AE. Racing Club
13 พฤศจิกายน 2024 08:27:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2] 3  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปกติควรจะใช้ความเร็วในการเดินทางเท่าไรดี ในเมื่อ116กม/ชม โดนใบสั่ง  (อ่าน 21128 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
AYEROCK
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 76



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 10:57:56 »

ขับทางไกล ยืนพื้น 120 - 140  แต่ถ้าถนนโลง มีรถขับเร็วกว่าก็จะกดตามครับ  140 - 180  เกินกว่านี้เสียวแล้ว
ยางแค่ 195-55-15  โช้คก็อัดเอา มันกระด้างๆ
บันทึกการเข้า
~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,930


: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 11:26:44 »

ให้ โครต เหง้า มัน ขับ เหอะ 90 !!


ผมถือคติ ใครส่งใบสั่งมา.......บ้าน บึม !!
  ปล่อยพลัง  ปล่อยพลัง ปล่อยพลัง
บันทึกการเข้า

Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 11:37:11 »

อย่างนี้ ขับ ไปเลย เท่าไหร่ก็ได้  เกินนิดหน่อย ยังโดนจับ     ปรับก็เท่ากัน อยู่แล้ว   ซัด โล่ด
บันทึกการเข้า
ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 12:01:58 »

กฏหมาย เมื่อหลายปีก่อนแล้วละครับ ผมว่าควนปรับปรุงเรื่องความเร็ว


เพราะ ความเร็วในการจับเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่เสวงหาผลประโยชน์ มากกว่าบังคับใช้ครับ

ลองไปดูหัวใบปรับนะครับ ปรับ 400 บาท ต่อ 1 คัน  1 ปี ปรับกันเป็นแสนคัน พวกพี่เขาจะมีรายได้จากการปรับกันเท่าไร นี้ละ 40 ล้านนะครับ อันนี้หน้าจะขั้นต่ำนะครับ

ส่วนมากก็จะมาบอกกันว่าขับเร็วก่อให้เกินอุบัติเหตุ  ลองไปดูผล การเกิดอุบัติเหตุ นะครับ ส่วนมาก 80-90% มาจาก สุรา ส่วนที่เหลือ มันก็จะเขียนว่าขับขี่โดยประมาณ
บันทึกการเข้า

yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 12:11:32 »

ผมวิ่ง 120-130 เป็นมาตรฐาน ไม่ได้ขับรถเร็วนะ...แต่กลัวง่วง... นอน

ก็ไอพวกออกกฏมานมีคนขับให้นี่ไม่ได้ขับเองง่ะ... รอ
บันทึกการเข้า

New.
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,024


Love me, love my AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 12:48:35 »

เท่าไหร่ก็ได้ แต่พอเจอพี่ต. ให้เหลือ 90 นอกเขตเทศบาล และ 80 ในเขตเทศบาลครับ
บันทึกการเข้า

AE92 เดิมๆ เครื่องก็ไม่แรง เชิญแซงได้เลย...
AE 115
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,078



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 12:49:55 »

60 - 80
บันทึกการเข้า
Ton_Kab
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 697



ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 12:52:53 »

100-110 หน่ะคับ  ขับช้ามากก็ง่วง  เร็วมากก็กลัวโดนจับ เฮ้ออ
บันทึกการเข้า
ae100ao
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 669



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 13:58:30 »

แล้วแต่อารมณ์จะพาไปคับ
บันทึกการเข้า

ลูกเจ้าแม่
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,315


ตั้งแต่เกิด


ดูรายละเอียด
« ตอบ #29 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 14:01:14 »

ไหนๆก็โดน จัดไป 140 - 170 ครับ ถ้า 90 จริงผมว่านั่งรถทัวร์ดีกว่า
บันทึกการเข้า

ADVAN RG
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,244



ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 14:14:24 »

ตามกฏหมายแล้ว ห้ามขับเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ
ส่วนในที่ชุมชน จะมีกำหนดไว้ตายตัวถ้ารู้จักสังเกต โดยส่วนมากแล้วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ผมว่าความเร็วแค่นี้ ก็ไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยและไม่นานเกินไปแล้วหล่ะครับ

ลองคิดกันดู บางคนทำงานมีเงินเดือนไม่กี่หมื่น แต่ขับรถเร็วเป็นร้อย ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วไปชนคนหรือชนรถ ซึ่งคนๆนั้นมีรายได้เป็นแสนเป็นล้านต่อเดือน แล้วขับรถตามกฏหมาย สุดท้ายไม่มีปัญญาชดใช้ค่าเสียหาย จะยึดอะไรก็ไม่มีให้ยึด

ความเป็นจริงแล้วเมืองไทย อุบัติเหตุบนท้องถนน ผู้ต้องหาไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายได้มีถึง 60 % ของอุบัติเหตุทั้งหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม 2010 14:27:02 โดย SSR VIENNA SCHNITT » บันทึกการเข้า

-- James _ Za --
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,068


ทำดีอยากหวังให้ใครเห็น แค่เรารู้ว่าทำดีก็พอ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 14:26:19 »

รถทัวร์ยังวิ่ง 100+ เลย
บันทึกการเข้า

penglui
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267



ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 14:52:12 »

ปกติผมใช้ที่ 100-140 ซะเป็นส่วนใหญ่

เรื่องจับความเร็วนี่แล้วแต่ดวงครับ วันไหนขับช้าอาจจะไม่เจอด่านหรือกล้องเลย พอคิดจะขับเร็วขึ้นมาวันนั้นพี่หนวดมาพอดี แบบว่า ก็อาจจะเป็นไปได้

แต่บางทีก็คอยสังเกตุรถที่วิ่งสวนกลับมาครับ เค้าจะคอยบอกสัญญาณเตือนกันว่ามีเสือหิว...รออยู่ข้างหน้า
บันทึกการเข้า
tree
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 839


ไปเรื่อยๆ เมื่อยๆก็หยุด


ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 15:08:55 »

เครื่อง ตรวจจับความเร็ว อัตโนมัติ การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้ง
ระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่าย
ภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง
วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะ
ตรวจสอบทะเบียนรถและ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป
และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยัง
กรมการขน ส่ง  เพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร 
International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ
เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ
ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ
เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้   มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่

            1.   เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี   2   จุด
            2.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา   2   จุด
            3.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น   2   จุด 
            4.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึ ง นครสวรรค์   1   จุด 
            5.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก   1   จุด 
            6.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่   1   จุด 
            7.   เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว   1   จุด 
            8.   เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว   1   จุด 
            9.   เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน   1   จุด 
            10.   เส้นทางสายเพชรเกษม   (   เลี่ยงเมือง   )   ชะอำ ถึง ปราณบุรี   1   จุด 
            11.   เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร   1   จุด 
            12.   เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี   1   จุด 
            13.   เส้นทางสายบางนา   -   ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง   1   จุด 
            14.   เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา   1   จุด 
            15.   เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง   2   จุด 
            16.   และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี   1   จุด

                  ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวง
จึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ
และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผี เหล่านี้
โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮเทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่า
เพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง   42,304   ราย
ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่
จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย
หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ 
เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด

            บนทางหลวง ในเขตเทศบาล
            รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน   80   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   60   กม./ชม.

            บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล
            ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน   90   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   80   กม./ชม.
 
           บนมอเตอร์เวย์
            รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน   120   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   100   กม./ชม.
 
            ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้   15-20%   ยังช่วยลดการตายบนถนนได้  12-24% 
แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ หากทุกคน ประมาท เมามายขณะขับรถ
และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย

ตามนี้อ่ะครับ พอดีรถที่บริษัทไปโดนมาเหมือนกัน ตรงเส้นพระราม2 ประมาณ กม.40-กม.50 อ่ะครับ
ก็เลยมีพี่เค้าหาข้อมูลให้ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยน่ะครับ แหะ.. แหะ..
บันทึกการเข้า

~ Funky_nu_NoO :
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,930


: ถ้าไม่รีบ ทำไมไม่ออกพรุ่งนี๊ !!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 16:26:01 »

^
^

เป็นไปได้ผมอยากรู้ราคาต่อเครื่องจังเลยครับ แต่ถึงไม่รู้ก็คงเดาออก....  อิอิ ถอนหายใจ
บันทึกการเข้า

New.
Web Administrator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,024


Love me, love my AE


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 17:55:28 »

^
^

เป็นไปได้ผมอยากรู้ราคาต่อเครื่องจังเลยครับ แต่ถึงไม่รู้ก็คงเดาออก....  อิอิ ถอนหายใจ

กล้องทำงานไม่กี่วันก็คงได้ต้นทุนคืนพร้อมดอกเบี้ยและกำไรแล้วล่ะครับ อิอิ
บันทึกการเข้า

AE92 เดิมๆ เครื่องก็ไม่แรง เชิญแซงได้เลย...
-TOR@RAYONG-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,459


081-939-5609


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 18:02:44 »

เครื่อง ตรวจจับความเร็ว อัตโนมัติ การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้ง
ระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่าย
ภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง
วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะ
ตรวจสอบทะเบียนรถและ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป
และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยัง
กรมการขน ส่ง  เพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร 
International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ
เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ
ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ
เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้   มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่

            1.   เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี   2   จุด
            2.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา   2   จุด
            3.   เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น   2   จุด 
            4.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึ ง นครสวรรค์   1   จุด 
            5.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก   1   จุด 
            6.   เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่   1   จุด 
            7.   เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว   1   จุด 
            8.   เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว   1   จุด 
            9.   เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน   1   จุด 
            10.   เส้นทางสายเพชรเกษม   (   เลี่ยงเมือง   )   ชะอำ ถึง ปราณบุรี   1   จุด 
            11.   เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร   1   จุด 
            12.   เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี   1   จุด 
            13.   เส้นทางสายบางนา   -   ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง   1   จุด 
            14.   เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา   1   จุด 
            15.   เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง   2   จุด 
            16.   และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี   1   จุด

                  ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวง
จึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ
และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผี เหล่านี้
โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮเทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่า
เพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง   42,304   ราย
ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่
จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย
หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ 
เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด

            บนทางหลวง ในเขตเทศบาล
            รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน   80   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   60   กม./ชม.

            บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล
            ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน   90   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   80   กม./ชม.
 
           บนมอเตอร์เวย์
            รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน   120   กม./ชม.
            รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน   100   กม./ชม.
 
            ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้   15-20%   ยังช่วยลดการตายบนถนนได้  12-24% 
แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ หากทุกคน ประมาท เมามายขณะขับรถ
และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย

ตามนี้อ่ะครับ พอดีรถที่บริษัทไปโดนมาเหมือนกัน ตรงเส้นพระราม2 ประมาณ กม.40-กม.50 อ่ะครับ
ก็เลยมีพี่เค้าหาข้อมูลให้ ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยน่ะครับ แหะ.. แหะ..

ยังติดใจอยู่นิดครับ
อย่างผม มั่นใจว่าทุกครั้งที่ผ่านจุดเตือนมีกล้อง ก็เกิน 130-140 ตลอด
ทำไมยังไม่โดน รึโดนแต่ยังส่งมาไม่ถึงก็ไม่น่าใช่
เลยสงสัยว่ากล้องมันแพนมุมกว้างแล้ว จนท. ค่อยซูมเอาหรือเปล่าครับ
รึว่าเวลานั้นขับบี้ๆกันมาคันหน้าโดนไปแล้วผมเลยรอด  ??
บันทึกการเข้า

tree
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 839


ไปเรื่อยๆ เมื่อยๆก็หยุด


ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 18:18:10 »

ตอนที่รถบริาัทโดนนั้น ด้านหน้าด้านข้างด้านหลังมีรถเพียบ แต่โดนถ่ายมาเต็มๆ ไม่รุ็ว่าคันอื่นโดนด้วยหรือเปล่า
อาจจะเข้ามุมกล้องพอดี เห็นคนขับเลย แต่ที่งงคือสิบล้อขันหลังมันขับเร็วขนาดนั้นเลยหรือ 555...
ถ้าไม่อยากโดนกล้องจับขับให้คันหน้าบังไว้แล้วกันครับ...อิอิอิ...
บันทึกการเข้า

bever MuMu.SZ
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,413


ผมไม่ได้บ้ากาม..แค่มี..ไวอากร้า....ในรถเสมอ :-)


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 18:23:02 »

ขับอยู่111ครับ ขับอยู่คันเดียว ไม่รู้ไม่ชี้
บันทึกการเข้า

smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2010 20:00:50 »

ไปกลับ สงขลา-นครปฐม 120-130 ตลอดทางเลย พัก 4 รอบ ช้ากว่านี้คงจอดนอนข้างทางก่อนแน่
บันทึกการเข้า

หน้า:  «  1 [2] 3  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!