OH'
|
|
« เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 11:25:07 » |
|
ตามภาพบอกได้ไหมครับว่าเกิดจากอะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เคลิ้มสมาคม ™
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 11:34:40 » |
|
ไม่เคยสลับยาง หรือตั้งศูนย์เลย ใช่รึป่าวครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
" ~ หาเรื่องเที่ยว ~ "
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 11:37:26 » |
|
ไม่เคยสลับยาง หรือตั้งศูนย์เลย ใช่รึป่าวครับ ตั้งศูนย์เคยครับ แต่ไม่เคยสลับยางเพราะมันคนละเบอร์กับหลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JO_Zest
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 11:40:09 » |
|
ตั้งศูนย์ไม่ตรง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิ่งปะละ เดียวก็รู้ จะจบไหม
|
|
|
Rong Fuel-Up
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 12:03:57 » |
|
บอกยากจังครับ ไม่รู้ว่า ใส่ยางทิศทางไหน ช่วงล่างหลวมสั่นคลอนหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ถ้ามาจากล้อหน้า ผมว่าลมยางอ่อนไปนิดๆ กับรูปแบบการการขับในชีวิตประจำวัน ของคุณ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 13:29:13 » |
|
บอกยากจังครับ ไม่รู้ว่า ใส่ยางทิศทางไหน ช่วงล่างหลวมสั่นคลอนหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ถ้ามาจากล้อหน้า ผมว่าลมยางอ่อนไปนิดๆ กับรูปแบบการการขับในชีวิตประจำวัน ของคุณ
195-50-15 ลมยาง 30-31 นี้อ่อนไปหรือป่าวปกติเติมอยู่ประมาณนี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 13:30:03 » |
|
บอกยากจังครับ ไม่รู้ว่า ใส่ยางทิศทางไหน ช่วงล่างหลวมสั่นคลอนหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ถ้ามาจากล้อหน้า ผมว่าลมยางอ่อนไปนิดๆ กับรูปแบบการการขับในชีวิตประจำวัน ของคุณ
ซ้ายภาพเป็นด้านในครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
T [EE-101]
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 14:16:44 » |
|
ปัญหาเรื่องยางสึกไม่เท่ากัน คือด้านในของยางจะสึกมากกว่าด้านนอกโดยเฉพาะล้อหน้าขวาจะเห็นชัดมาก ?
การ สึกของยางที่กินด้านในเป็นแถบ เกิดขึ้นจากศูนย์ล้อมีปัญหา ซึ่งมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน ประการแรกสืบเนื่องมาจากมุมโทของล้อ แต่เราสามารถสังเกตได้ว่ารอยสึกจะไม่สู้ราบเรียบนักมีลักษณะเป็นคลื่น แต่ถ้าพบว่ารอยสึกค่อนข้างเรียบมักเกิดขึ้นจากมุมแค็มเบอร์มากกว่า จากอาการกินยางด้านในแสดงว่ามุมแค็มเบอร์เป็นลบคือส่วนล่างของล้อแบะเกินไป แบบเดียวกันกับคนยืนกางขานั่นแหละ สำหรับสาเหตุของมุมแค็มเบอร์เป็นลบมากเกินไปนี้ มันเกิดขึ้นจากเหตุ 5 ประการด้วยกัน อันแรกเกิดจากศูนย์ล้อผิดพลาดจากการใช้งานมานาน ทำให้ศูนย์ล้อแปรเปลี่ยนไป ซึ่งอาการที่พบมักจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง การกินยางจะมีไม่มากนัก ในกรณีที่ยางเบ้าช็อคเสื่อมสภาพหรือชำรุดเสียหาย ก็มีสิทธิ์ทำให้มุมล้อเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งมุนแค็มเบอร์และมุมแคสเตอร์ซึ่งเราพอจะสังเกตได้จากการหักเลี้ยวที่ให้ ความรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อก่อน นอกจากนี้หากยาง เบ้าซ็อคเสียหายมากถึงกับฉีกขาด เวลาวิ่งบนทางขรุขระจะมีเสียงดังกึกๆ มาจากล้อหน้า หากมีการเปลี่ยนยางใหม่ใช้ยางหน้ากว้างมากๆ ก็มีผลให้เกิดเรื่องการกินยางได้เช่นกัน พวกรถที่นำไปโหลดเตี้ยไม่ว่าจะโดยวิธีเปลี่ยนคอยล์สปริงหรือตัดสปริงให้สั้น ลง มุมแค็มเบอร์จะเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดอาการกินยาง ถ้าคอยล์สปริงเสื่อมหมดอายุทำให้ตัวรถทรุดต่ำกว่าปกติ มุมแค็มเบอร์จะเป็นลบมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะเกิดอาการกินยาง โดยเฉพาะพวกรถที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบอิสระ เราสามารถตรวจเช็คว่าคอยล์สปริงล้าตัวแล้วหรือไม่โดยการสังเกตว่าเวลาจอดรถ แล้วตัวรถเตี้ยกว่ารถคันอื่นหรือเปล่า และระยะห่างของขอบบังโคลนถึงพื้นระหว่างล้อด้านซ้ายกับด้านขวาต่างกันมาก หรือไม่ โดยปกติฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจะมีระดับแตกต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเวลารถเลี้ยวโค้งหากพบว่าตัวรถเอียงมาก กว่าที่ควรน่าจะเป็นเพราะคอยล์สปริงล้าตัวจึงนิ่มเกินไป การขับรถช่วงทางตรงตัวรถจะไม่ค่อยนิ่ง ช่วงเจอคอสะพานรถจะดีดดิ้นมากกว่าปกติ
ข้อมูลโดย : นิตยสาร "นักเลงรถ" ฉบับประจำเดือนกันยายน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่ารังแก 1300 ถึงต้นไม่ได้ แต่ปลายก็ห้อย
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 18:39:01 » |
|
ปัญหาเรื่องยางสึกไม่เท่ากัน คือด้านในของยางจะสึกมากกว่าด้านนอกโดยเฉพาะล้อหน้าขวาจะเห็นชัดมาก ?
การ สึกของยางที่กินด้านในเป็นแถบ เกิดขึ้นจากศูนย์ล้อมีปัญหา ซึ่งมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน ประการแรกสืบเนื่องมาจากมุมโทของล้อ แต่เราสามารถสังเกตได้ว่ารอยสึกจะไม่สู้ราบเรียบนักมีลักษณะเป็นคลื่น แต่ถ้าพบว่ารอยสึกค่อนข้างเรียบมักเกิดขึ้นจากมุมแค็มเบอร์มากกว่า จากอาการกินยางด้านในแสดงว่ามุมแค็มเบอร์เป็นลบคือส่วนล่างของล้อแบะเกินไป แบบเดียวกันกับคนยืนกางขานั่นแหละ สำหรับสาเหตุของมุมแค็มเบอร์เป็นลบมากเกินไปนี้ มันเกิดขึ้นจากเหตุ 5 ประการด้วยกัน อันแรกเกิดจากศูนย์ล้อผิดพลาดจากการใช้งานมานาน ทำให้ศูนย์ล้อแปรเปลี่ยนไป ซึ่งอาการที่พบมักจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง การกินยางจะมีไม่มากนัก ในกรณีที่ยางเบ้าช็อคเสื่อมสภาพหรือชำรุดเสียหาย ก็มีสิทธิ์ทำให้มุมล้อเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งมุนแค็มเบอร์และมุมแคสเตอร์ซึ่งเราพอจะสังเกตได้จากการหักเลี้ยวที่ให้ ความรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อก่อน นอกจากนี้หากยาง เบ้าซ็อคเสียหายมากถึงกับฉีกขาด เวลาวิ่งบนทางขรุขระจะมีเสียงดังกึกๆ มาจากล้อหน้า หากมีการเปลี่ยนยางใหม่ใช้ยางหน้ากว้างมากๆ ก็มีผลให้เกิดเรื่องการกินยางได้เช่นกัน พวกรถที่นำไปโหลดเตี้ยไม่ว่าจะโดยวิธีเปลี่ยนคอยล์สปริงหรือตัดสปริงให้สั้น ลง มุมแค็มเบอร์จะเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดอาการกินยาง ถ้าคอยล์สปริงเสื่อมหมดอายุทำให้ตัวรถทรุดต่ำกว่าปกติ มุมแค็มเบอร์จะเป็นลบมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะเกิดอาการกินยาง โดยเฉพาะพวกรถที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบอิสระ เราสามารถตรวจเช็คว่าคอยล์สปริงล้าตัวแล้วหรือไม่โดยการสังเกตว่าเวลาจอดรถ แล้วตัวรถเตี้ยกว่ารถคันอื่นหรือเปล่า และระยะห่างของขอบบังโคลนถึงพื้นระหว่างล้อด้านซ้ายกับด้านขวาต่างกันมาก หรือไม่ โดยปกติฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาจะมีระดับแตกต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเวลารถเลี้ยวโค้งหากพบว่าตัวรถเอียงมาก กว่าที่ควรน่าจะเป็นเพราะคอยล์สปริงล้าตัวจึงนิ่มเกินไป การขับรถช่วงทางตรงตัวรถจะไม่ค่อยนิ่ง ช่วงเจอคอสะพานรถจะดีดดิ้นมากกว่าปกติ
ข้อมูลโดย : นิตยสาร "นักเลงรถ" ฉบับประจำเดือนกันยายน
ขอบคุณครับ สงสัยเดี่ยวต้องลงไปตั้งศูนย์อีกที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
WIMON100
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 18:49:17 » |
|
กินยางด้านใน น่าจะแคมเบอร์ - ถูกเปล่าไม่แน่ใจ ตั้ง0อีกที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pinA
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 20:13:03 » |
|
กินยางด้านใน น่าจะแคมเบอร์ - ถูกเปล่าไม่แน่ใจ ตั้ง0อีกที
ถูกครับ ตามสภาพนี้ไม่ต้องคิดมาก มันอยู่ในหรือนอก กลับดอกวิ่งก้อช่าง มาจากแคมเบอร์แน่ๆ แต่อะไรทำแคมเบอร์เจ๊งค่อยดูกันไป.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เบื่อคนถือดี พวกทำตัวน่าเบื่อหน่าย.
|
|
|
Hunter_JIK.CZ48
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 20:49:29 » |
|
ยางอ่อนไปด้วยครับ เพราะเห็นกินขอบทั้ง2ฝั่งเลย แต่ล้อแบะมากกว่า
ล้อหน้ายางสึกมากกว่าเป็นปกติอยู่แล้วครับเพราะข้างหน้ามีเครื่อง ถ้าไม่สลับยางเลยก็ข้างหน้าหมดไวกว่าเห็นๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 21:33:06 » |
|
แล้วโดยปกติ แคมเบอร์ควรอยู่เท่าไรครับ รถผมหน้าเตี้ยลงมานิ้วครึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
[[Badd]]
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 21:35:19 » |
|
แล้วโดยปกติ แคมเบอร์ควรอยู่เท่าไรครับ รถผมหน้าเตี้ยลงมานิ้วครึ่ง
0 ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Djpog_TФCФβů
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2010 23:24:39 » |
|
ศุนย์ครับ แล้วลมยางอ่อนด้วยครับ
ใช้ maxxis E1 ใช่ไหมครับลายเหมือนผมใช้อยู่ต้องเติมลม 34 ครับ แติม 30 มันกินข้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 07:34:04 » |
|
ศุนย์ครับ แล้วลมยางอ่อนด้วยครับ
ใช้ maxxis E1 ใช่ไหมครับลายเหมือนผมใช้อยู่ต้องเติมลม 34 ครับ แติม 30 มันกินข้างครับ
Bridgestone MY-01 ครับ เติม34 เลยหรอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
-TOR@RAYONG-
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 08:11:44 » |
|
กินยางด้านใน น่าจะแคมเบอร์ - ถูกเปล่าไม่แน่ใจ ตั้ง0อีกที
เห็นด้วยครับ ผมตั้ง -1 ลมยาง 31 กินในเหมือนกัน หรือไม่ก็โช๊คทรุด หมดสภาพ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ธันวาคม 2010 08:36:24 โดย -TOR@RAYONG-<RYZ> »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
OH'
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 09:44:05 » |
|
ไปตั้งศูนย์มาแล้วครับ แคมเบอร์ ซ้าย-2.03 ขวา-1
ช่างบอกถ้าจะให้เป็น 0 เลยต้องเปลี่ยนน็อตให้ผอมลง
แบบนี้รถที่โหลดนิดๆมันจำเป็นต้องล้อแบะทุกคันเลยหรอครับ รถผมก็โหลดนิดๆ
มีวิธีไหนอีกไหม นอกจากเปลี่ยนบอลจ็อยกับน็อต
ยางพึ่งเปลี่ยนมาเองก็เริ่มไปอีกแล้ว ขอบใน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PAtIPUT
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 10:21:07 » |
|
โห -2 เลยหรอครับ ไม่ใช้น้อยๆนะครับนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อดีตขับ AE ปัจจุบันขับ AT
|
|
|
pinA
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2010 11:22:32 » |
|
สูงขึ้นอีกนิดครับ ให้มันลบน้อยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เบื่อคนถือดี พวกทำตัวน่าเบื่อหน่าย.
|
|
|
|