farm_p
|
|
« ตอบ #860 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 18:44:54 » |
|
ขอถามเรื่องน้ำมันเครื่องต่อครับ 10w-50 กับ 10w-55 นี่คุณสมบัติมันต่างกันเยอะไหมครับ ทำไรราคามันต่างกันถึงสองเท่าเลยอ่า แล้วสามเอสโบ อย่างเราๆ นี่ 50 หรือ 55 ดีงับ พี่ๆใช้ตัวไหนกันอยู่บ้างงับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
@~GID_GP Car Mods~@
|
|
« ตอบ #861 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 20:58:33 » |
|
ขอถามเรื่องน้ำมันเครื่องต่อครับ 10w-50 กับ 10w-55 นี่คุณสมบัติมันต่างกันเยอะไหมครับ ทำไรราคามันต่างกันถึงสองเท่าเลยอ่า แล้วสามเอสโบ อย่างเราๆ นี่ 50 หรือ 55 ดีงับ พี่ๆใช้ตัวไหนกันอยู่บ้างงับ วางแล้วหรอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
farm_p
|
|
« ตอบ #862 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 20:59:59 » |
|
ขอถามเรื่องน้ำมันเครื่องต่อครับ 10w-50 กับ 10w-55 นี่คุณสมบัติมันต่างกันเยอะไหมครับ ทำไรราคามันต่างกันถึงสองเท่าเลยอ่า แล้วสามเอสโบ อย่างเราๆ นี่ 50 หรือ 55 ดีงับ พี่ๆใช้ตัวไหนกันอยู่บ้างงับ วางแล้วหรอครับ พุ่งนี้จะเอารถไปทิ้งไว้แล้วครับ หลังจากรอคิวมานานข้ามปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
@~GID_GP Car Mods~@
|
|
« ตอบ #863 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 22:14:05 » |
|
ขอถามเรื่องน้ำมันเครื่องต่อครับ 10w-50 กับ 10w-55 นี่คุณสมบัติมันต่างกันเยอะไหมครับ ทำไรราคามันต่างกันถึงสองเท่าเลยอ่า แล้วสามเอสโบ อย่างเราๆ นี่ 50 หรือ 55 ดีงับ พี่ๆใช้ตัวไหนกันอยู่บ้างงับ วางแล้วหรอครับ พุ่งนี้จะเอารถไปทิ้งไว้แล้วครับ หลังจากรอคิวมานานข้ามปี งั้นให้แกจัดให้ แล้วถามว่าแกเติมอะไรให้ดีกว่าพี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #864 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 23:46:58 » |
|
ของผมใช้ 10W-40 แล้วแต่สะดวกครับ
จัดหนัก
มาทำความเข้าใจกับตัวเลข 0w-40, 5w-40, 10w-40, 5w-50 ของน้ำมันเครื่องกันครับ
หลายท่านอาจจะคุ้นกับเลขพวกนี้ของน้ำมันเครื่อง 0w-40, 5w-40, 10w-40, 5w-50แต่ก็ยังไม่เคลียร์ว่าความหมายของมันคืออะไร มีผลกับคุณสมบัติของตัวน้ำมันเครื่องยังไงตัวเลข 0w-40, 5w-40, 10w-40, 5w-50 ตามประสาช่างทั่วไปคือ "เบอร์น้ำมันเครื่อง"แต่จริงๆ แล้วตัวเลขพวกนี้มันคือ ค่าความหนืด หรือ Viscosity ของน้ำมันเครื่องนั่นเอง แล้วค่าความหนืดคืออะไรหละ? ... ค่าความหนืด หรือเรียกอีกชื่อคือ ค่าความต้านทานการไหล ที่จะแปรผันตามอุณหภูมิซึ่งค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมีหลายมาตรฐานตามสถาบันต่าง (ขยันตั้งมาตรฐานให้พวกเรางงกันจริงจริ๊ง ฮึ่ม!!) ได้แก่
API - AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE SAE - SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS US MILITARY CLASSIFICATION - สถาบันทางทหารของสหรัฐอเมริกา ASTM - AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS CCMC - COMITTEE OF COMMON MARKET CONSTRUCTION
การวัดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะวัดที่อุณหภูมิ 100 c ได้ออกมาเป็นค่าความหนืดซึ่งแทนค่าด้วยตัวเลขเรียกว่า "เบอร์ของน้ำมันเครื่อง" (แต่ช่างมันจะเรียกรวมๆ ว่าเบอร์น้ำมันเครื่อง ตามประสาช่าง!) ซึ่งมีค่ามาตรฐานเหมือนกันทั่วโลกทุกสถาบัน (ดีแล้วที่มาตรฐานเดียวกัน ไม่งั้นมั่วกระจาย)ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0 - 60 .... เลขมาก หนืดมาก , เลขน้อย หนืดน้อย (ง่ายๆ ตรงตัวกันไป)
W คืออะไร W ย่อมาจาก Winter (หรือ ฤดูหนาว นั่นเอง) ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข (องุ่น ไม่เป็นไข เอ้ยไม่ใช่) ซึ่งวัดตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 c จนถึง - 30 c โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้ ตามนี้
0W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข 5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข 10W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข 15W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข 20W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
เกรดของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 เกรด คือ
1. น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว คือ น้ำมันเครื่องที่มีความค่าความหนืดเหมาะสมกับเฉพาะอุณหภูมิหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะอุณหภูมิสูง พออุณหภูมิเริ่มต่ำลง ความหนืดก็จะเพิ่มขึ้น รับรองโดยสถาบันเดียวคือ SAE เช่นน้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 50 หรือ SAE 40 ปัจจุบันแม้ว่าจะยังมีขายอยู่ แต่หาซื้อได้น้อยมาก เหมาะกับเครื่องยนต์รอบต่ำ เครื่องยนต์รุ่นเก่าๆ และประเทศเขตร้อน
2.น้ำมันเครื่องเกรดรวม Multi Grad น้ำมันเครื่องมัลติเกรด เป็นน้ำมันเครื่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าความหนืดได้ เช่นในอุณหภูมิสูง จะมีความใส พออุณหภูมิต่ำลงก็ยังสามารถคงความข้นใสเอาไว้ได้ เรียกได้ว่ามีช่วงอุรหภุมิการใช้งานที่กว้างขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการเลือกใช้ทุกอุณหภูมิ ซึ่งจะระบุเป็น 2 ตัวเลข มีอักษร W เป็นตัวคั่นกลางเช่น SAE 20W50 หรือ API 15W40 เป็นต้น ปัจจุบันน้ำมันเครื่องแบบนี้เป็นแบบที่นิยมใช้ และมีขายในท้องตลาดทั่วๆไป นิยมใช้กับรถรุ่นใหม่ และประเทศในเขตหนาวเย็น และยังสามารถใช้งานได้ทุกสภาวะอากาศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #865 เมื่อ: 21 มกราคม 2011 23:55:07 » |
|
น้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่ง 10W-40
10W = W คือ Winter มีการวัดที่อากาศหนาวที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ได้ค่าความหนืด = 10 40 = วัดที่อากาศร้อนอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ได้ค่าความหนืด = 40
น้ำมันทุกชนิดจะมีความหนืด หรือที่เราเรียกว่า ความข้นเหนียว โดยธรรมชาติ ความหนืดนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ เช่น เมื่อได้รับความร้อนน้ำมันจะใส และ เมื่อได้รับความเย็นน้ำมันจะข้น ความหนืดของน้ำมันจะมีหน่วยวัดเป็น เซนติสโตรก โดยหลักการวัดค่าความหนืดนั้น ถ้าพูดกันอย่างง่ายๆ จะนำน้ำมันปริมาณ 60 cc. มาทำให้ร้อนที่ 100 C แล้วบรรจุใส่ในหลอดแก้วที่มีรูขนาดเล็กทางด้านปลายหลอด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มม เพื่อปล่อยให้น้ำมันไหลแล้วจับเวลาว่าปริมาณน้ำมัน 60 cc . นั้นจะไหลหมดภายในกี่วินาที จากนั้นจึงนำไปคำนวณเพื่อหาค่าออกมาเป็นเซนติสโตรก แล้วเทียบว่าเป็นน้ำมันเบอร์ความหนืด SAE เท่าไหร่
ไปกันใหญ่ ^___^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
farm_p
|
|
« ตอบ #866 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 00:02:35 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
@~GID_GP Car Mods~@
|
|
« ตอบ #867 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 00:28:15 » |
|
40 ซัดบ่อย ของผม มันหายไปนิด เหมือนกัน เลยไม่กล้าแนะนำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AYEROCK
|
|
« ตอบ #868 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 12:10:06 » |
|
ไอดีกลม ใน 101 เกียร์ ออโต้ ตอนนี้ติดแก๊สมิกซ์ กับวาริ ช่วงออกตัวต้นๆ วิ่งแล้วอืดมาก เหยียบไม่ค่อยขึ้น จะไปวิ่งดีช่วง 120 ไปแล้ว วิ่งดีจริงๆ เลยแถว 160 ครับ อยากเปลี่ยนเป็นแก๊สหัวฉีด ยี่ห้ออะไรดี มีอู่แนะนำมั้ยครับ ผมอยู่แถวบางใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #869 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 17:33:11 » |
|
55555 ของผมไม่หายเลยครับ เพราะจอดมาเป็นปีละฮะ เอิ๊กๆๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
carboys
|
|
« ตอบ #870 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 18:37:51 » |
|
Vecolity Index (VI) คือความเร็วในการไหล ไม่มีระบุอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ และผู้ผลิตไม่ต้องการจะบอกต่อผู้ซื้อด้วย
เหตุผลเป็นเพราะคุณสมบัติดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพอย่างชัดเจน หากมีการเปรียบเทียบกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จะมีผลต่อยอดขายได้โดยตรง เนื่องจากสูตรน้ำมันเครื่องต่างเป็นความลับและบางครั้งก็ไม่อาจแก้ไขได้โดยง่าย
เพื่อที่จะไม่ให้เสียบเปรียบได้เปรียบกันในตลาด ผู้ผลิตจึงตกลง ระบุไว้แค่ว่า น้ำมันเครื่องของตนเอง อยู่ในเกรดมาตราฐาน ใดก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือ แล้วแต่การตลาดและความเชื่อของผู้บริโภค
อันที่จริง VI สามารถสืบค้นได้แต่มันไม่ง่าย ผมเคยทราบเรื่องค่า VI ของ นมค. มาสามยี่ห้อ ซึ่งทดลองใช้แล้วตามยี่ห้อต่างๆ ที่อยู่ในเกรดความหนืดเดียวกัน พบว่า มีผลจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าไปซีเรียสมาก เพราะเอาเข้าจริงๆ การที่ท่านไม่รู้ยังสบายใจ เสียกว่าเลย
สำหรับรถมี Turbo มักมีความจำเป็นต้องใช้ค่าความหนืดที่เป็นตัวหลังมากหน่อย เพื่อป้องกันการรั่วไหลออกตามจุดอ่อนต่างๆ เช่น Turbo หรือแหวนลูกสูบ จนไปถึงการระบายออกทางท่อหายใจด้วย
50 ก็ดี เครื่องยนต์ก็เคลื่อนไหวมีแรงต้านน้อยหน่อย 55 ก็เหนียวขึ้นอีก แต่ป้องกันการหายไปได้เยอะขึ้นเล็กน้อย สำหรับการ ซัดกันแบบเอาเป็นเอาตาย แรงเพิ่มขึ้นก็จำเป็น อันนี้เล่น 40 ไปเลยก็ได้ แต่ว่าพักยกแล้วดู นมค.หน่อย มันอาจพร่องไปพอควร
สำหรับตัวหน้าก็มีผลเช่นกัน แม้เราไม่ได้อยู่ในเมืองหนาว แต่การที่ตัวหน้าต่ำลงมากมันก็มีผลต่อความข้นใสเวลามันระบาย ออกทางท่อหายใจได้เช่นกัน มันไมได้หายไปเพราะขาดคุณสมบัติ แต่มันหายไปเพราะแรงดันสูง ทำให้มันปลิวตามอากาศออก ไปได้มากขึ้น
มี นมค. บางยี่ห้อมีเบอร์พิเศษ สำหรับรถพิเศษ เช่น 17.5w50 เป็นต้น อันนี้ เหมาะมากสำหรับรถ Turbo ที่การซิ่งอยูในสายเลือด แต่มันแพง เนื่องจากเป็นน้ำมันเครื่องเฉพาะกลุ่มมี volume ในการขายน้อย แต่ถ้าต่อไปนิยมกันมากๆ volume เพิ่มขึ้นอาจมีราคาลดลง
อนึ่ง นมค. ที่มีค่าความหนืดที่ต่ำกว่า 5 ท่านควรทราบว่ามันผสม Additive ราคาแพง และเป็นมลภาวะต่อโลกด้วยครับ มันทำให้ท่านเสียเงิน ในส่วนที่ไม่ค่อยจำเป็นและไม่เป็นการรักษ์โลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Step Ahead with MasterCRAFT
|
|
|
@~GID_GP Car Mods~@
|
|
« ตอบ #871 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 18:42:11 » |
|
Vecolity Index (VI) คือความเร็วในการไหล ไม่มีระบุอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ และผู้ผลิตไม่ต้องการจะบอกต่อผู้ซื้อด้วย
เหตุผลเป็นเพราะคุณสมบัติดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพอย่างชัดเจน หากมีการเปรียบเทียบกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จะมีผลต่อยอดขายได้โดยตรง เนื่องจากสูตรน้ำมันเครื่องต่างเป็นความลับและบางครั้งก็ไม่อาจแก้ไขได้โดยง่าย
เพื่อที่จะไม่ให้เสียบเปรียบได้เปรียบกันในตลาด ผู้ผลิตจึงตกลง ระบุไว้แค่ว่า น้ำมันเครื่องของตนเอง อยู่ในเกรดมาตราฐาน ใดก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือ แล้วแต่การตลาดและความเชื่อของผู้บริโภค
อันที่จริง VI สามารถสืบค้นได้แต่มันไม่ง่าย ผมเคยทราบเรื่องค่า VI ของ นมค. มาสามยี่ห้อ ซึ่งทดลองใช้แล้วตามยี่ห้อต่างๆ ที่อยู่ในเกรดความหนืดเดียวกัน พบว่า มีผลจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าไปซีเรียสมาก เพราะเอาเข้าจริงๆ การที่ท่านไม่รู้ยังสบายใจ เสียกว่าเลย
สำหรับรถมี Turbo มักมีความจำเป็นต้องใช้ค่าความหนืดที่เป็นตัวหลังมากหน่อย เพื่อป้องกันการรั่วไหลออกตามจุดอ่อนต่างๆ เช่น Turbo หรือแหวนลูกสูบ จนไปถึงการระบายออกทางท่อหายใจด้วย
50 ก็ดี เครื่องยนต์ก็เคลื่อนไหวมีแรงต้านน้อยหน่อย 55 ก็เหนียวขึ้นอีก แต่ป้องกันการหายไปได้เยอะขึ้นเล็กน้อย สำหรับการ ซัดกันแบบเอาเป็นเอาตาย แรงเพิ่มขึ้นก็จำเป็น อันนี้เล่น 40 ไปเลยก็ได้ แต่ว่าพักยกแล้วดู นมค.หน่อย มันอาจพร่องไปพอควร
สำหรับตัวหน้าก็มีผลเช่นกัน แม้เราไม่ได้อยู่ในเมืองหนาว แต่การที่ตัวหน้าต่ำลงมากมันก็มีผลต่อความข้นใสเวลามันระบาย ออกทางท่อหายใจได้เช่นกัน มันไมได้หายไปเพราะขาดคุณสมบัติ แต่มันหายไปเพราะแรงดันสูง ทำให้มันปลิวตามอากาศออก ไปได้มากขึ้น
มี นมค. บางยี่ห้อมีเบอร์พิเศษ สำหรับรถพิเศษ เช่น 17.5w50 เป็นต้น อันนี้ เหมาะมากสำหรับรถ Turbo ที่การซิ่งอยูในสายเลือด แต่มันแพง เนื่องจากเป็นน้ำมันเครื่องเฉพาะกลุ่มมี volume ในการขายน้อย แต่ถ้าต่อไปนิยมกันมากๆ volume เพิ่มขึ้นอาจมีราคาลดลง
อนึ่ง นมค. ที่มีค่าความหนืดที่ต่ำกว่า 5 ท่านควรทราบว่ามันผสม Additive ราคาแพง และเป็นมลภาวะต่อโลกด้วยครับ มันทำให้ท่านเสียเงิน ในส่วนที่ไม่ค่อยจำเป็นและไม่เป็นการรักษ์โลก
ขอบคุณครับ ว่า แต่ ทริปโทนิค มันไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
carboys
|
|
« ตอบ #872 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 18:54:46 » |
|
ขอบคุณครับ ว่า แต่ ทริปโทนิค มันไหมครับ
มันก็ดีกว่า AT ทั่วไปครับ อย่างน้อย SAT ของ 3S-GTE ก็เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่มีจำกัด ต่างจาก SAT ของรุ่นอื่นๆ ที่พอรอบสุงมากๆ มันเปลี่ยนขึ้นเองเฉยเลย ตอนนี้ผมรอ Paddle Shift มาจากญี่ปุ่นครับ จะได้เร้าใจขึ้นอีกหน่อย เพราะปุ่มกดบนพวงมาลัยมันหน่อมแน้มมากเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Step Ahead with MasterCRAFT
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #873 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 19:17:35 » |
|
ยินดีที่ได้อ่านกระทู้พี่บอยอีกครั้งครับ คิดว่าตอนนี้พี่คงเข้าใจผมแล้วมั๊ง ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นฮะ ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วยครับ แต่วันนั้น ผมไม่พร้อมจะเคลียร์กับพี่จริงๆ ทั้งๆ ที่พี่ก็รู้ว่าอะไรคืออะไร แต่พี่ก็ยังปกป้องจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ
ผมชอบความรู้ของพี่ ชอบคุยกับพี่ แต่ผมไม่ชอบรุ่นพี่ของพี่ในตอนนั้นจริงๆฮะ ทำใจไม่ได้จริงๆ
ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #874 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 19:18:44 » |
|
Paddle Shift ของ Worksbell แหล่มมากเลยฮะ แนะนำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
carboys
|
|
« ตอบ #875 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 19:59:18 » |
|
ผมกับคุณไม่ได้มีอะไรกันหรอก เข้ากันใจกันมันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ บ้านเมืองมันยุ่งเพราะคนมันไม่ฟังกันมากพอแล้ว ^_^
แต่ว่า ผมไม่ได้ซื้อ Worksbell โดขตรงหรอกครับ ผมซื้อกับผู้ผลิตให้กับ Worksbell (เพราะจริงๆ Worksbell มันไม่ได้ผลิตเอง) เค้าผลิตให้กับรถรุ่นอื่นมากกว่าที่ Worksbell นำมาขายเสียอีก BMW E46 SAT ก็มีนะเออ ไม่หน่อมแน้มเหมือนแบบ MRTS ทำด้วย แต่ว่า มันใส่ SRS Airbag ไม่ได้นี่อ๊ะสิ คนเล่น BMW เลยไม่ค่อยอยากได้กัน
เห็นว่าแหล่มแบบนี้ ใช้อยู่หรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Step Ahead with MasterCRAFT
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #876 เมื่อ: 22 มกราคม 2011 20:17:02 » |
|
ผมเลิกเป็น Triptronic นานแล้วครับพี่ ส่วนคอพวงมาลัยนี่ ตามกระแสครับผม
แล้วสั่งยังไง มันมีแบบไหนบ้างอ่ะฮะ ในหน้าเฟสพี่มีป่ะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
farm_p
|
|
« ตอบ #877 เมื่อ: 23 มกราคม 2011 02:25:16 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #878 เมื่อ: 23 มกราคม 2011 19:02:54 » |
|
ตามหาช่างชื่อ "พี่โด้ย" อยู่ในอู่นั่นแหละ แงะจากรถแกเลยครับ ให้น้าธรจัดมาเลยคร๊าบบบ หาเอง แล้วถ้าหาไม่ได้ แทนที่จะเสร็จก็ไม่เสร็จ ให้แกจัดมาเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
odd
|
|
« ตอบ #879 เมื่อ: 23 มกราคม 2011 19:04:19 » |
|
ช่วงนี้กระแส 2ZZ มาแรง 3S เราจะหล่นไปหน้า 3 ละ นี่ผมไปกู้ชีพขึ้นมาเลยนะเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
SSS-101 ไม่เดิม!!! โม!!! แต่เจือกไม่แรง!!!
|
|
|
|