ส่วนมากแล้ว ไฟไหม้รถ จะมาจากสายไฟ การวายริ่ง ที่ผิดๆ หรือสายไฟช๊อตกัน
มาจากแก๊ส คงเป็นไปได้ยากอะคับ เพราะแก๊สไม่ใช่ว่าจะติดไฟง่ายนะคับ
เพราะผมเคย เดินสายไฟ ในห้องโดยสารเอง แล้ว มันดันหลุดไป ช๊อต ตัวถัง
ฟิวก็ไม่ยอมตตัด ขับๆไปควันออกมาจาก คอนโซกลาง ตกใจ รีบปิดสวิช แล้วดึงสายไฟออกมาให้หมด
บางคนตกใจ รีบออกจากรถ ก่อนโดยที่ไม่ได้ปิดสวิตช์ หรือเครื่องยนต์ เพื่อตัดระบบไฟที่ช๊อตอยู่ทำให้ลุกลามคับ
รองง่ายๆคับสายไฟ ถ้า รองเอามาช๊อตกัน + - สายไฟจะเริ่มร้อนแดงแล้วละลาย นี่แหละคับสาเหตุไฟไหม้
เห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ เวลามันช็อตหรือลัดวงจร ขนาดสายไฟเส้นโตๆเกินสามมิล ยังละลายแล้วแดงในพริบตา ความร้อนมันสูงมากครับ งานนี้ ช่างที่ติดให้นั่นล่ะมักง่าย เดินสายไฟบกพร่อง ไม่ก็ไม่ติดฟิวส์ไว้ มันลัดวงจร ไม่มีฟิวส์ตัด ก็เรียบร้อยครับ
ผมเคยมีประสพการณ์ประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมาครับ เหตุเกิดที่แยกสนามบินน้ำ กำลังจะเลี้ยวเข้าบ้านพี่สาวภรรยา(นานๆมาเยี่ยมที) นั่งในรถอยู่ๆก็มีควันขาวๆพ่นออกมาจากช่องแอร์โดยไม่ทราบสาเหตุ รถคันนั้นเป็นโฮเด้น เบนซินหกสูบ สามพันกว่าซีซี แต่ใช้ทั้งเบนซินและแก๊ส มีถังแก๊สขนาดเก้าสิบลิตรติดท้ายแก๊สเกือบเต็มถังอยู่ รถคันนี้แบตฯมันอยู่ท้ายรถครับ อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากประแจตัวใหญ่ มันหล่นเข้าไปขวางขั้วแบตฯแล้วล็อกเลย แบตลูกนั้นขนาดใหญ่ร้อยยี่สิบแอมป์
มันหล่นเข้ามาขวางได้ไงก็ไม่รู้ รถก็ติดยาวเป็นแพเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้ ผมก็งงอยู่ในรถอยู่นาน อยู่ๆควันก็เข้ามาเกือบเต็มห้องโดยสารแล้วจะหายใจไม่ออก พยายามสังเกตุ ก็เห็นควันส่วนใหญ่มาจากด้านท้าย เครื่องยนต์มันก็เดินนิ่งสนิท ทำงานปรกติ ไม่ออกอาการอะไรเลย หากในวันนั้นผมสติไม่ดีสักนิดไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ผมก็รีบลงจากรถ มาเปิดฝากระโปรงท้าย ตอนยังไม่เปิด มันก็ยังไม่ลุกครับ พอเปิดเท่านั้น ไฟมันลุกพรึบขึ้นมาทันทีที่เปิดเลย เปลวไฟสูงสองสามเมตรเลย ผมกระโดดหลบเกือบไม่ทันแต่ก็ไม่เป็นอะไร พร้อมกับรีบวิ่งไปเอาเครื่องดับเพลงฮาล่อนอยู่ข้างเบาะหน้าตรงเสากลางซึ่งติดไว้ ออกมา แล้ววิ่งกลับมาที่เปลวเพลิงทันที กดแค่ปรืดเดียว ดับสนิทเลยครับ เปลวไฟที่สูงท่วมหัว ดับทันทีไม่ถึงหนึ่งวินาที งานนั้นรอดตายได้เพราะเครื่องดับเพลงฮาล่อนนี่ล่ะ วันนี้ยังมีเก็บไว้ที่ในรถตลอดครับ แต่เป็นอุปกรณ์ดับเพลิงที่กฎหมายงี่เง่าไทยห้ามนำเข้าแล้ว จะมีใช้ในทางการทหารกับในเครื่องบินเท่านั้น พอเปลวไฟดับลง ผมก็ย่องเข้าไปดู ต่อหน้าสายตาเป็นร้อยๆคู่ ซึ่งรถติดอยู่ตรงนั้น จะหนีก็ไม่มีทาง นอกจากทิ้งรถ ถึงได้เห็นประแจเบอร์สิบเจ็ด มันตกเข้าไปขวางขั้วแบต แล้วดันล็อกพอเหมาะพอเจาะ ตรงนั้นดันมีกระป๋องโซแน็คอยู่ตรงนั้น เหตุที่มันลุกไหม้ เพราะความร้อนที่สูงสุด ทำให้กระป๋องโซแน็คระเบิดครับ ประกอบกับผมดันเปิดฝากระโปรง มีอ๊อกซิเจนเข้าไป ก็ลุกพรึบเลย
งานนั้น หากลามเข้าถึงถังแก๊สเก้าสิบลิตร สงสัยคงมีรายการเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่ ซึ่งตอนนั้นน้ำมันลิตรละประมาณสิบบาทเองครับ แก๊สลิตรละสามสี่บาทเองมั๊งที่กรุงเทพ ตจว.ประมาณสี่บาทกว่าๆ หม้อแบตลูกนั้นก็เละบิดเบี้ยวเพราะความร้อนทั้งที่ใช้งานมาไม่ถึงปี พอไฟดับ ตร.ที่ป้อมถึงได้เข้ามาช่วย อีตอนลุกนั้นไม่เห็นหัวใครซักคน หากผมไม่มีสติแล้วคว้าเครื่องดับเพลิงที่ว่า(ซึ่งช่วยชีวิตผู้คนหลายคนจนต้อง ล่าหามาไว้ใช้จนถึงปัจจุบันนี่ล่ะ) ก็คงไม่มีวันนี้ ร้านแบตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ้มหวานรอครับ งานนั้นหมดไปพันกว่าบาทแค่แบตลูกใหม่ ลูกเก่าก็ยกให้ร้านไปฟรีๆ วันนี้ราคาแบตร้อยยี่สิบแอมป์น่าจะมีประมาณสี่พันได้มั๊ง คิดดูเงินเราด้อยค่าลงไปมากทีเดียวครับ รถติดแก๊ส ควรมีอุปกรณ์ดับเพลิงติดรถตลอดครับ เผื่อฉุกเฉินจะช่วยชีวิตและทรัพย์สินเราได้ครับ รอยฝากระโปรงไหม้ยังติดอยู่เลยครับ ปัจจุบันรถคันนี้ได้ถวายพระไปนานแล้วครับ เครื่องดับเพลิงนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะที่เป็นฮาล่อนนั้นดีที่สุดครับ เปลวเพลิงลุกไหม้สูงท่วมฝากระโปรง ผมฉีดทีเดียวดับพรึบสนิทเลยครับ แต่นักการเมืองไทยมันห่วย ดันออกกฎหมายห้ามใช้ แต่หน่วยงานราชการดันใช้ได้ครับ โดยเฉพาะหน่อยงานราชการที่เกี่ยวกับไฟฟ้า กับในอากาศยานแทบทุกลำครับ ใช้ฮาล่อนทั้งนั้นลองสังเกตุดูครับว่าจริงไหม จะติดในตัวอาคารแทบทุกสาขาเลยครับ เป็นกระป๋องสีเหลืองๆนั่นล่ะ สุโค่ย เพราะกฎหมายนี้เลยทำให้เราหาซื้อไม่ได้ครับ แต่ผมไม่สนกฎหมายห่วยๆนี้ครับ หาซื้อมาจนได้ล่ะแต่วันนี้ไม่น่ามีแล้ว ใครมีโอกาสไปตปท.ก็หิ้วๆเข้ามาใช้ก็ดีนะครับ ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียรถในครั้งนี้ด้วยครับ อู่ที่ติดแก๊สให้เราต้องรับผิดชอบครับ หากคุณไม่มีประกันนะ โชคดีครับ