบานิดเดียว
รถญี่ปุ่น 6 เกียร์ มีเกียร์ 5 = 1.00 เกียร์ 6 เป็นโอเวอร์ไดรฟ์ตามตัวเลข มักออกแบบให้เกียร์ก่อนสุดท้ายเป็นเกียร์ที่ทำความเร็วได้สูงสุด
และเกียร์สุดท้ายเป็นเกียร์ประหยัด อัตราทดในเกียร์สูงๆ จะกระโดดห่างกัน เปลี่ยนลงเกียร์สุดท้ายแล้วรอบตกวูบ
ดูกราฟ A ประกอบ แกนนอน คือ ความเร็วหน่วยเป็นกม./ชม. KPH แกนตั้ง คือ รอบเครื่อง ประกอบด้วยรอบแรงม้าสูงสุดและเรดไลน์
ออกตัวด้วยเกียร์ 1 ลากไปถึงเรดไลน์แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 ไล่ไปจนถึงเกียร์ 5
 ได้กราฟเป็นเส้นตรง ทั้ง 5 เส้น สังเกตว่ารอบแรงม้าสูงสุดอยู่ใกล้กับเรดไลน์ แบบนี้เกียร์ 5 ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่าเกียร์ 4
เช่น บริษัทรถโฆษณาว่าเครื่องดีเซล 3,000 ซีซีของตัวเองมี 200แรงม้า ที่ 5,500 รอบฯ แต่เรดไลน์อยู่ที่ 4,500 รอบฯ
ถ้าลากรอบเกินจากนี้ไม่รับรอง ไอ้ 200 แรงม้า ที่ 5,500 รอบฯ นั้นคงเคยเสี่ยงบนแท่นไดโนฯ ที่ห้องทดสอบเพียงครั้งเดียว
ก็เลยเอาตัวเลข 200 แรงม้ามาโฆษณา แบบนี้ต้องโดนชกให้เข็ด เพราะรอบแรงม้าสูงสุดต้องอยู่ต่ำกว่ารอบที่เครื่องจะหลุดเป็นชิ้น คนซื้อไปแล้วจึงจะใช้งานได้จริง


THAIDRIVER • เปลี่ยนล้อขับเคลื่อนเส้นรอบวงต่างจากเดิม เสมือนเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้าย


อ. ศิริบูรณ์ • หมายถึงเปลี่ยนเส้นรอบวงของยาง ไม่ใช่เปลี่ยนล้อใหญ่แต่ใช่ยางเตี้ย...ถ้าพูดภาษาเดียวกันก็แน่นอน
ถ้ายางเดิมสูง 26 นิ้วเช่น 215/65R15 แล้วเปลี่ยนเป็นยาง 265/60R17 (29.5 นิ้ว)แต่ละก้าวก็ยาวขึ้น เสมือนเปลี่ยนเฟืองท้ายให้ยาวขึ้นรถบางคันเปลี่ยนล้อใหญ่ยางโตกว่าเดิมแล้วความเร็วปลายลดลง
แต่ถ้ารอบแรงม้าสูงสุดกับเรดไลน์อยู่ห่างกันมาก เช่น แรงม้าสูงสุด6,000 รอบฯ เรดไลน์ 7,500 รอบฯ อาจพบว่าในเกียร์ 5 ทำความเร็ว
ได้แค่เส้นประ (เพราะเกียร์ 5 ลากถึงเรดไลน์ไม่ไหว) แต่เกียร์ 4สามารถลากถึงเรดไลน์ ก็จะได้ความเร็วสูงสุดมากกว่าเกียร์ 5
ความเร็วสูงสุดจะทำได้ด้วยเกียร์ไหน ขึ้นอยู่กับว่ารอบแรงม้าสูงสุดและเรดไลน์อยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ห่างกันมาก แสดงว่าเกินจากรอบแรงม้า
สูงสุดไปแล้วยังมีรอบอีกมากที่เครื่องยังไม่พัง แต่ถ้าแรงม้าสูงสุดกับรอบที่เครื่องจะพังอยู่ใกล้กัน เกียร์สุดท้ายมักทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่าเกียร์รองสุดท้าย
 ถ้าผู้ผลิตเลือกเฟืองท้ายได้ถูกต้องนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับรูปทรงของตัวรถ (ดูกราฟ B ประกอบ) รถ2 คัน cd.40 อาจทำความเร็วสูงสุดได้ในเกียร์ 4 ส่วนคันที่ลู่ลมกว่า
cd.30 อาจได้ความเร็วสูงสุดในเกียร์ 5 เพราะรถวิ่งทะลุลมง่ายกว่าเครื่องใช้แรงน้อยกว่า


THAIDRIVER • ขอให้ขยายความเรื่องรอบแรงม้าสูงสุดและเรดไลน์


อ. ศิริบูรณ์ • เป็นความเข้าใจปกติอยู่แล้วว่า แรงม้าสูงสุดที่เครื่องทำได้ จะต้องอยู่ต่ำกว่ารอบที่เครื่องจะพัง เพราะถ้าแรงม้าสูงสุดอยู่ใน
รอบสูงกว่ารอบที่เครื่องพัง แล้วชาติไหนจะได้ใช้แรงม้าสูงสุด?!เพราะเสมือนเปลี่ยนเฟืองท้ายยาวขึ้น (เลขน้อยลง) ทุกๆ รอบเครื่องจะได้ความเร็วมากขึ้น
หรือพูดอีกอย่างว่าทุกๆ ความเร็วที่ได้ รอบเครื่องจะลดลง เมื่อรอบลดลงแรงม้าก็น้อยกว่า เครื่องนั้นอาจจะพารถวิ่งทะลุลมไม่ไหว ความเร็วปลายก็เลยลดลง

THAIDRIVER • ต่างจากความเข้าใจของบางคนว่า ใส่ยางใหญ่เส้นรอบวงมากขึ้นแล้วจะได้ความเร็วสูงขึ้น

อ. ศิริบูรณ์ • ความเร็วปลายจากการคำนวณบนกระดาษจะสูงขึ้น
แน่นอน แต่ความเร็วปลายจากการขับทะลวงลมจริงอาจจะลดลงเพราะคุณกำลังขืนใจให้เด็กทำงานเกินกำลัง

THAIDRIVER • เปลี่ยนยางเส้นรอบวงเล็กลง อัตราเร่งดีขึ้น แต่ความเร็วปลายหาย

อ. ศิริบูรณ์ • เมื่อเส้นรอบวงยางน้อยลง ความเร็วต่อพันรอบฯ ของแต่ละเกียร์ก็จะลดลง อัตราเร่งดีขึ้นเพราะแต่ละก้าวสั้นลง
 เครื่องพาล้อให้หมุนได้ง่ายขึ้น แต่เกียร์ 1 อาจจะออกตัวแล้วล้อฟรี เพราะที่หน้าสัมผัสมีแรงบิดเกินกว่าที่ยางจะรับได้ถ้าเป็นรถที่ออกตัวด้วยเกียร์ 1 แล้วล้อฟรีเป็นประจำ
เมื่อเปลี่ยนยางเส้นรอบวงน้อยลงก็จะฟรีมากขึ้น

THAIDRIVER • เกียร์อัตโนมัติของรถบางรุ่นมี 5 จังหวะ อัตราทดต่ำกว่า 1.000 ตั้งแต่เกียร์ 4 หมายความว่ามีโอเวอร์ไดรฟ์ 2 เกียร์ใช่หรือไม่

อ. ศิริบูรณ์ • ถ้าเป็นคนไม่คิดมาก เมื่อไรก็ตามที่เห็นตัวเลขของรอบเครื่องที่ส่งเข้าเกียร์ ต่ำกว่ารอบที่เกียร์ส่งออฆกไปขับเฟืองท้าย (น้อยกว่า 1.00) ก็เรียกกันว่าโอเวอร์ไดร์ฟ
ถ้าเป็นคนคิดมากเห็นอัตราทดเกียร์ต่ำกว่า 1.00 แล้วยังไม่สรุปว่าเป็นเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ
แต่จะคิดต่อไปว่าอัตราทดนั้นเป็นการให้เด็กทำงานผู้ใหญ่ คือ เกียร์สูงกว่าทำความเร็วสูงสุดจริงได้น้อยกว่าเกียร์ที่ต่ำกว่า
 เช่น เกียร์ 5 ทำความเร็วสูงสุดจริงน้อยกว่าเกียร์ 4 จึงจะบอกว่าเกียร์ 5 ว่าเป็นโอเวอร์ไดรฟ์ แต่เกียร์ 4 ที่มีอัตราทดต่ำกว่า 1.00 อาจจะไม่ใช่โอเวอร์ไดร์ฟ ต้องพิสูจน์แบบเดียวกัน
คนคิดมากจะดูที่ผลงานสุดท้าย ถ้าเกียร์นั้นทำความเร็วสูงสุดไม่ได้เพราะรอบต่ำกว่ารอบแรงม้าสูงสุด ถึงจะเรียกว่าโอเวอร์ไดรฟ์ หรือพูดอีกอย่างว่าเกียร์ใดก็ตามซึ่งให้ความเร็วสูงสุดจริง
 ที่รอบต่ำกว่ารอบแรงม้าสูงสุด เกียร์นั้นเป็นโอเวอร์ไดรฟ์ส่วนแรงม้าสูงกว่ากราฟผอมชันยอดแหลม อาจแพ้รถที่มีแรงม้าน้อยกว่าใน 2-3 เกียร์แรก และชนะในเกียร์ท้ายๆ
ถ้าเครื่องแรงม้าสูงกว่ากราฟแรงม้ายอดแหลม แต่มีเกียร์หลายจังหวะ ก็สามารถวางอัตราทดเกียร์ให้ชิดกันได้มากขึ้น แทนที่ตอนเปลี่ยนจากเกียร์ 1 ไปเกียร์ 2 รอบฯ จะตกเหลือแค่ 70% ก็ทำให้รอบ
ตกน้อยลงเหลือ 75% จากนั้นก็ให้รอบฯ ตกแค่ 80...85...89...92การเลือกอัตราทดแต่ละเกียร์ให้ชิดกันมากๆ ก็เพื่อเปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้งรอบฯ จะได้ไม่ตกมาก
หรือพูดอีกอย่างว่าพยายามรักษารอบฯให้อยู่ใกล้รอบฯ แรงม้าสูงสุด ถ้าแบบนี้เครื่องแรงม้าสูงกว่าที่รอบฯสูงกว่าชนะแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่เกมของเรา
 เพราะเกมของเราบอกว่าทุกอย่างเหมือนกันหมด ซึ่งรวมทั้งอัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายด้วยถ้าใช้เกียร์ลูกเดียวกันตามเงื่อนไข
แต่เลือกใช้เกียร์ที่มีอัตราทดชิดรถแรงม้ามากกว่าที่รอบสูงกว่า กราฟแรงม้ายอดแหลมก็อาจชนะ แต่ถ้าเนื่องจากรถแข่งมีน้ำหนักเบา
 และออกตัวด้วยรอบฯ สูงโดยไม่ต้องสงสารคลัตช์จึงไม่จำเป็นต้องใช้อัตราทดเกียร์ 1 ให้จัด
เหมือนเกียร์รถบ้าน สรุปว่าเกียร์ 1 ของรถแข่งไม่ต้องทดจัดหรือสั้นมากนัก ฟันธงได้ว่าเกียร์ CLOSE-RATIO เอาไว้ใช้ในรถ
แข่งเถอะ GR1/GR5 < 3.00 เมื่อใด ให้เริ่มเรียกมันว่า CLOSE-RATIO ได้เลย เกียร์ CLOSE-RATIO ของรถแข่งไม่ได้มีลูกเดียวแล้วจะ
ใช้ได้ครอบจักรวาล แต่มีหลายระดับความชิด MENU เกียร์ที่ผมคำนวณเองทั้งหมดสำหรับเกียร์ทุกยี่ห้อที่พวกเรานิยมใช้เครื่องของมัน
แข่งๆ กันอยู่มีประมาณ 200 ชุด ความห่างความชิดระหว่างคู่เกียร์แล้วแต่ว่าใช้กับสนามแข่งไหน รถหนักหรือรถเบา...ถ้าเป็นคนไม่คิดมาก
 ดูตัวเลขอัตราทดต่ำกว่า 1.00 แล้วจะบอกว่าเกียร์นั้นเป็นโอเวอร์ไดรฟ์ก็เรื่องของคุณ อยู่ในโลกของคุณ แต่ถ้าไปคุยกับคนคิดมาก เช่นวิศวกรทีมแข่งรถ
ก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะอยู่คนละโลก พูดคนละภาษา

THAIDRIVER • ถามแบบคนไม่คิดมาก รถ 5 เกียร์ เป็นโอเวอร์ไดรฟ์โดยตัวเลขตั้งแต่เกียร์ 4 ความเร็วสูงสุดจะทำได้ในเกียร์ไหน

อ. ศิริบูรณ์ • ผมตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเฟืองท้ายเบอร์อะไร รถกินลมแค่ไหน แรงม้าสูงสุดอยู่ตรงไหน ถ้าอยากถามต้องเอากราฟการกิน
ลมของตัวรถมาให้ผมดู จะได้รู้ว่ารถมีแรงต้านเท่าไร ต้องรู้พื้นที่หน้าตัดของรถ รู้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (CD)
จากนั้นผมจะแปลงเป็น DRAG เพื่อคำนวณแรงบิดที่หน้าสัมผัสของยาง ย้อนกลับไปหาแรงบิดที่เครื่อง ณ รอบฯ ที่มี ถ้าไม่ให้ตัวเลขอะไรเลย ขับรถมาจอดไว้เฉยๆ
ผมตอบไม่ได้ คุณต้องเอารถไปเข้าอุโมงค์ลมเสียก่อน

THAIDRIVER • รถ 2 คัน ทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างกันที่แรงม้า วิ่งควอเตอร์ไมล์คันที่แรงม้ามากกว่าจะชนะตลอดหรือไม่ (แรงม้ามากกว่าที่รอบฯ สูงกว่า)

อ. ศิริบูรณ์ • เกือบจะตอบไปแล้วว่ารถคันที่แรงกว่ากินตลอด แต่ดันมีวงเล็บว่าแรงม้าสูงกว่าที่รอบฯ ปลายดูกราฟ C ประกอบ แกนตั้งคือ แรงม้า แกนนอนคือ รอบฯ เครื่อง
รถสีเทาแรงที่รอบฯ ต้น รถดำแรงกว่าที่รอบฯ ปลาย เมื่อดูจากรูปร่างของกราฟจะพบว่าตั้งแต่รอบฯ ต่ำถึงประมาณ 5,000 รอบฯ รถสีเทากินตลอด แต่เมื่อเกิน 5,000 รอบฯ
 รถสีดำเริ่มแรงและแซงในที่สุดถ้าดูจากกราฟ รถสีเทามีโอกาสชนะเท่ากับพื้นที่ A ช่องว่างใต้เส้นกราฟสีเทาเหนือกราฟเส้นสีดำ
ส่วนรถสีดำมีโอกาสชนะเท่ากับพื้นที่ Bออกตัวเกียร์ 1 เข้าเกียร์ 2 รถสีเทายังนำหน้า สับลงเกียร์ 3 รถสีดำเริ่มไล่ขึ้นมา ยัดเข้าเกียร์ 4 สีดำอาจตีคู่ขึ้นมา จากนั้นลงเกียร์ 5 จะ
ทันและแซงได้หรือเปล่าต้องดูพื้นที่กราฟถ้าไม่มีเงื่อนไขในวงเล็บที่ว่าแรงม้าสูงกว่าอยู่ที่รอบฯ สูงกว่า แต่สมมุติว่าแรงม้าอยู่ที่ 7,000 รอบฯ เท่ากัน แบบนี้แรงม้าน้อยกว่าแพ้
แบบไม่มีทางเลือก แต่ถ้าแรงม้าน้อยกว่าแต่เยื้องมาอยู่ในรอบฯ ต่ำและกราฟมีลักษณะอ้วนเลือกใช้เกียร์ห่าง รถแรงม้าน้อยกว่าที่รอบต่ำกว่า กราฟแรงม้าอ้วนๆ ก็อาจชนะได้
ถ้ากราฟ 2 เส้นขี่กันอยู่ตลอด...ฟันธงได้ แต่ถ้ากราฟ 2 เส้นมีจุดตัดกันเหมือนในภาพประกอบ...ฟันธงไม่ได้


บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2010 01:07:45 »


THAIDRIVER • อัตราทดเกียร์ต้องชิดแค่ไหนจึงจะเรียก CLOSE-RATIO

อ. ศิริบูรณ์ • เราเริ่มกันจาก WIDE-RATIO ก่อนก็แล้วกัน...กว้างสุดๆ คือที่ติดมากับรถกระบะ อัตราทดเกียร์ 1 (เกินกว่า 4.20) จัดกว่าอัตราทดเกียร์ 5 (ประมาณ 0.80) ประมาณ 5 เท่าตัว
WIDE น้อยลงมาคือรถเก๋งเครื่องเล็กอย่างเช่น VIOS อัตราทดเกียร์ 1 (3.55) จัดกว่าอัตราทดเกียร์ 5 (0.82) อยู่ 4.33 เท่าตัว
WIDE น้อยที่สุดในกระบวนรถเก๋งเครื่องขนาดกลางอย่างเช่นCIVIC เครื่อง VTEC อัตราทดเกียร์ 1 (3.23) จัดกว่าอัตราทดเกียร์ 5(0.88) อยู่ 3.67 เท่าตัว
เนื่องจากรถใช้งานประจำวัน (DAILY DRIVER) ต้องออกตัวได้
โดยต้องไม่เลียคลัตช์ด้วยรอบฯ สูง จึงต้องมีเกียร์ 1 สั้น (ทดจัด) และต้องมีเกียร์ 5 ให้เดินทางไกลโดยต้องไม่ขยี้รอบฯ จนเปลืองเชื้อเพลิง ผมพอจะฟันธงได้ว่า
รถบ้านไม่ควรใช้เกียร์ CLOSE-RATIO ที่เกียร์ 1 จัดกว่าเกียร์ 5 ไม่ถึง 3 เท่าตัว (ยกเว้นรถที่ใช้เครื่องใหญ่มากๆ)
สำหรับรถแข่งน้ำหนักเบา เกียร์ 5 ไม่ใช่เกียร์ประหยัด แต่ต้องเป็นเกียร์ที่ทดไว้จัดเพื่อใช้วิ่งหนีหรือวิ่งไล่คู่แข่งแค่ระยะทางตรงของสนามแข่ง
แต่ละสนาม ในสนามแข่งแบบเซอร์กิต รถแข่งไม่มีโอกาสได้ทำความเร็วสูงสุดจริงๆ เพราะไม่ได้วิ่งบนลานเกลือ BONNEVILLE ที่มีทางตรงยาวตั้ง 11 กม.
เนื่องจากรถแข่งมีน้ำหนักเบา และออกตัวด้วยรอบฯ สูงโดยไม่ต้องสงสารคลัตช์จึงไม่จำเป็นต้องใช้อัตราทดเกียร์ 1 ให้จัดเหมือนเกียร์รถบ้าน
สรุปว่าเกียร์ 1 ของรถแข่งไม่ต้องทดจัดหรือสั้นมากนัก ฟันธงได้ว่าเกียร์ CLOSE-RATIO เอาไว้ใช้ในรถแข่งเถอะ GR1/GR5 < 3.00เมื่อใด ให้เริ่มเรียกมันว่า CLOSE-RATIO ได้เลย
เกียร์ CLOSE-RATIO ของรถแข่งไม่ได้มีลูกเดียวแล้วจะใช้ได้ครอบจักรวาล แต่มีหลายระดับความชิด MENU เกียร์ที่ผมคำนวณเองทั้งหมดสำหรับเกียร์ทุกยี่ห้อที่พวกเรานิยมใช้เครื่องของมันแข่งๆ
 กันอยู่มีประมาณ 200 ชุด ความห่างความชิดระหว่างคู่เกียร์แล้วแต่ว่าใช้กับสนามแข่งไหน รถหนักหรือรถเบา เครื่องแรงหรือเครื่องไม่แรง ช่วงล่างมีGRIP มากหรือน้อย
นักแข่งมรดกมากหรือยากจน ฯลฯรถแข่งควอเตอร์ไมล์ขับล้อหน้า ออกตัวทีไรล้อหน้าหมุนฟรีควันโขมง
คนขับก็สอนไม่ค่อยจำว่าถ้าออกตัวด้วยเกียร์ 1 แล้วล้อหมุนฟรีต้องทำให้หยุดหมุนก่อน ต้องวิ่งให้สุดเกียร์ 1 แล้วค่อยเข้าเกียร์ 2 แต่คนขับสมองเล็กโง่ก็สอนไม่จำ
หรือจำแต่ไม่มีปัญญาแก้ คนขับสมองเล็กจะกระทืบคันเร่งเต็มเท้าตลอด ล้อหน้าก็ฟรีจนรอบฯ สวิงขึ้นไปเป็นหมื่นแต่รถได้ความเร็วต่ำกว่ารอบฯ
สมมุติในเกียร์ 1 เครื่องหมุน 10,000 รอบฯ คำนวณไว้ล่วงหน้าว่าจะได้ความเร็ว 80 กม./ชม. แต่ล้อฟรีทิ้งไป 40% ความเร็วจริงเหลือแค่ 48 กม./ชม.
 เสมือนว่าเครื่องหมุนแค่ 6,000 รอบฯ (เพราะฟรีทิ้งไป 40% จาก 10,000 รอบฯ)พอเข้าเกียร์ 2 ที่เลือกอัตราทดไว้ที่ 70% เกียร์ 2 จะเริ่มต้นด้วย4,200 รอบฯ เท่านั้นเอง!
แต่เครื่องมีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 10,000 รอบฯแรงบิดสูงสุดที่ 8500 รอบฯ แล้วที่ 4,200 รอบฯ จะให้รถมันพุ่งได้ยังไง?...
มันมีวิธีแก้ตรงความชิดของเกียร์ 1 และเกียร์ 2 สำหรับคนประเภทนี้โดยเฉพาะ (แต่นักแข่งดีๆ เอาเกียร์โง่ๆ ลูกนี้ไปใช้ไม่ได้)
ถ้าแก้ไม่ได้และกติกาไม่ห้ามไว้ ก็อาจใช้แทร็กชันคอนโทรล เปรียบเทียบความเร็วรอบฯกับความเร็วเกียร์ แล้วตัดแรงบิดทิ้งง่ายๆ เช่น
ปรับลดไฟจุดระเบิด (RETARD TIMING) ให้แรงบิดน้อยลง หน้ายางก็จับแล้ว (แต่ความจริงถ้าฉลาดน้อยถึงขนาดนี้ก็ไม่สมควรจะแข่งรถอีกต่อไปแล้ว)

THAIDRIVER • แปลว่าในเกียร์ 1 ลูกก็มีหลายระดับความ CLOSE

อ. ศิริบูรณ์ • ใช่ 1-2 CLOSE ไม่มาก 2-3 CLOSE มากขึ้น 3-4 CLOSE มากขึ้นอีก 4-5 CLOSE มากที่สุด
 ผมพูดแบบนี้อาจมีคนแย้งว่า เกียร์ 1-2 ของรถแข่ง ชิดกันน้อยกว่าเกียร์ 4-5 ของรถบ้าน...ก็ใช่นะสิ ถ้าจะเทียบความ CLOSE ก็ต้องเทียบในคู่จังหวะเกียร์เดียวกัน

THAIDRIVER • ความ CLOSE ที่ต่างกันในเกียร์รถแข่งขึ้นอยู่กับอะไร

อ. ศิริบูรณ์ • จะ CLOSE มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ เช่น ความแตกต่างของความเร็วในโค้งช้าที่สุด กับความเร็วบนทางตรงยาวที่สุด
สนาม MACAU รถ 2,000 ซีซี 275 แรงม้า หนัก 1,100 กก.วิ่งทางตรงยาวที่สุดได้ประมาณ 260 กม./ชม. ความเร็วที่ HAIRPINขาลงจากเขาช้าที่สุด 30 กม./ชม.
ต้องมีเกียร์ 1 ที่ทำให้รถออกตัวได้แต่โชคดีที่ตรงนั้นเป็นทางลงเขา ถ้าใช้เกียร์ 5 จังหวะ ต้องครอบคลุมความเร็ว 30-260 กม./ชม. ซึ่งห่างไกลกันลิบ
แบ่งช่องยังไงก็ไม่CLOSE มากแต่ถ้าเอารถคันเดียวกันมาวิ่งที่สนามพัทยา บนทางตรงยาวที่สุดได้ความเร็วไม่เกิน 200 กม./ชม.
ทางโค้งความเร็วต่ำสุดประมาณ 85กม./ชม. ถ้าใช้เกียร์ 5 จังหวะเหมือนกัน ก็จะ CLOSE มากกว่าสนามMACAU


THAIDRIVER • ต้องชิดแค่ไหนถึงจะเรียกว่า CLOSE-RATIO


อ. ศิริบูรณ์ • เอาคำจำกัดความง่ายๆ ก็แล้วกันนะ CLOSE-RATIOคือ CLOSE จนกระทั่งออกตัว ‘เป็นผู้ดี’ ด้วยรอบต่ำไม่ได้
นั่นแหละเรียกว่า RATIO สำหรับเกียร์ 1 ของเกียร์จังหวะชิด สำหรับเกียร์สูงสุดก็คือ CLOSE จนกระทั่งขับเดินทางไกลไม่ได้
เพราะเครื่องจะครางจั๊กกะจี้รูหู เกียร์ 5 ทดจัดมากจนกระทั่งใช้ความเร็วตามกฎหมายแล้วยังเครื่องหมุนจี๋ 7,500-8,000 รอบฯ...
แบบนี้ CLOSE พอมั๊ยล่ะ?!

THAIDRIVER • รถสปอร์ตบางรุ่นโฆษณาว่ามีรุ่นเกียร์ CLOSE-RATIOขายเป็น OPTION ด้วย

อ. ศิริบูรณ์ • ลองไปขอยืมมาขับสิ ถ้าออกตัวในเกียร์ 1 ด้วยรอบเครื่องปกติแล้วเครื่องไม่ดับ แสดงว่ายัง CLOSE ไม่จริง!
 เขามีCLOSER-RATIO สำหรับถนน แต่ไม่ใช่ CLOSE-RATIO สำหรับแข่ง

THAIDRIVER • รถคันเดิมเปลี่ยนเกียร์เป็น CLOSE-RATIO วิ่งควอเตอร์ไมล์เร็วขึ้นหรือไม่


อ. ศิริบูรณ์ • ถ้า CLOSE-RATIO นั้นออกตัวได้ และเกียร์สุดท้ายไม่หมดก่อนถึงเส้นชัย ก็จะทำเวลาได้เร็วขึ้น
สมมุติรถไม่แรงมากนัก เอาเป็นว่าพอทำความเร็วปลายสัก 200กม./ชม. ถ้าเปลี่ยนเกียร์ CLOSE-RATIO
 เข้าไปแล้วลากเกียร์ 5เครื่องหมุน 10,000 รอบฯ แล้วได้ความเร็วแค่ 180 กม./ชม. จะวิ่งควอเตอร์ไมล์เร็วขึ้นได้ยังไง? เพราะความเร็วปลายหายไป 20 กม./ชม.
แบบนี้เปลี่ยนเป็น CLOSE-RATIO แล้ววิ่งช้าลงการเลือกใช้อัตราทดตั้งแต่เกียร์ 1 ถึงเกียร์ 5 อาจจะไม่พลาด
แต่ผิดเฟืองท้าย รอบฯ ก็เลยทะลุก่อนถึงปลายทาง ความเร็วปลายหายแถมเกียร์ 1 ออกตัวแล้วล้อฟรีทิ้งเป็นควัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นเกียร์ CLOSE-RATIO ออกตัวด้วยเกียร์ 1 แล้วล้อไม่ฟรีทิ้งหมด เครื่องไม่สะอึกหรือ BOG DOWN ออกตัวได้ ‘เนียน’(CLEAN)
 และในเกียร์สุดท้ายก็วิ่งผ่านเส้นชัยที่รอบฯ สูงกว่ารอบฯแรงม้าสูงสุดเล็กน้อย อย่างนี้เปลี่ยนเป็นเกียร์ CLOSE-RATIO แล้วเร็วกว่าเดิมแน่
แต่ใครล่ะที่จะเลือกเกียร์อย่างนั้นได้? บางคนมาหาผมบอกว่าอยากแข่งควอเตอร์ไมล์ ช่วยทำเกียร์ให้ 1 ลูก แล้วก็หยุดแค่นั้นไม่พูดอะไรต่อ...
ไม่บอกว่ายางโตเท่าไร เฟืองท้ายเบอร์อะไร รถหนักแค่ไหนเครื่องมี POWER-BAND อยู่ที่ไหน ถามว่าเอา DYNO-SHEET มาให้ดูหน่อยได้ไหมก็บอกว่าไม่มี แบบนี้ผมทำให้ไม่ได้
ก่อนจะทำได้อย่างน้อยต้องบอกข้อมูลได้ว่า แรงม้าและแรงบิดสูงสุดอยู่ที่รอบไหน และเครื่องจะหลุดเป็นชิ้นๆ ที่รอบไหน เคยพังมาแล้วหรือยัง แล้วพังที่รอบไหน ถ้าพังที่ 9,000 รอบฯ
คราวหน้าอย่าใช้รอบเกิน 9,000 (ถ้ายังใช้ชิ้นส่วนเหมือนเดิม ก็แปลว่ามีอยู่ 8,000 กว่ารอบฯ) ถ้าบอกว่ามี 700 แรงม้า ที่ 8,000
แรงบิดสูงสุดมาที่ 6,500รอบฯ รถและคนขับหนักรวม 1,000 กก. รูปทรงรถก็ลู่ลมกว่าประตูบ้านเล็กน้อย
 ก็พอจะคำนวณหาความเร็วปลายทางได้ ผิดพลาดไม่เกิน5 กม./ชม.
เริ่มต้นด้วยรอบสูงสุดก่อนเครื่องพัง ย้อนมาหาอัตราทดเกียร์ 5และเฟืองท้ายที่อนุญาตให้ได้ความเร็วปลายทางเท่าที่ควรได้
 จากนั้นไล่กลับไปหาเกียร์ 1 โดยเลือกอัตราทดที่จะทำให้มีแรงบิดที่หน้าสัมผัสของยางมากพอที่เครื่องจะไม่ BOG DOWN และล้อไม่ฟรีเกินกว่า 10%
เมื่อรู้อัตราทดเกียร์ 5 และเกียร์ 1 คราวนี้ก็ง่ายแล้ว หาอัตราทดของเกียร์ที่เหลือตรงกลาง จนกว่าจะครบ 5 เกียร์
จากนั้นก็พิจารณาว่าฟันเฟืองควรจะหยาบหรือละเอียดเพียงใด มีมีดตัดเฟืองเกียร์ (MODULE)เบอร์อะไรบ้าง เพื่อให้ได้อัตราทดที่คำนวณไว้...
แต่กว่าจะกลายเป็นชุดเฟืองเพื่อบรรจุเข้าไปในห้องเกียร์ได้ ยังมีขั้นตอนทางวิศวกรรมอีกเกินกว่า 10 ขั้นตอน
หวังว่าพวกเราจะเข้าใจได้ว่าทำไมผมไม่เอา MENU เฟืองเกียร์ของรถทั้งหลายที่พวกเราจะเอาไปแข่งบนสนามต่างๆ มาเปิดอ้าให้ดูกันฟรีๆ...
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2010 10:18:02 »

สงสัยอันที่แล้วเครียดไป เอาน้ำหนักรถจากโรงงานไปดูเองละกัน



โดเรมอน



สามห่วง



หน้าหนูตูดเป็ด

สังเกตุได้ว่า ตัวล่างสุดกับตัวท็อปน้ำหนักจะห่างกันพอสมควรเนื่องมาจากระบบไฟฟ้าต่างๆ กระจกไฟฟ้ากระจกมองข้างไฟฟ้า พวงเพาเวอร์และอื่นๆ
ใครอยากให้รถแรงขึ้นแบบประหยัด ก็ให้ถอดของเหล่านั้นออก แรงม้าต่อน้ำหนักรถจะน้อยลง ทำให้ม้าเหนี่อยน้อยลง

ส่วนคนที่ชอบเครื่องเสียง หรือ ชอบขนของเต็มรถ ก็ต้องทำเครื่องให้แรงขึ้น ซุบซิบ
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
arTO-TRD
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12,360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2010 10:46:28 »

910 โล รถผมก่อนเปลี่ยนเครื่อง  โอวววว ไม่น่าเชื่อ  

หลังเปลี่ยนเครื่องแล้วหนักขึ้น 90 โล
บันทึกการเข้า
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2010 10:55:30 »

เอาออกดิ
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010 22:37:14 »

ในประเทศไทยเรามี 76 จังหวัด แต่ป้ายทะเบียนรถมี 77 ชื่อ ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ เบตง



เหตุผลที่ต้องมีรถป้ายทะเบียนเบตง เพราะอำเภอเบตง กับอำเภอเมืองยะลา นั้นเส้นทางเดินทางสุดยอดครับ คือ โค้งเยอะมากประกอบกับเส้นทางเปลี่ยวสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขา (และตอนนี้แถมมีโจรใต้ด้วย) และประกอบกับที่ อ.เบตง ค่อนข้างเจริญ กรมการขนส่งทางบก เลยอนุญาตให้มีการจดทะเบียนรถที่เบตงได้ไม่ต้องไปที่ อ.เมืองยะลา นั่นคืออนุญาตให้มีป้ายทะเบียนเบตง ครับ

ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2469 เป็นต้นมา ประกาศ ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2468 โดย มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

ที่มาจาก ราชกิจจานุเบกษา

เครดิต  : http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=3716.0


พอจะเปนความรู้ได้ปะ
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
vitty@LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,891


เมื่อก่อนเคยเปนเจ้าของคันเน้..เว้ย!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010 22:42:05 »

เจ๋งหวะ จาเอาไปสอนนักเรียน
บันทึกการเข้า

6.9
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010 22:44:25 »

จะว่าไป นิตตี้ ก็มีสาระ นะเนี่ย ตรบมือ
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2010 22:46:41 »

 ^ ^
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
natti_ae92_LN.Z
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,222


Love is Fuck!!! Luck is Fake!!!!!!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2010 01:43:15 »

อ่าว เพิ่งอ่านละเอียด 92 มันใช้หัวเทียน รหัส Q หรอเนี่ย ผมใช้ K  มาตลอด จะเป็นไรไหมเนี่ย แล้วลูกทะลุ เกี่ยวกานมะ ได้โปรด.. ตาปริบๆ
บันทึกการเข้า

ปากดีในโลกออนไลน์ เก่งแต่แบบเนี้ยนะ
โปรดอย่าทำเหมือนกรูเป็นคนแปลกหน้า ทั้ง ๆที่เคย "แก้ผ้าต่อหน้ากรู"
หน้า:  «  1 [2] 3 4 ... 7  »  [5»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!