AE. Racing Club
28 พฤศจิกายน 2024 09:40:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 [2] 3  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาแชร์ข้อมูลการติดฟิล์มกรองแสงกันเถอะ  (อ่าน 6822 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bangyai01
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 912


อย่ามาจี้ตรูดเขานะเด๋วกดไฟเบรคให้ทิ่มตาบอดซะเลยนิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 08:01:04 »

ผมใช้ไฮคูลอยู่ครับ หน้า40 รอบคัน60 3800 รวมลอกของเก่าออกด้วย ผมเอาแผ่นกันความร้อนที่แปะฝากระโปรงปูใต้หลังคาด้วยแอร์เย็นเร็วขึ้นกว่าเดิม ของเดิมๆติดรถมันเอาเศษผ้าแปะให้2ชิ้น กว้าง1คืบยาว60เซน หนา1เซน มันจะไปกันอะไรได้หละนั่น
บันทึกการเข้า
ตก...กาป๋อง
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,149


ค่ อ ย ๆ ปั้ น ... เ ดี๋ ย ว มั น ก็ วิ่ ง !!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 08:23:53 »

ว่าจะติดอยู่เหมือนกัน...


มาเสพข้อมูลครับผม
บันทึกการเข้า

" ทำไมต้อง AE92 จีทีแค๊กๆ... "  ---> ผมก็แค่ทำตามความฝันในวัยเด็กเท่านั้นเอง
RinSa YoYoLive
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,365


....ยิ้มเข้าไว้ ใจยังสู้ ....


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 09:12:19 »

ติด hi cool R60 hc

ปรอทกลางกันรอย รับประกัน 7 ปีจ๊า
บันทึกการเข้า

WIMON100
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,860



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 09:18:46 »

3M fr20
บันทึกการเข้า

pooca
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 62


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 09:56:42 »

ผมติด 3M -- หน้าเต็ม 60 ที่เหลือ 80... มืดตึ๊บ.... ติดมา 3,000.- มาติดถึงบ้านเลยครับ...
.... ใครสนใจ... หลังไมค์มาเลย.... มีทุกยี่ห้อครับผม.. เด้วแนะนำให้
บันทึกการเข้า
เคลิ้มสมาคม ™
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,671


หล่อไม่จริง ก็เลยหยิ่งไม่เป็น...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 10:33:43 »

ไฮคูลปรอทรอบคัน 80 ส่องแทนกระจกได้เลย ดับเครื่องนั่งอยู่ในรถมีผู้หญิงมาส่องประจำ แคะฟันมั่ง แต่งผมมั่ง

ผมก็ขำมั่ง รับไม่ได้มั่ง  อิอิ  ไม่ไหวแล้ว...
บันทึกการเข้า





" ~ หาเรื่องเที่ยว ~ "
Rong Fuel-Up
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,276



ดูรายละเอียด
« ตอบ #26 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 11:05:36 »

ถ้าไม่รีบรอดูโปรโมชั่นในงานมอเตอร์โชว์ไหมครับ เต้น


แค่ขายต่ำลงจากราคาตั้งแค่นั้นเองน้า   อ่อ อาจได้ของแถมพวกระจุกกระจิก อ่ะ 

ใครรุ้จักผม มาปรึกษาผมแระกัน   
บันทึกการเข้า
chinasak
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


สบาย สบาย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 11:22:46 »

แจ่มๆ  ทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
donut_360@CZ.18
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,648


ชีวิตเราต้องก้าวต่อไปข้างหน้า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 11:24:38 »

จำยี่ห้อมะได้ ทั้งคัน 2300 บ. ตามรูปอ่ะคับ
บันทึกการเข้า

JDEE
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 296


ดูรายละเอียด
« ตอบ #29 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 17:16:52 »

ผมติดฟิล์มยี่ห้อโซล่าโปร นำเข้าจากอเมริกา สีเทาออกสีควันบุหรี่ 60 ลดความร้อนได้ดีเยี่ยมเลยครับ ราคา 2500 ครับ รวมบานหน้าด้วยครับ
บันทึกการเข้า
chinasak
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


สบาย สบาย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 19:01:02 »

นำมาฝากครับผม


คำถามที่พบบ่อยสำหรับฟิล์มกรองแสง
เลือกสีฟิล์มกรองแสงอย่างไรจึงเข้ากับสีรถ?
ตอบ:อันนี้ต้องลองดูเว็บไซด์ของฟิล์มกรองแสงที่มีให้ทดสอบกันครับ ตัวอย่างเช่น ทดสอบสีฟิล์ม 
ฟิล์มกรองแสง 40 %, 60 %, 80 % มีความหมายว่าอย่างไร?
ตอบ : เป็นตัวเลขที่เรียกความเข้มของฟิล์มกรองแสง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงในยุดแรก ๆ ที่มีการจำหน่ายฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยซึ่งในยุคแรก ๆ ฟิล์มกรองแสงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นจะมีไม่กี่เบอร์ คือ ประมาณ 3-4 เบอร์ เช่น เบอร์ 05 , 20 , 35 , 50 ซึ่งเบอร์นั้น ๆ ตามมาตรฐานสากล จะบ่งบอกถึงค่าที่แสงสามารถส่องผ่านฟิล์มกรองแสงได้ เช่น เบอร์ 05 แสงสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 5 %ฟิล์มจะเข้ม 95 % , เบอร์ 20 แสงสามารถส่องผ่านได้ 20 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 80 % เป็นต้น ซึ่งในยุคแรก ๆ ทั้งผู้บริโภคและร้านค้ายังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าวจึงใช้การประมาณความเข้มของฟิล์มแทน เช่น เบอร์ 05 แสงผ่านได้ 5 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 95 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่าฟิล์ม 80 % , เบอร์ 20 แสงส่องผ่านได้ 20 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 80 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่าฟิล์ม 60 % , ฟิล์มเบอร์ 50 แสงส่องผ่านได้ 50 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 50 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่า 40 % ซึ่งการเรียกดังกล่าวยังเข้าใจกับผิด ๆ อยู่จนทุกวันนี้ครับ
ฟิล์มกรองแสงมีทั้งชนิดธรรมดาและชนิดเคลือบโลหะ ทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร และที่เรียกว่าฟิล์มปรอทคืออะไร
ตอบ : ฟิล์มกรองแสงทั้ง 2 ชนิดแตกต่างกันโดยกรรมวิธีการผลิตครับ โดยฟิล์มกรองแสงชนิดธรรมดานั้นจะม่มีส่วนผสมของโลหะหรือสารพิเศษอื่นใด ซึ่งฟิล์มกรองแสงชนิดนี้จะมีราคาที่ถูกแต่การป้องกันความร้อนจะน้อยแม้ว่าจะมีสีเข้มมากก็ตาม รวมถึงอายุการใช้งานที่ต่ำคือฟิล์มกรองแสงชนิดนี้พอหมดสภาพแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง , พองตัว , แห้งกรอบ เหมือนที่ท่านเห็นที่รถบางคันบนท้องถนนนั่นแหละครับ ส่วนฟิล์มชนิดเคลือบโลหะหรือที่เรียกกันว่าฟิล์มปรอทเป็นชนิดเดียวกันครับ ที่เรียกกันว่าปรอทไม่ได้หมายความว่าใช้ปรอทในการผลิตนะครับ แต่เป็นเพราะว่าฟิล์มชนิดนี้จะมีความเงาเป็นพิเศษ ซึ่งในตรง
ส่วนของความเงาก็จะมีความเงามากหรือน้อยแตกต่างกัน โดยในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตก็จะมีอยู่มากมายหลายชนิด เช่น เงิน , ทองแดง , กราไฟท์ เป็นต้น ซึ่งวัถุดิบแต่ละชนิดจะให้สีสรรที่แตกต่างกัน และฟิล์มกรองแสงประเภทนี้จะมีคุณสมบัติในการลดความร้อนได้ดีกว่าซึ่งถ้าเทียบกับฟิล์มกรองแสงธรรมดาที่มีความเข้มมากเช่นเบอร์ 05 เทียบกับฟิล์มโลหะเบอร์ 50 ฟิล์มเคลือบโลหะยังสามารถลด
ความร้อนจากแสงแดดได้ดีเยี่ยมกว่า และฟิล์มเคลือบโลหะยังมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า ซึ่งอดีตราคาฟิล์มโลหะจะสูงมากและมีตัวเลือกน้อย แต่ปัจจุบันราคาจะไม่สูงเหมือนอดีตและมีให้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อ ลองเลือกใช้ดูนะครับ
ติดฟิล์มกรองแสงประเภทโลหะหรือปรอทจะทำให้สะท้อนตารถคันอื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่?
ตอบ : ฟิล์มกรองแสงประเภทโลหะจะมีหลากหลายความเข้มและหลากหลายความเงา ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงก็แทบจะไม่มีผลครับเพราะโดยปกติแล้วขอให้ท่านลองสังเกตดู กระจกรถบางคันกสามารถ็สะท้อนแสงมากทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มกรองแสงเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมุมในการสะท้อนก็จะต้องขึ้น อยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ช่วงเวลา มุมเอียงของกระจกซึ่งมุมเอียงของกระจกนั้นจะยิ่งสังเกตุได้ง่าย โดยถ้าขับรถตามหลังรถบางคันจะเห็นว่ามุมเอียงของกระจกจะไม่เท่ากัน และรถบางประเภทมุมของกระจกแทบจะตั้งฉากเสียด้วยซ้ำ สรุปคือแทบไม่มีผลครับ ฟิล์มประเภทโลหะจะเพิ่มค่าความสะท้อนของแสงขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยครับ
ถ้าติดฟิลม์กระจกรถ 60% และหากติดฟิล์มที่เคลือบปรอทตำรวจจะจับไหม?
ตอบ : มีการประกาศยกเลิกกฎหมายฟิล์มกรองแสงไปตั้งแต่ปี 2543 แล้วครับดังนั้นจะมืดแค่ไหนก้อไม่มีใครห้าม แต่ควรดูด้านความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนฟิลม์ปรอท มันคือฟิลม์ที่มีโลหะฉาบอยู่ มีลักษณะสะท้านแสงเหมือนกระจกถ้ามีน้อยๆ สะท้อนแสงน้อยๆ ไม่เป็นไรแต่ถ้ามีเยอะๆ สะท้อนแสงเยอะ
จะเข้าข่ายการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีการสะท้อนแสงสูงตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12
ว่าด้วยเรื่องของส่วนควบที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น 
 
ฟิล์มกรองแสงเปลี่ยนเป็นสีม่วงและเป็นฟองอากาศแล้ว ต้องการจะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่ แต่กลัวเส้นไล่ฝ้าจะเสีย ควรจะทำอย่างไร?
ตอบ : ก่อนอื่นต้องทดสอบดูก่อนว่าไล่ฝ้ายังทำงานตามปกติไหม โดยการเปิดสวิทซ์ไล่ฝ้าสักพักแล้วลองเอามือจับที่กระจกดู ถ้ากระจกร้อนก็แสดงว่าเส้นไล่ฝ้ายังทำงานปกติ ทีนี้ถึงขั้นตอนการลอกฟิล์มกรองแสงครับที่ยุคนี้เป็นยุคสมัยใหม่มีเครื่องมือเครื่องใช้ให้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาในการลอกกาว ระบบการทำความสะอาดโดยใช้ไอน้ำหรือสตรีมเมอร์ อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยได้ครับ พอลอกแล้วติดตั้งฟิล์มใหม่เสร็จ ก็ให้ลองการทำงานของเส้นไล่ฝ้าเหมือนเดิมรับรองว่าเส้นไล่ฝ้าเป็นปกติแน่ครับ 
ฟิล์มกรองแสงกันรอยขีดข่วนติดตั้งไปแล้วทำไมถึงยังมีรอยที่ฟิล์มกรองแสงตอนเลื่อนกระจกขึ้น-ลง?
ตอบ : สำหรับรอยที่เกิดขึ้นเกิดจากการเลื่อนกระจกขึ้น-ลงครับ แต่ในสภาพการใช้งานตามปกติ ฟิล์มกรองแสงจะสามารถกันรอยขีดข่วนจากสักหลาดของประตูได้อยู่แล้ว แต่บางครั้งที่สักหลาดประตูอาจมีเศษของทรายหรือก้อนกรวดอยู่ ซึ่งพอเลื่อนกระจกขึ้น-ลงแล้ว สารกันรอยขีดข่วนก็ไม่สามารถป้องกันได้ จึงควรหมั่นตรวจตราทำความสะอาดบริเวณสักหลาดให้ดีครับ และอาการลักษณะนี้ที่เกิดขึ้น อยูนอกเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพของฟิล์มกรองแสง 
ฟิล์มกรองแสงเกี่ยวข้องอย่างไรกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง?
ตอบ : คือฟิล์มกรองแสงที่ดี ยิ่งลดความร้อนได้เยอะเท่าไหร่ ระบบการทำความเย็นหรือแอร์ก็ทำงานน้อยลงหรือคอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากเพื่อให้ได้ความเย็นตามต้องการ ซึ่งระบบแอร์นั้นก็ใช้พลังงานจากการหมุนของเครื่องยนต์ ดังนั้นถ้าแอร์สามารถทำงานได้น้อยลง เครื่องยนต์ก็ทำงานน้อยลงด้วยจึงทำให้สามารถช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และมีของแถมด้วยคือลดรายจ่ายในการดูแลรักษาระบบแอร์ด้วย ทั้งอะไหล่และน้ำยาแอร์ดังนั้นการเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่ลดความร้อนดี ๆ ก็มีส่วนช่วยในการลดใช้พลังงานและช่วยลดภาวะโลกร้อนไปในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวนี้ฟิล์มกรองแสงดีๆ มีให้เลือกเยอะและราคาไม่สูงมาก
การติดฟิล์มกรองแสงแบบบานหน้าเต็มบานจะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร?
ตอบ : การติดฟิล์มกรองแสงแบบบานหน้าเต็มบานจะช่วยลดความร้อนที่เข้ามาทางกระจกด้านหน้าของรถยนต์ ลดแสงที่จ้าในเวลากลางวัน กรณีกระจกเกิดแตกขณะขับขี่หรือถูกสะเก็ดหินฟิล์มกรองแสงจะช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้แตกกระจาย คือ เศษกระจกแทนที่จะกระเด็นเข้ามาภายในโดยเศษกระจกอาจจะทำอันตรายหรือกระเด็นเข้าตาได้ แต่การติดฟิล์มแบบบานหน้าเต็มก็ไม่ควรที่จะติดฟิล์มที่มีความเข้มมากจนเกินไป เพราะตอนกลางคืนจะขับค่อนข้างยาก และอาจถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ถ้าให้ดีติดฟิล์มที่มีค่าแสงส่องผ่านตั้งแต่ 40 % ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว
ลบโลโก้ที่ติดอยู่บนฟิล์มกรองแสงได้อย่างไร?
ตอบ : ใช้น้ำยาล้างเล็บลบออกได้เลยครับ แต่ปกติผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงจะมีน้ำยาลบแถมให้อยู่แล้ว
คราบน้ำที่เกิดหลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงและมีน้ำขังอยู่ภายในจะหายไปไหม?
ตอบ : โดยปกติคราบน้ำดังกล่าวจะหายไปเองในระยะเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าหลังจากที่ได้ติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้ว ฟิล์มกรองแสงที่ติดตั้งโดนแสงแดดมากน้อยเพียงใด ยิ่งโดนมากยิ่งจะทำให้คราบน้ำที่ขังอยู่ระหว่างฟิล์มกรองแสงกับกระจกแห้งเร็วมากขึ้น
ข้อควรปฎิบัติในการดูแลรักษาฟิล์มกรองแสงหลังจากติดตั้ง
•ห้ามเลื่อนกระจกขึ้น - ลง หรือ เช็ด ถูฟิล์ม ภายใน 7 วัน หลังจากติดตั้ง เนื่องจากกาวของฟิล์มกรองแสงจะใช้ระยะเวลาในการอยู่ตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เช่น การถูกแสงแดด ควรจะรอให้ครบระยะเวลาก่อนจึงเลื่อนหรือเช็ดกระจกได้
•หากมีปัญหาอื่นใด เช่น มีฟองอากาศ หรือ ฟิล์มอ้า ฯลฯ ให้รีบติดต่อศูนย์บริการภายในระยะเวลารับประกัน
•ในการทำความสะอาดฟิล์มกรองแสง ควรใช้ผ้าสะอาด ผ้านุ่มหรือฟองน้ำ ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดฟิล์ม เพื่อกำจัดคราบมัน และไม่ควรนำวัสดุที่ลักษณะเป็นของแข็งหรือผิวไม่เรียบเช็ดถูที่กระจกเป็นอันขาด
•ห้ามใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือสารเคมีที่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย ( NH4) เพราะอาจทำให้ ชั้นกันรอยของฟิล์มเสียหายได้
•ควรหมั่นดูแลรักษาร่องกระจก ไม่ให้มีเศษทรายหรือก้อนกรวดค้างอยู่ในราง เพราะจะทำให้ฟิล์มกรองแสงเกิดความเสียหายได้ 
บันทึกการเข้า
♀♥ღMoO--SOnGzaღ♥♂ เรารักในหลวง
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,842


มีตังค์เมือไรจะกลับมาขับเออีอีกครั้ง


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 21:12:03 »

นำมาฝากครับผม


คำถามที่พบบ่อยสำหรับฟิล์มกรองแสง
เลือกสีฟิล์มกรองแสงอย่างไรจึงเข้ากับสีรถ?
ตอบ:อันนี้ต้องลองดูเว็บไซด์ของฟิล์มกรองแสงที่มีให้ทดสอบกันครับ ตัวอย่างเช่น ทดสอบสีฟิล์ม 
ฟิล์มกรองแสง 40 %, 60 %, 80 % มีความหมายว่าอย่างไร?
ตอบ : เป็นตัวเลขที่เรียกความเข้มของฟิล์มกรองแสง ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงในยุดแรก ๆ ที่มีการจำหน่ายฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยซึ่งในยุคแรก ๆ ฟิล์มกรองแสงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นจะมีไม่กี่เบอร์ คือ ประมาณ 3-4 เบอร์ เช่น เบอร์ 05 , 20 , 35 , 50 ซึ่งเบอร์นั้น ๆ ตามมาตรฐานสากล จะบ่งบอกถึงค่าที่แสงสามารถส่องผ่านฟิล์มกรองแสงได้ เช่น เบอร์ 05 แสงสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 5 %ฟิล์มจะเข้ม 95 % , เบอร์ 20 แสงสามารถส่องผ่านได้ 20 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 80 % เป็นต้น ซึ่งในยุคแรก ๆ ทั้งผู้บริโภคและร้านค้ายังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าวจึงใช้การประมาณความเข้มของฟิล์มแทน เช่น เบอร์ 05 แสงผ่านได้ 5 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 95 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่าฟิล์ม 80 % , เบอร์ 20 แสงส่องผ่านได้ 20 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 80 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่าฟิล์ม 60 % , ฟิล์มเบอร์ 50 แสงส่องผ่านได้ 50 % ฟิล์มจะมีความเข้ม 50 % แต่เรียกฟิล์มเบอร์นี้ว่า 40 % ซึ่งการเรียกดังกล่าวยังเข้าใจกับผิด ๆ อยู่จนทุกวันนี้ครับ
ฟิล์มกรองแสงมีทั้งชนิดธรรมดาและชนิดเคลือบโลหะ ทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร และที่เรียกว่าฟิล์มปรอทคืออะไร
ตอบ : ฟิล์มกรองแสงทั้ง 2 ชนิดแตกต่างกันโดยกรรมวิธีการผลิตครับ โดยฟิล์มกรองแสงชนิดธรรมดานั้นจะม่มีส่วนผสมของโลหะหรือสารพิเศษอื่นใด ซึ่งฟิล์มกรองแสงชนิดนี้จะมีราคาที่ถูกแต่การป้องกันความร้อนจะน้อยแม้ว่าจะมีสีเข้มมากก็ตาม รวมถึงอายุการใช้งานที่ต่ำคือฟิล์มกรองแสงชนิดนี้พอหมดสภาพแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง , พองตัว , แห้งกรอบ เหมือนที่ท่านเห็นที่รถบางคันบนท้องถนนนั่นแหละครับ ส่วนฟิล์มชนิดเคลือบโลหะหรือที่เรียกกันว่าฟิล์มปรอทเป็นชนิดเดียวกันครับ ที่เรียกกันว่าปรอทไม่ได้หมายความว่าใช้ปรอทในการผลิตนะครับ แต่เป็นเพราะว่าฟิล์มชนิดนี้จะมีความเงาเป็นพิเศษ ซึ่งในตรง
ส่วนของความเงาก็จะมีความเงามากหรือน้อยแตกต่างกัน โดยในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตก็จะมีอยู่มากมายหลายชนิด เช่น เงิน , ทองแดง , กราไฟท์ เป็นต้น ซึ่งวัถุดิบแต่ละชนิดจะให้สีสรรที่แตกต่างกัน และฟิล์มกรองแสงประเภทนี้จะมีคุณสมบัติในการลดความร้อนได้ดีกว่าซึ่งถ้าเทียบกับฟิล์มกรองแสงธรรมดาที่มีความเข้มมากเช่นเบอร์ 05 เทียบกับฟิล์มโลหะเบอร์ 50 ฟิล์มเคลือบโลหะยังสามารถลด
ความร้อนจากแสงแดดได้ดีเยี่ยมกว่า และฟิล์มเคลือบโลหะยังมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า ซึ่งอดีตราคาฟิล์มโลหะจะสูงมากและมีตัวเลือกน้อย แต่ปัจจุบันราคาจะไม่สูงเหมือนอดีตและมีให้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อ ลองเลือกใช้ดูนะครับ
ติดฟิล์มกรองแสงประเภทโลหะหรือปรอทจะทำให้สะท้อนตารถคันอื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่?
ตอบ : ฟิล์มกรองแสงประเภทโลหะจะมีหลากหลายความเข้มและหลากหลายความเงา ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงก็แทบจะไม่มีผลครับเพราะโดยปกติแล้วขอให้ท่านลองสังเกตดู กระจกรถบางคันกสามารถ็สะท้อนแสงมากทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มกรองแสงเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมุมในการสะท้อนก็จะต้องขึ้น อยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ช่วงเวลา มุมเอียงของกระจกซึ่งมุมเอียงของกระจกนั้นจะยิ่งสังเกตุได้ง่าย โดยถ้าขับรถตามหลังรถบางคันจะเห็นว่ามุมเอียงของกระจกจะไม่เท่ากัน และรถบางประเภทมุมของกระจกแทบจะตั้งฉากเสียด้วยซ้ำ สรุปคือแทบไม่มีผลครับ ฟิล์มประเภทโลหะจะเพิ่มค่าความสะท้อนของแสงขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยครับ
ถ้าติดฟิลม์กระจกรถ 60% และหากติดฟิล์มที่เคลือบปรอทตำรวจจะจับไหม?
ตอบ : มีการประกาศยกเลิกกฎหมายฟิล์มกรองแสงไปตั้งแต่ปี 2543 แล้วครับดังนั้นจะมืดแค่ไหนก้อไม่มีใครห้าม แต่ควรดูด้านความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนฟิลม์ปรอท มันคือฟิลม์ที่มีโลหะฉาบอยู่ มีลักษณะสะท้านแสงเหมือนกระจกถ้ามีน้อยๆ สะท้อนแสงน้อยๆ ไม่เป็นไรแต่ถ้ามีเยอะๆ สะท้อนแสงเยอะ
จะเข้าข่ายการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีการสะท้อนแสงสูงตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12
ว่าด้วยเรื่องของส่วนควบที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น 
 
ฟิล์มกรองแสงเปลี่ยนเป็นสีม่วงและเป็นฟองอากาศแล้ว ต้องการจะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่ แต่กลัวเส้นไล่ฝ้าจะเสีย ควรจะทำอย่างไร?
ตอบ : ก่อนอื่นต้องทดสอบดูก่อนว่าไล่ฝ้ายังทำงานตามปกติไหม โดยการเปิดสวิทซ์ไล่ฝ้าสักพักแล้วลองเอามือจับที่กระจกดู ถ้ากระจกร้อนก็แสดงว่าเส้นไล่ฝ้ายังทำงานปกติ ทีนี้ถึงขั้นตอนการลอกฟิล์มกรองแสงครับที่ยุคนี้เป็นยุคสมัยใหม่มีเครื่องมือเครื่องใช้ให้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาในการลอกกาว ระบบการทำความสะอาดโดยใช้ไอน้ำหรือสตรีมเมอร์ อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยได้ครับ พอลอกแล้วติดตั้งฟิล์มใหม่เสร็จ ก็ให้ลองการทำงานของเส้นไล่ฝ้าเหมือนเดิมรับรองว่าเส้นไล่ฝ้าเป็นปกติแน่ครับ 
ฟิล์มกรองแสงกันรอยขีดข่วนติดตั้งไปแล้วทำไมถึงยังมีรอยที่ฟิล์มกรองแสงตอนเลื่อนกระจกขึ้น-ลง?
ตอบ : สำหรับรอยที่เกิดขึ้นเกิดจากการเลื่อนกระจกขึ้น-ลงครับ แต่ในสภาพการใช้งานตามปกติ ฟิล์มกรองแสงจะสามารถกันรอยขีดข่วนจากสักหลาดของประตูได้อยู่แล้ว แต่บางครั้งที่สักหลาดประตูอาจมีเศษของทรายหรือก้อนกรวดอยู่ ซึ่งพอเลื่อนกระจกขึ้น-ลงแล้ว สารกันรอยขีดข่วนก็ไม่สามารถป้องกันได้ จึงควรหมั่นตรวจตราทำความสะอาดบริเวณสักหลาดให้ดีครับ และอาการลักษณะนี้ที่เกิดขึ้น อยูนอกเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพของฟิล์มกรองแสง 
ฟิล์มกรองแสงเกี่ยวข้องอย่างไรกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง?
ตอบ : คือฟิล์มกรองแสงที่ดี ยิ่งลดความร้อนได้เยอะเท่าไหร่ ระบบการทำความเย็นหรือแอร์ก็ทำงานน้อยลงหรือคอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากเพื่อให้ได้ความเย็นตามต้องการ ซึ่งระบบแอร์นั้นก็ใช้พลังงานจากการหมุนของเครื่องยนต์ ดังนั้นถ้าแอร์สามารถทำงานได้น้อยลง เครื่องยนต์ก็ทำงานน้อยลงด้วยจึงทำให้สามารถช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และมีของแถมด้วยคือลดรายจ่ายในการดูแลรักษาระบบแอร์ด้วย ทั้งอะไหล่และน้ำยาแอร์ดังนั้นการเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่ลดความร้อนดี ๆ ก็มีส่วนช่วยในการลดใช้พลังงานและช่วยลดภาวะโลกร้อนไปในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดี๋ยวนี้ฟิล์มกรองแสงดีๆ มีให้เลือกเยอะและราคาไม่สูงมาก
การติดฟิล์มกรองแสงแบบบานหน้าเต็มบานจะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร?
ตอบ : การติดฟิล์มกรองแสงแบบบานหน้าเต็มบานจะช่วยลดความร้อนที่เข้ามาทางกระจกด้านหน้าของรถยนต์ ลดแสงที่จ้าในเวลากลางวัน กรณีกระจกเกิดแตกขณะขับขี่หรือถูกสะเก็ดหินฟิล์มกรองแสงจะช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้แตกกระจาย คือ เศษกระจกแทนที่จะกระเด็นเข้ามาภายในโดยเศษกระจกอาจจะทำอันตรายหรือกระเด็นเข้าตาได้ แต่การติดฟิล์มแบบบานหน้าเต็มก็ไม่ควรที่จะติดฟิล์มที่มีความเข้มมากจนเกินไป เพราะตอนกลางคืนจะขับค่อนข้างยาก และอาจถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ถ้าให้ดีติดฟิล์มที่มีค่าแสงส่องผ่านตั้งแต่ 40 % ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว
ลบโลโก้ที่ติดอยู่บนฟิล์มกรองแสงได้อย่างไร?
ตอบ : ใช้น้ำยาล้างเล็บลบออกได้เลยครับ แต่ปกติผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงจะมีน้ำยาลบแถมให้อยู่แล้ว
คราบน้ำที่เกิดหลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงและมีน้ำขังอยู่ภายในจะหายไปไหม?
ตอบ : โดยปกติคราบน้ำดังกล่าวจะหายไปเองในระยะเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าหลังจากที่ได้ติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้ว ฟิล์มกรองแสงที่ติดตั้งโดนแสงแดดมากน้อยเพียงใด ยิ่งโดนมากยิ่งจะทำให้คราบน้ำที่ขังอยู่ระหว่างฟิล์มกรองแสงกับกระจกแห้งเร็วมากขึ้น
ข้อควรปฎิบัติในการดูแลรักษาฟิล์มกรองแสงหลังจากติดตั้ง
•ห้ามเลื่อนกระจกขึ้น - ลง หรือ เช็ด ถูฟิล์ม ภายใน 7 วัน หลังจากติดตั้ง เนื่องจากกาวของฟิล์มกรองแสงจะใช้ระยะเวลาในการอยู่ตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เช่น การถูกแสงแดด ควรจะรอให้ครบระยะเวลาก่อนจึงเลื่อนหรือเช็ดกระจกได้
•หากมีปัญหาอื่นใด เช่น มีฟองอากาศ หรือ ฟิล์มอ้า ฯลฯ ให้รีบติดต่อศูนย์บริการภายในระยะเวลารับประกัน
•ในการทำความสะอาดฟิล์มกรองแสง ควรใช้ผ้าสะอาด ผ้านุ่มหรือฟองน้ำ ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดฟิล์ม เพื่อกำจัดคราบมัน และไม่ควรนำวัสดุที่ลักษณะเป็นของแข็งหรือผิวไม่เรียบเช็ดถูที่กระจกเป็นอันขาด
•ห้ามใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือสารเคมีที่มีส่วนประกอบของแอมโมเนีย ( NH4) เพราะอาจทำให้ ชั้นกันรอยของฟิล์มเสียหายได้
•ควรหมั่นดูแลรักษาร่องกระจก ไม่ให้มีเศษทรายหรือก้อนกรวดค้างอยู่ในราง เพราะจะทำให้ฟิล์มกรองแสงเกิดความเสียหายได้ 

ขอบคุณครับ คำนับ
บันทึกการเข้า

iPuNN (ปั้น)
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,915


20v ก็มันส์แล้ว!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 21:20:09 »

เพิ่งไปถามมาเมื่ออาทิตที่แล้วครับ

ไฮ - คูล หน้าเต้ม 50% ราคา 2500 บาท
ไฮ - คูล หน้าเต้ม 60% ราคา 2800 บาท

ถ้าแบ่งละครึ่งอย่างเช่นจะเอา ครึ่ง หน้า 50 ครึ่งหลัง 60 หน้าเต้ม จะเสียราคาเศษครับ

ตกแล้ว รวมเป็น 3500 บาท ถ้าจะเอาอย่างละครึ่ง
บันทึกการเข้า

แค่รถสวย แอร์์เย็น เพลงเพาะๆ ก็พอแหละครับ
ฝากกระทู้นี้ ไว้ในอ้อมใจ ของ มิตรรัก92ด้วยน่ะคับ
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=118005.0
Sky AE9536
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2010 22:23:12 »

ไฮคูลปรอทรอบคัน 80 ส่องแทนกระจกได้เลย ดับเครื่องนั่งอยู่ในรถมีผู้หญิงมาส่องประจำ แคะฟันมั่ง แต่งผมมั่ง

ผมก็ขำมั่ง รับไม่ได้มั่ง  อิอิ  ไม่ไหวแล้ว...

ผมใช้อยู้  รับรองว่าจิง
บันทึกการเข้า

ไม่รู้ไม่ชี้ถึงบอดี้จะเป็นซีดาน แต่จิตวิญญาณมันคือสปอร์ต สุดยอด
UltraKw@nG
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,817


น้ำใจให้เท่าไหร ไม่มีวันหมด!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010 00:45:29 »

เก็บข้อมูล
บันทึกการเข้า

chinasak
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


สบาย สบาย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010 03:24:57 »

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=61968.0

ตามลิ้งค์นี้ไปครับ น่าสนใจ เค้าขาย บริการในเวปเรานี่เจอมา ลองเข้าไปดู
คิดว่า หน้า 60 ที่เหลือ 80 Hi kool จ่าย 2900 บาท
เพื่อนๆว่า มันมืดไปไหมครับ
คนเคยใช้ บอกหน่อยครับ
บันทึกการเข้า
*OommY*
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,363


----


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2010 07:45:24 »

ขอบบคุณครับสำครับความรู้ดี ๆๆ  คำนับ คำนับ คำนับ
บันทึกการเข้า
chinasak
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


สบาย สบาย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010 12:09:08 »

อย่างที่รู้กันนะครับ
ฟิล์ม มี 2 ชนิด แบบไม่มีปรอท และ มีปรอท
ผมถามที่ขอนแก่น อย่างแพงเลยครับพี่น้อง
      1. ฟิล์มดำ(ไม่มีปรอท) น่ะ ยี่ห้อซันซายน์ (พูดมาผมไม่เคยได้ยินหรอก) รอบคัน 2100 บาท หน้า60  รอบ80
      2. ฟิล์มปรอท  ยี่ห้อซันบลอก (อันนี้ก็ไม่รู้อีก) รอบคัน 2400 บวกบานหน้าอีก 800 = 3200
      3. Hi-cool (อันนี้รู้ ที่ร้านไม่มีแต่เค้าหาได้) รอบคัน 4000 บวกบานหน้าอีกต่างหาก 1500 = 5500 (แพงจัง) เค้าบอกแพงมาตั้งแต่เกิด
      4. Lamina (รู้ ถามไปงั้นๆ) รอบคัน 4800 บวกบานหน้าอีกต่างหากเช่นกัน พันกว่า
      แพงจัง  ในเวปเรา Hi cool ครบๆ แค่ 2900 เอง รวมบานหน้าแล้วด้วย
             เพื่อนๆเห็นว่าไงครับ ผมจอดรถถามตรงๆเลย  ไม่ติด มันแพง.......
                          รอติด กทม.  ดีกว่า มีโอกาสจะไปติดครับ เซ้งกับราคาเว่อร์ๆ
บันทึกการเข้า
chinasak
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


สบาย สบาย


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010 12:10:43 »

อย่างที่รู้กันนะครับ
ฟิล์ม มี 2 ชนิด แบบไม่มีปรอท และ มีปรอท
ผมถามที่ขอนแก่น อย่างแพงเลยครับพี่น้อง
      1. ฟิล์มดำ(ไม่มีปรอท) น่ะ ยี่ห้อซันซายน์ (พูดมาผมไม่เคยได้ยินหรอก) รอบคัน 2100 บาท หน้า60  รอบ80
      2. ฟิล์มปรอท  ยี่ห้อซันบลอก (อันนี้ก็ไม่รู้อีก) รอบคัน 2400 บวกบานหน้าอีก 800 = 3200
      3. Hi-cool (อันนี้รู้ ที่ร้านไม่มีแต่เค้าหาได้) รอบคัน 4000 บวกบานหน้าอีกต่างหาก 1500 = 5500 (แพงจัง) เค้าบอกแพงมาตั้งแต่เกิด
      4. Lamina (รู้ ถามไปงั้นๆ) รอบคัน 4800 บวกบานหน้าอีกต่างหากเช่นกัน พันกว่า
      แพงจัง  ในเวปเรา Hi cool ครบๆ แค่ 2900 เอง รวมบานหน้าแล้วด้วย
             เพื่อนๆเห็นว่าไงครับ ผมจอดรถถามตรงๆเลย  ไม่ติด มันแพง.......
                          รอติด กทม.  ดีกว่า มีโอกาสจะไปติดครับ เซ้งกับราคาเว่อร์ๆ
บันทึกการเข้า
NeTGoi
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 215


^__^


ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2010 14:43:46 »

ผม ไฮคูล  3 บานหน้า R 30   3 บานหลัง R90  ครับ 2500 บาท
บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 [2] 3  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!