เราเต็มที่กับมันแล้ว ผมปลูกต้นไม้เยอะ (เพราะทำจัดสวนด้วยคริคริ) พยายามจะช่วยลดความร้อนลงบ้าง(แต่เรื่องรถนี่ห้ามไม่ได้เลย)
ถ้าจะเป็นอะไรไปเพราะธรรมชาติก้อไม่เป็นไรคับ เพราะเกิดแก่เจ็บ"ตาย"ก้อเป็นเรื่อง"ธรรมชาติ"เรื่องนึงคับ แต่...ขอมีเมรียก่องได้ม้ายยยย
มันไม่ใช่ภัยธรรมชาติแบบปกติธรรมดาสิครับ
แต่มันเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ที่ล้วนเกิดมาช่วยกันทำลายโลกนี้มากกว่าการสร้างสรรค์โลกให้คนสภาพเดิมหรือดีกว่าเดิม
แค่เรามองไปรอบตัวเราก็จะเห็นมนุษย์ที่ต่างขวนขวายแย่งกันกินแย่งกันใช้ทรัพยากรของโลกให้หมดไปเร็วขึ้นทุกวันๆ
เราลองถามตัวเองเล่นๆสิครับ
- ไฟฟ้า มีปัญญาใช้ แล้วมีปัญญาผลิตหรือป่าว
- น้ำ มีปัญญากินมีปัญญาใช้ แล้วมีปัญญาผลิตหรือป่าว
- อาหาร มีปัญญากิน แล้วมีปัญญา ผลิตหรือป่าว
- เสื้อผ้า มีปัญญาใส่ แล้วมีปัญญาผลิตหรือป่าว
- น้ำมัน มีปัญญาใช้ แล้วมีปัญญาผลิตหรือป่าว
เราถูกสังคมโลกหลอกให้ยึดติดกับค่าของเงินมากกว่าทรัพยากรธรรมชาติ โลกนี้ถึงได้พังเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เพราะมันคิดแค่ว่า ใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า ใช้น้ำมัน กินอาหาร กูมีเงินจ่าย เมื่อทุกคนคิดเหมือนกัน แล้วทรัพยากรธรรมชาติมันก็ถูกผลาญด้วยเงินอย่างรวดเร็ว
ดูภาพที่ซึนามิเอารถยนต์มากองรวมกันสิครับ เขาเหมือนจะบอกว่า พวกมรึงดูดเลือด (ขุดเจาะน้ำมัน ) จากตัวกูเยอะขนาดไหนก็ลองนับดูจำนวนรถเอาแล้วกัน
คำว่าโลกาวินาสหน่ะ มันเกิดขึ้นมาแล้วเป็นปี และมันจะทวีหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือมนุษย์เพียงคนเดียวแล้วบอกว่า " ผมขอโทษครับ ขอโอกาสผมแก้ไขสักครั้งได้ไหม "
ซึ่งผมว่า มันไม่มีวันนั้นหรอก แต่ที่มันซวยคือ มันดันจะมาเกิดในยุคที่เราหรือรุ่นลูกรุ่นหลานเรามีชีวิตอยู่นี่แหล่ะ