AE. Racing Club
18 ตุลาคม 2024 17:27:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครเคยเป็น ริดสีดวง บ้างครับ แล้วเคยผ่าตัด  (อ่าน 12311 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
WIMON100
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,860



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 19 มกราคม 2011 19:07:43 »

ไปผ่าที่ไหนโรงพยาบาลไหนครับ เจ็บมากหรือเปล่า แล้วใช้เวลากี่วันถึงจะหายเจ็บ แล้วถ่ายได้ปกติหรือเปล่า 
ถามเฉย ๆ ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นเป็น ขอคนที่เคยมีประสบการ์ณนะครับ PM มาก็ได้
บันทึกการเข้า

ae 101
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,485



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 20:05:15 »

 เหวอ ยกธงขาว
บันทึกการเข้า
WIMON100
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,860



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 20:14:29 »

มียากินมัย การผ่าขอเป็นตัวเลือกสุดท้าย
บันทึกการเข้า

MR_C_ รักในหลวง
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,620


ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมแบ่งปัน น้ำใจ ใช้ไม่เคยหมด


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 20:40:38 »

ริดสีดวงทวาร(Hemorrhoid)

 

        ริดสีดวงทวาร เกิดจากการโตขึ้นกลุ่มของ เส้นเลือด และ เนื้อเยื่อ บริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ที่เรียกว่า hemorrhoidal tissue   

      คนปกติมีริดสีดวงหรือไม่  เนื่อเยื่อนี้มีหน้าที่อะไร
         ในคนปกติ จะมีริดสีดวง(hemorrhoidal tissue)ทุกคน   
      โดยจะอยู่บริเวณ ส่วนล่างของ ทวารหนัก
      เนื้อเยื่อ ริดสีดวงจะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ
      (ลองนึกภาพ ถ้าเรานอนหงายแล้วกางขาออก  เหมือนท่าคนจะคลอดลูก
      เปรียบเทียบกับ นาฬิกาด้านหน้า เป็น 6 นาฬิกา  ด้านหลังเป็น 12 นาฬิกา
      ด้านซ้ายเป็น 3 นาฬิกา  ด้านขวาเป็น 9 นาฬิกา
      (ค่อยๆนึกครับ  วาดรูปประกอบก็ได้)

      เนื้อเยื่อริดสีดวงปกติจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง  คือ ที่ 3 , 7 , และ 11 นาฬิกา
      (ที่บอกมี 3 หัวอะไรทำนองนี้ครับ)

   
 

            เนื่อเยื่อริดสีดวงมีหน้าที่อะไร?
                  หน้าที่ปกติ  จะมีหน้าที่ ป้องกัน กล้ามเนื้อของทวารหนัก รวมทั้งหูรูด ระหว่าง ถ่ายอุจจาระ และช่วยให้
                  ทวารหนักปิดได้สนิท ในขณะที่เราอยู่เฉย
                    โรคริดสีดวงทวารเกิดจากอะไร?
                    ริดสีดวง เกิดจากการโตขึ้น ของ เนื้อเยื่อ Hemorrhoid  ซึ่งสาเหตุแบ่งง่ายๆ เป็น 2 อย่างคือ
                  1.เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดบริเวณนั้น
                  2.เกิดจากการเพิ่ม ความดัน ต่อ กำบังลมด้านล่าง(Pelvic Floor)  นานๆ ซึ่งการเพิ่มความดัน ดังกล่าว
                  เกิดได้จาก  การเบ่งอุจจาระบ่อยๆ จากท้องผูก  การยกของหนัก  การยืนนานๆ  รวมทั้งการตั้งครรภ์
                  จากการที่มีเด็กอยู่ ทำให้ เลือดไหลกลับไม่สะดวก
                   
                   จากสาเหตุดังกล่าวทำให้  กลุ่มเส้นเลือดดังกล่าว โตและ ยืดออก  ซึ่งการที่มีเลือดออกนั้นเกิดจาก การที่มี
                  การบาดเจ็บของเส้นเลือด บริเวณดังกล่าว(Local Injury)  ที่เจอบ่อยๆเกิดจาก อุจจาระที่แข็งมากๆ ร่วมกับ
                  การเบ่งนานๆ ทำให้จะมีเลือดสดๆ ไหลออกจากทวารหนัก
                    โรคริดสีดวงมีกี่ชนิด?
                  เราแบ่งโรคนี้ออกเป็น 2  ชนิด คือ
                  1.ริดสีดวงภายใน
                   คือริดสีดวง  ที่อยู่เหนือ เส้นสมมุติที่เรียกว่า dentate line(บริเวณแถวๆ รอยที่หยักๆครับ)จะมีลักษณะที่สังเกตง่ายๆ คือ
                        -จะคลุมด้วยเยื่อบุของทวารหนัก  ไม่ใช่ผิวหนัง ด้านนอก
                        -จะไม่เจ็บ  ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
                        -ส่วนใหญ่มักเป็นอันนี้กัน ริดสีดวงภายใน แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ
                  1.ไม่มีก้อนยื่นออกมานอกทวารหนัก
                  2.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ และหดกลับเข้าไปได้เอง
                  3.มีก้อนยื่นออกมาขณะเบ่งอุจจาระ แต่ไม่หดกลับเข้าไปต้องใช้มือช่วยดันเข้าไป
                  4.มีก้อนยื่นออกมาและไม่สามารถใช้มือดันเข้าไปได้

                  2.ริดสีดวงภายนอก
                  คือริดสีดวงที่อยู่ใต้เส้น Dentate line  สังเกตง่ายๆคือ
                        -จะเป็นก้อนทีอยู่ข้างนอก
                        -ส่วนที่คลุมก้อน จะเป็นผิวหนัง  มักมีอาการคัน  และ เจ็บมากกว่า ริดสีดวงภายใน
                        -หลังจากอาการหายไป บางครั้ง  ติ่งผิวหนังนั้นอาจยังอยู่ กลายเป็นติ่งเนื้อที่เรียกว่า Skin Tag   อาการของโรคริดสีดวง มีอะไรบ้าง?
                  อาการของโรคนี้ที่มีพบแพทย์  มี 3 อาการ
                  1.ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด
                        ลักษณะจะเป็นดังนี้คือ จะถ่ายอุจจาระออกมาก่อน ( ระหว่างถ่ายอาจจะเจ็บหรือไม่ก็ได้) จากนั้นจะมีเลือดสดๆ
                        หยดออกมา ตามหลังจากอุจจาระ  เลือดจะเป็นเลือดสดจริงๆ มักไม่มีมูกเลือดปน 2.มีก้อนออกมาระหว่างถ่ายอุจจาระ
                        ขณะที่เบ่งอุจจาระ จะมีก้อนยื่นออกมา  หรือ มีก้อนออกมาตลอดเวลา  ขึ้นกับ ระยะที่เป็น 3.เจ็บบริเวณ ทวารหนัก
                        ปกติ  ริดสีดวงจะไม่เจ็บ  จะเจ็บในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน(Thrombosis)
                        หรือ มีเนื้อเยื่อตาย(Necrosis)   การรักษาโรคริดสีดวงทวาร
                  ขึ้นกับระยะที่เป็น
                  ระยะ1
                        การรักษาใน ระยะนี้ ไม่ว่าจะเลือดออกหรือไม่ จะเน้นการใช้ยาและการปฏิบัติตัว
                        การใช้ยา จะเป็นพวก ยาที่ทำให้อุจจาระนุ่ม(Stool Softener)
                              อาจใช้ยาประเภท Steroid เหน็บทวารเพื่อลดการอักเสบ การปฏิบัติตัว  คือ ทานอาหารมีกากมากๆ  ทานน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการเบ่ง  หรือนั่งนานๆ
                        มีบางแห่ง อาจใช้ Infrared ช่วย  แต่ไม่จำเป็นครับ

                  ระยะ2-3 ต้นๆ
                        การรักษาด้วยยา รวมทั้ง การปฏิบัติตัวเหมือนเดิม
                        อาจใช้ยางชนิดพิเศษ รัดริดสีดวงทวาร ( Rubber Band Ligation) ซึ่งได้ผลดีมาก
                        ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ทำได้บ่อยๆ  ภาวะแทรกซ้อนต่ำ

                  ระยะ 3ที่ใหญ่ๆ -4
                        ต้องผ่าตัดครับ   เมื่อไร ที่ต้องผ่าตัดริดสีดวง?
                  1.เป็นระยะ 3ที่ใหญ่ หรือ ระยะ 4
                  2.เป็นทั้ง ภายนอกและ ภายใน พร้อมกัน (Mixed Type)ซึ่งไม่สามารถ ที่จะใช้ยางรัดได้ (เพราะจะเจ็บมาก)
                  3.มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นเลือดอุดตัน  ปวดมาก  หรือ หัวริดสีดวงเน่า จากการขาดเลือด
                  นั่นคือ จะเห็นว่า  ถ้าเป็นไม่มากจริงๆ  ไม่ต้องผ่าตัดครับ  สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้
                    การป้องกัน
                  ขับถ่ายให้เป็นเวลา  ไม่ทำให้ท้องผูก
                  กินอาหารที่มีกาก  ผักผลไม้  เพื่อช่วยในการขับถ่าย
                  ดื่มน้ำมากๆ
                  ถ้ามีอาการผิดปรกติ  รีบปรึกษาแพทย์
                   
                    ทำไมเราต้องมาสนใจโรคริดสีดวงด้วย?
                    จริงๆ แล้วโรคริดสีดวง  ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย  อย่างมากก็เจ็บ เลือดออกส่วนใหญ่มักจะไม่มาก
                  แต่ที่มากๆ จน Shock ก็มีครับ  แต่ที่น่าจะระวังมากกว่านั้นคือ  เราอาจไม่ได้เป็นริดสีดวงก็ได้
                  อาการถ่ายเป็นเลือดสดนั้น  อาจเกิดได้จากหลายอย่าง เช่น โรคแผลที่ทวารหนัก(Anal fissure) ฯลฯ
                  แต่ที่น่ากลัวกว่า คือ เนื้องอก หรือมะเร็ง บริเวณ ลำไส้ตรง หรือ ทวารหนัก ซึ่งจะมีอาการ ถ่ายเป็นเลือด
                  เหมือนกัน  ซึ่งสามารถให้การวินิจฉัยได้ด้วยการตรวจร่างกายธรรมดาเท่านั้น การรักษานั้น คนละเรื่องครับ
                  ดังนั้น ถ้ามีอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่ควรรักษาตัวเอง  ควรมาพบแพทย์ครับ

                  โดย นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์  ศัลยแพทย์

จจาก http://www.thaiclinic.com/hemorrhoid.html ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า

BUT_AE101 ~Lx~
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,796



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 21:13:26 »

ญาติๆผมเป็นผ่าแล้ว เดี๋ยวก็เป็นอีกครับ
ส่วนพ่อของผมก็เป้น แต่ไม่ผ่าครับ ถ้าจำไม่ผิดจะใช้ทายา และแช่น้ำร้อนรึไงเนี่ยครับผม
บันทึกการเข้า

ไปทุกที่.. ที่อยากจะไป
coolgrep2
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,223


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 21:14:10 »

อย่าคิดว่าริดสีดวงเป็นเรื่องตลกนะคร๊าปปป คนเป็นขำไม่ออกแน่ พี่ชายผม เคยเป็นแล้วผ่าตัด ขอบอกว่า สุโค่ย เจ็บสุด ๆกว่าแผลผ่าจะหายต้องนอนตะแคงหลายวันเลย
บันทึกการเข้า

WIMON100
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,860



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 21:33:31 »

ญาติๆผมเป็นผ่าแล้ว เดี๋ยวก็เป็นอีกครับ
ส่วนพ่อของผมก็เป้น แต่ไม่ผ่าครับ ถ้าจำไม่ผิดจะใช้ทายา และแช่น้ำร้อนรึไงเนี่ยครับผม
ใช้ยาอะไรทาครับ ขอชื่อตัวยาครับ
บันทึกการเข้า

pinA
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 645


เคยใช้ AE ตอนนี้ก้อยังใช้อยู่...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 21:46:37 »

มันน่ากลัวเพราะมองไม่เห็นอ่ะครับ นอนตะแคง งอเข่าเข้าหาตัว ท่านี้ล่ะ สะดวกที่หมอเค้าจะล้วงแคะ อันนี้เป็นไม่ลึกมาก
เค้าจะใช้อะไรซักอย่าง คงเป็นกรรไกรอ่ะนะ ไปตัดมันออกแล้วเย็บแผล เจ็บเป็นธรรมดาครับ อย่าเครียดไป 1-2วันก้อหายเจ็บ ขี้สบายตูดเหมือนเดิม แต่ผมไม่หาย เพราะเป็นเยอะ ก้อต้องพยายามดูแลสุขภาพเอา ถ้าเครียด ความดันขึ้น กินของแสลงเช่นหน่อไม้ ก้อจะออกอาการบวมเป่ง เลือดไหลเพราะมันจะเป็นแผล นี่ล่ะเจ็บเลย ไม่รู้ต่อๆไปมะเร็งจะแดรกกกรึป่าว โฮ่ๆๆๆ
ส่วนยาทา ยาเหน็บ สมุนไพร นั่นน่าจะเอาไว้รักษาอาการที่คนนั้นเริ่มเป็นหรือเป็นน้อยๆอยู่ครับ มันแล้วแต่อาการและบุคคลด้วย.
บันทึกการเข้า

เบื่อคนถือดี พวกทำตัวน่าเบื่อหน่าย.
KENTENS@I <J>
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,296


>< " ชอบง่า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 21:56:54 »

ยาทา ร้านขายยามี
บันทึกการเข้า
vchaiyut
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 119


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 22:08:10 »

อย่าผ่าครับ ผลเสีย เยอะ ของผม ผ่า แล้วบลอกหลัง ..ใคร?..ปวดหลังจนถึงทุกวันนี้ เลย ทานยาหรือ ทายาดีกว่า ไม่หายจิงๆค่อยผ่า ถ้าผ่า สองวันกลับบ้านได้ ผมผ่า ที่พญาไท สอง งะ แต่รักษาแผล ไปหลายอาทิด เลย
บันทึกการเข้า
Chan
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 942


BZ-Turing


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 19 มกราคม 2011 22:17:11 »

เพชรสังฆาต ครับมีขายตามร้านขายยาทั่วไป
บันทึกการเข้า
jedee
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,490


ได้หมดถ้าสดชื่น


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 05:39:38 »

 สุดยอด  ให้ทานว่านเพชรสังฆาตสดๆ วันละหนึ่งข้อ แต่ให้ฝานหรือปลอกเปลือกออกก่อน แล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ยัดใส่ในกล้วยน้ำว้าแล้วกลืนอย่างเดียว ห้ามเคี้ยวเด้อ กลืนลงไปเลย  ใครทำตามนี้ได้ ต่อให้เป็นเรื้อรังมาเป็นสิบๆปี ผ่าแล้วไม่หายเพราะไม่ได้เอาหัวมันออก ภายในเจ็ดวันถึงหนึ่งเดือนรับรองหายสนิทครับ ตำรายาโบราณ ที่หมอแผนปัจจุบันเรียนตำราฝรั่งยังอธิบายไม่ได้ครับ แบ่งปันเป็นวิทยาทาน แต่คุณจะหาว่านเพชรสังฆาตสดๆได้ที่ไหน เป็นพืชไม้เลื้อยครับ ที่เหลือต้องไปต่อยอดเองครับ โชคดี ทำได้หายสนิทแน่  สุดยอด
บันทึกการเข้า

A'_Chai
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 217



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 06:33:55 »

ผ่าแล้วจะรู้ว่าความสุโค่ยเป็นอย่างไร  งอแง
ก่อนผ่าหมอบอกนอนพักโรงพยาบาลซัก2วันก็ออกไปได้ เลยจัดหนัก บอกหมอ มีเท่าใหร่กวาดให้เรียบ
เล่นไปซะ20เข็ม หย่าว่าแต่นอนโรงพยาบาล2วันเลย ตดยังแย่ ได้โปรด..
ขี้ก็ไม่กล้าขี้ เจ็บแผลสุดๆ เอาไปเอามาโดนสวนตูดอีก สุรปแล้วนอนโรงบาลซะ5วัน
ออกมานอนซมอีกโอย! ไม่อยากจะเล่า เรื่องมันยาว
แต่เวลาแผลหายแล้วแช่น้ำร้อนซักระยะ ก็หายนะ ยังไม่เป็นๆหายๆ
เคล็ดลับ ถ้าเจ็บแผลตอนขี้ละก็ หลังจากเสร็จกิจ ให้แช่น้ำร้อน มันจะไม่ปวดหน่วงๆ โชคดี
บันทึกการเข้า
meehen
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 07:41:18 »

ใช้บัวหิมะทา หายแน่นอน ไม่ไหวแล้ว...
บันทึกการเข้า
aek_ex
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 452


รถสวนสัตว์ก๊าบบ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 07:43:03 »

ถ้าหายแล้ว  พยายามทานผัก ผลไม้และน้ำเยอะๆ นะครับ  หมู  ไก่ พยายามทานให้น้อยลง
บันทึกการเข้า

กลายเป็นรถครอบครัวไปแล้ว
WIMON100
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,860



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 08:23:09 »

สงสัยต้องหายากินก่อนผ่าตัวเลือกสุดท้าย
บันทึกการเข้า

superchen
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 312


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 08:46:49 »

ถูกต้องนะครับ การผ่าตัดให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย ปกติแล้วการรักษาควรกระทำจากเบาไปหนัก  ผ่าตัดถือว่าเป็นการรักษาดีที่สุด แต่ Effect ที่ตามมาหลังการผ่าตัด มักเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยคำนึงถึงกัน ส่วนใหญ่หมอจะไม่ค่อยฟันธงว่าให้ผ่าตัด จนกว่าจะถึงที่สุด จรรยาบรรณของหมอคือ "รักษาชีวิตผู้ป่วย" การผ่าตัดแม้จะรักษาชีวิตผู้ป่วยได้ แต่ก็เสี่ยงเรื่องอื่น ๆ แทน  ฉะนั้นให้หมอเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่? จะดีกว่า ในปัจจุบันพยายามให้หมอหลายท่านวินิจฉัยจะดีกว่าครับ (หา Second Opinion) หมอคนแรกบอกต้องผ่าตัด  อีกคนอาจจะบอกว่าไม่ต้องก็ได้ คุณควรมีวิจารณญาณดูครับ
บันทึกการเข้า
born-ae101 TPZ#07
มือใหม่หัดซิ่ง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 93



ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 08:52:22 »

กินยาอ่ะครับ แล้วปรับเปลี่ยนนิสัยการกิน เวลานั่งถ่ายอย่านั่งนานๆ หรือจะนั่งทำอะไรก็พยายามลุกไปเดินบ้าง เพราะริดสีดวง มันเกิดจากเลือดคั่งน่ะครับ !!
บันทึกการเข้า

---TPZ # 007   [Bond] โซน ตรัง-พัทลุง
UltraKw@nG
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,817


น้ำใจให้เท่าไหร ไม่มีวันหมด!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 09:34:24 »

เป็นอยู่ กินยาไม่กล้าผ่า อายหมอครับ
บันทึกการเข้า

yuirider
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,860


{เลิกคบ jic เพราะมีกิ๊กเป็น tein}


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 20 มกราคม 2011 11:40:04 »

เดี๋ยวถามพี่ให้นะ...เพิ่งผ่ามาหมาด...แต่จำได้ว่าทรมานเป็นเดือน.....
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!