เครดิต เว็บ
www.thaispeedcar.com นะครับ จากลิ้งค์นี้
http://wheel.thaispeedcar.com/tip2.htmอ่านเจอมาครับ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
Forged Wheelsเรียกกันง่ายๆว่าแบบ
Forged เป็นการบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรแรงกดสูง ที่เรียกว่า Forging มีวิธีเริ่มจากการนำแท่งอะลูมิเนียมเกรดพิเศษ เช่น Alloy T6061 หรืออะลูมิเนียมเกรดผสม แบบ Semi Solid ซึ่งส่วนมากจะมีส่วนผสมแของ แม็คนีเซียม เพื่อให้ได้ความแข็ง และน้ำหนักเบา ป้อนเข้าสู่แม่พิมพ์ แล้วใช้เครื่องจักรกดปั้มจนแท่งอะลูมิเนียมขึ้นรูป หลายครั้งหลายขั้นตอน จนได้รูปชิ้นงานตามแบบแม่พิมพ์ ก่อนที่จะส่งเข้ามาตกแต่งจนสวยงาม ประกอบกับวงล้อ การผลิตแบบนี้ใช้ต้นทุนการผลิตสูงมาก แต่จะได้ชิ้นงานที่มีความแข็งแรงสูง หมดปัญหาเรื่องฟองอากาศ และรูพรุนภายใน สิ้นเปลืองวัตถุดิบน้อยกว่า มีความแข็งแรงมากกว่า ชิ้นงานไม่จำเป็นต้องมีความหนา เพราะมีความแข็งแรงอยู่ในตัว จึงทำให้ได้ล้อแม็คมีน้ำหนักเบา ซึ่งราคาขายของล้อพวกนี้จะตัดสินกันที่ ขนาด และน้ำหนักเป็นหลัก ยิ่งมีน้ำหนักเบาราคาจะยิ่งสูงมาก ซึ่งราคาอาจจะแพงกว่าล้อมแม็คพวกแบบหล่อ Cast อยู่หลายเท่าตัว ล้อจำพวกนี้ ได้แก่ล้อแบรนเนมแพงๆ ในปัจจุบัน หรือพวกรถสปอร์ทละดับแนวหน้าของโลก และ แบบที่ใช้ในการแข่งขัน ในสนามแข่งขันต่างๆ
Gravity หรือการตักเท คือการหลอมละลายส่วนผสมในการผลิต ด้วยความร้อนสูง แล้วหยอดส่วนผสมลงในแบบแม่พิมพ์ ให้วัตถุดิบหลอมละลายไหลลงแม่พิมพ์ตามแรงดึงดูดของธรรมชาติ ไม่ผ่านการควบแน่น ความหนาแน่นของเนื้อวัตถุดิบจึงต่ำ ทำให้ภายในชิ้นงานเกิดฟองอากาศ และ รูพรุนมาก ความแข็งแรงน้อย แบบนี้ใช้ในการผลิตล้อแม็คในสมัยแรกๆ ในปัจจุบันไม่ค่อยมีการผลิตแบบนี้กันแล้ว (โบราณ)
High Counter Pressure Molding เป็นการผลิตด้วยเครื่องจักรแบบแรงดันสูง การผลิตจะใช้วิธีหลอมวัตถุดิบอะลูมินั่มผสม ให้เป็นของเหลว จากนั้นฉีดวัตถุดิบเข้าสู่แม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูง จนเนื้อวัตถุดิบกระจายเต็มแม่พิมพ์ เป็นวิธีการผลิตที่ไม่ยุ่งยาก การผลิตแบบนี้มีข้อเสียคือ แม้จะใช้แรงดันในการฉีดสูง แต่การฉีดอะลูมินั่มผสมหลอมเข้าสู่แม่พิมพ์ จะเกิดฟองอากาศที่เป็นรูพรุนอยู่ภายในเนื้องานอยู่มาก ผิวของเนื้องานจะไม่ราบเรียบ รูพรุนต่างๆเหล่านี้มีผลทำให้ถ่วงล้อได้ยาก ไม่ค่อยได้ศูนย์ ความแข็งแรงต่ำเพราะมีจุดประบางอยู่ภายใน รูปแบบของล้อต้องมีความหนาเพื่อความให้เกิดความแข็งแรง จึงทำให้ล้อมีน้ำหนักมาก สังเกตได้จากล้อพวกนี้ผิวงานด้านนอกจะไม่ราบเรียบสวยงาม มีความหนา และ มีน้ำหนักมาก ราคาค่อนข้างต่ำ
Counter Pressure เป็นการผลิตแบบแรงดันต่ำ แบบนี้ต่างจากแบบ High Counter คือการใช้ระบบแม่พิมพ์แบบสุญญากาศ แล้วดูดเอาอะลูมินั่มผสมที่หลอมละลายแล้ว เข้าสู่แบบแม่พิมพ์จนวัตถุดิบเต็มชิ้นงานอย่างทั่วถึง จึงทำให้ฟองอากาศในเนื้องานมีน้อยกว่า ล้อแม็คที่ได้รับการผลิตกรรมวิธีนี้ จะมีความแข็งแรงมากกว่า ผิวงานด้านนอกมีความราบเรียบสวยงาม แบบไม่จำเป็นต้องมีความหนา จึงทำให้ได้ล้อที่มีน้ำหนักที่เบากว่า ต้นทุนการผลิตสูงกว่า จึงทำให้มีราคาสูง ส่วนมากล้อแม็คที่ได้รับมาตราฐาน และ วางขายอยู่ในท้องตลาด จะใช้กรรมวิธีการผลิตแบบนี้
Centrifugal เป็นการผลิตแบบใช้แรงเหวี่ยง ด้วยการนำวัตถุดิบที่หลอมละลายแล้ว ฉีดเข้าไปในแบบแม่พิมพ์ แล้วขึ้นเครื่องหมุนแบบใช้แรงเหวี่ยง จนเนื้อวัตถุดิบรวมตัวกันแน่น การรวมตัวของเนื้อวัตถุดิบจะสม่ำเสมอทั่วกันทั้งแบบพิมพ์ และปล่อยให้แบบ และ วัตถุดิบค่อยๆเย็นตัวลงอย่างช้าๆ จึงทำให้ไม่เกิดฟองอากาศ และรูพรุน ล้อที่ผ่านการผลิตกรรมวิธีนี้จะมีความแข็งแรงสูง ผิวงานสวยงาม แต่การผลิตแบบนี้ค่อนข้างยุ่งยาก หลายขั้นตอน ต้นทุนสูงจนไม่ค่อยได้รับความนิยม จำพวกล้อคุณภาพสูงจากแบรนดังๆ ในสมัยแรกๆ