อัพเดทข่าวสาร
ตำรวจกองปราบฯ บุกทลายอู่ซ่อมรถยนต์ เปิดบังหน้า ที่แท้เป็นแหล่งชำแหละและแยกชิ้นส่วนรถที่ถูกโจรกรรมมา เบื้องต้นจับได้เพียงคนงานในอู่ 4 ราย พร้อมเตรียมขยายผลนำกำลังไปทลายแหล่งเก็บและชำแหละในย่านรังสิตและบางปะอินอีกทอด
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 ป.นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บริษัทเอสทีจี 8118 จำกัด เลขที่ 40/91 หมู่ 6 ซอยโชคชัย 4 แยก 28 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ซึ่งเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์บังหน้า แต่เบื้องหลังจะนำรถยนต์ที่ถูกขโมยมาชำแหละแยกชิ้นส่วน
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบคนงานเฝ้าอยู่ภายในอู่รวม 4 คน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน แต่เบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าเป็นเพียงลูกจ้างที่คอยชำแหละรถยนต์ที่เจ้าของอู่นำมาให้ชำแหละเท่านั้น และไม่ทราบว่ารถยนต์ที่นำมานั้นจะเป็นรถยนต์ที่ถูกขโมยมา
พ.ต.อ.ปิยะกล่าวว่า การเข้าตรวจค้นอู่ดังกล่าวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางมาลัย วงศ์เหม ว่ารถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ถูกคนร้ายโจรกรรมไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา และถูกนำมาชำแหละชิ้นส่วนในอู่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน และนำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมยึดรถกระบะคันดังกล่าวและรถยนต์อื่นๆ ที่ถูกคนร้ายนำมาถอดชำแหละชิ้นส่วนอีกประมาณ 10 คัน
พฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้จะตระเวนลักรถในเขตกรุงเทพฯ จากนั้นจะขับออกไปพักไว้ในพื้นที่ต่างจังหวัด แล้วนำกลับเข้ามาชำแหละแยกชิ้นส่วนใน กทม. รังสิต และบางปะอิน ซึ่งทางกองปราบฯ ได้เฝ้าแกะรอยพฤติการณ์ของคนร้ายชุดนี้มานานก่อนที่จะแบ่งกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมกันทั้ง 3 จุด ซึ่งก็ได้ของกลางเป็นจำนวนมาก พ.ต.อ.ปิยะกล่าว และว่า หากประชาชนที่ถูกโจรกรรมรถยนต์ไป และสงสัยว่าคนร้ายแก๊งนี้ขโมยไปก็สามารถมาดูของกลางได้ที่กองปราบฯ อย่างไรก็ตาม การโจรกรรมรถยนต์แก๊งคนร้ายได้พัฒนาไปมากทำให้อยากต่อการติดตาม จึงอยากฝากให้ประชาชนหาแนวทางในการป้องกันรถยนต์ของตนเองไว้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าตรวจสอบอู่รถโจรกรรมดังกล่าวแล้ว ได้ส่งกำลังอีกอีกชุดบุกไปตรวจสอบอู่รถ และที่พักรถในพื้นที่รังสิต และบางปะอินต่อไป ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่าพบรถที่ถูกโจรกรรมมาเก็บไว้เป็นจำนวนมาก
ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้า รวมทั้งภาพถ่ายของกลางจะนำมาเสนอให้ทราบต่อไป
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000021237
