AE. Racing Club
07 ตุลาคม 2024 00:25:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 [3] 4 5 ... 15  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: !!==CHONBURI HORROR ZONE==!!  (อ่าน 66876 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2007 16:18:01 »

ลองผวนสิ อืมอยากจะกระชากเหมือนกันนะ คริคริ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
^^warriorball^^
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540


เน้นใช้งาน..แต่ขับมันส์...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2007 18:36:30 »

มีไรให้ลองอีกแว้วววว...
บันทึกการเข้า
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2007 13:26:38 »

ผีที่ค่าย
ผมพึ่งอายุ14ปีได้ไปเข้าค้ายที่จ.สระบุรีมา ผมได้พบกับประสบการณ์แปลกๆที่ค่าย วันแรกที่ไปพวกผมและเพื่อนๆสนุกกันมาก คืนแรกผ่านไปอย่างไม่มีเหตุการณ์ใดที่น่ากลัวเลย คืนวันต่อมามีการชุมนุมรอบกองไฟ รอบกองไฟก็จะมีต้นงิ้วต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่งซึ่งแปลกมาก เพราะต้นงิ้วนี้มีอยู่ต้นเดียวเท่านั้น ( ขอบอกก่อนว่าผมไม่เคยเห็นต้นงิ้วมาก่อนเคยเห็นแต่ในการ์ตูนที่เป็นต้นที่มีหนามเยอะๆ แต่ของจริงกับมีแต่กิ่งใหญ่และดอกสีแดง ) ผมได้สังเกตุเห็นอะไรบ้างอย่างเป็นเงาดำๆอยู่บนต้นไม้พาดอยู่บนกิ่งด้วยความที่ผมสายตาสั้นผมเลยคิดว่าผมเห็นเป็นใบไม่ทับกิ่งอยู่ผมเลยไม่คิดอะไร ผมเห้นอย่างนี้มาตลอดจนจบรอบกองไฟ พอจะแยกย้ายเข้าห้องนอนเพื่อนผมที่อยู่คนละห้องก็เล่าให้เพื่อนๆฟังว่า ก่อนจะจบพิธีรอบกองไฟเขาเห็นเด็กผู้หญิงนั่งจ้องหน้าเขา นั่งอยู่บนต้นไม้ และ ทำท่าว่าจาเอาหัวลงจากต้นไม้ ผมก็เลยคิดถึงสิ่งที่ผมเห็น ผมเลยถามเพื่อนผมว่า เห็นอยู่ตรงไหนของต้นไม้ บริเวณที่เพื่อนผมบอกทำให้ผมตกใจ เพราะเขาบอกในบริเวณที่ผมเห็นเลย ผมก็เลยเราเรื่องที่ผมเห้นให้เพื่อนๆฟัง เพื่อนๆเลยบอกว่าใหไปดูที่ต้นงิ้วต้นนี้ใหม่เพื่อนความแน่ใจว่าไม่ตาฝาดเห็นอย่างอื่นเป็นเด็ก พอไปดูปรากฏว่าไม่มีอะไร แล้วขอบอกอีกอย่างว่าต้นไม้ต้นนี้ไม่มีใบเลย แล้วที่ผมเห็นนั้นมันคืออะไรกันใน และในคืนนั้นห้องข้างๆ ของผมได้ประสบเหตุ คือ เพื่อนผมเขาไม่ยอมสวดมนต์ก่อนนอนแล้วเพื่อนผมก็หัวเราะกับเพื่อนอยู่ดีๆเขาก็ชอคไปเฉยๆ อาจารย์ที่มาดูก็เลยนำพระมาคล้องคอองค์แรกยังไม่หายเลยนำองค์ที่2มาคล้องเพื่อนผมก็สลบไปเลย วันต่อมาเขาก็ขอกลับบ้านเลยครับผมไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำให้ผมสงสัยเป็นอย่างมาก.............................




จากคุณ ณัฐไผท
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
^^warriorball^^
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540


เน้นใช้งาน..แต่ขับมันส์...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2007 16:23:08 »

คืนนี้ไปหาผีไรดีน๊า
บันทึกการเข้า
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2007 16:32:22 »

คืนนี้ไปหาผีไรดีน๊า
ผีผ้าห่มก็ได้คราบ คริคริ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
^^warriorball^^
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540


เน้นใช้งาน..แต่ขับมันส์...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2007 10:19:29 »

คืนนี้ไปหาผีไรดีน๊า
ผีผ้าห่มก็ได้คราบ คริคริ
เปงงายพี่ปูมไม่ไหวหรอเมื่อคืนนี้
บันทึกการเข้า
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 13:34:06 »

คืนนี้ไปหาผีไรดีน๊า
ผีผ้าห่มก็ได้คราบ คริคริ
เปงงายพี่ปูมไม่ไหวหรอเมื่อคืนนี้

วันนั้นร่วงจริงๆคับ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
1300 ก็แค่นั้น
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,166


ดีชั้วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #47 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 13:40:56 »

อัพเข้าปูมจะเป็นมืออันดับ2แล้ว
บันทึกการเข้า

ขอแค่มีน้ำใจ แม้ขับรถอะไรก็เพื่อนผม\\\\\\น้ำปั่นมาแว้วววววววววววว
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #48 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:04:36 »

อัพเข้าปูมจะเป็นมืออันดับ2แล้ว


ใกล้และขยับบอร์ดหนักๆ ช่วงนี้
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #49 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:48:21 »

กองทัพผี
สวัสดีคะพี่ๆทีมงานเดอะชอคทุกๆคนหนูมีเรื่องจะเล่าให้พวกพี่ๆฟังกันคะ มันเป็นเรื่องของแม่หนูเอง เริ่มเลยละกันนะคะแม่เคยเล่าให้หนูฟังว่า ตอนที่แม่ยังเป็นสาวๆอยู่ อายุประมาณ20กว่าๆนั้น แม่หนูอยู่จังหวัดสุรินทร์ ทุกๆวันประมาณตี4กว่าๆแม่จะเอาควายไปที่ทุ่งนาทุกครั้งโดยมีสุนัขที่แม่เลี้ยงอยู่จะเห่าให้แม่ตื่นในเวลาประมาณนี้ เพราะสมัยก่อนที่บ้านยากจน ไม่มีนาฬิกา สุนัขของแม่ก็จะเห่าทุกๆวันเป็นชีวิตประจำวัน แต่มีอยู่คืนหนึ่งมันเห่าเสียงดัง เพราะว่าคุญตาเมากลับมาที่บ้าน แต่แม่ไม่รู้ นึกว่าถึงเวลาพาควายไปที่นา แม่ก็ไปควายเดินออกไปเรื่อยๆ แต่แม่ก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมตี4แล้วท้องฟ้ายังดูสว่างอยู่เลย สว่างมาจากพระจันทร์แหละคะ แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร เดินไปเดินมา แม่บอกว่าเขาเห็นช้างตัวใหญ่มากๆยืนอยู่ทุ่งนายิ่งแม่เดินไปก็เหมือนยิ่งใกล้ช้างทุกที แต่ไม่ใช่ช้างตัวเดียว เหมือนมีคนอยู่บนหลังช้างด้วย จังหวะนั้น ควายของแม่ก็วิ่งไปใส่เงานั้นแล้วก็เหมือนอากาศ ไม่มีอะไร เขาก็ตกใจแม่พูดขึ้นว่า ไปๆเดินไป....เขาก็เดินไปเรื่อย แต่เขาบอกว่า มีเสียงสวบๆอยู่ใกล้ๆหูเขาเลยรู้ว่าเงานั้นมาอยู่ข้างหลังแม่แล้วแต่เหมือนว่ามีคนเดินหลังแม่เยอะมากเพราะเสียงนั้นเซ้งแซ่ไม่รู้ว่าพูดภาษาอะไรกัน เขาก็เดินไปโดยไล่ควายไปด้วย แล้วพอสักพักเสียงนั้นค่อยๆเบาจนจางหายไป แม่ก็เลยนั่งที่นาจนถึงเกือบเช้า แม่ก็เล่าให้คุณตาฟัง คุณตาบอกว่า สงสัยสมัยก่อนแถวนี้เคยพวกเขมรรบกันมั้ง แต่คุณตาก็ไม่เคยเจอ เรื่องก็มีอยู่เท่านี้แหละคะ หนูขอให้ทีมงานเดอะชอคมีความสุข เจริญกันทุกๆคนนะคะ




จากคุณ รัตนาพ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #50 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:54:00 »

วิธีเล่นผีตระกร้า
คนจีนเรียกผีตระกร้าว่าอาโกวจะเล่นในช่วงหลังวันไหว้พระจันทร์จนถึงเทศกาลกินเจ
อุปกรณ์ 1. โต๊ะเตี้ย 1 ตัว
2. กระถางธูป หรือแก้วปักธูป และธูป
3.น้ำชา 1 ถ้วย ขนมเปี๊ยะ 1 ที่
4. ตระกร้าจีน ( ลักษณะกลมคล้ายปิ่นโตมีฝาปิด คนจีนเรียกว่า ฮวยน้า )
5. เสื้อผู้หญิงแบบมีกระดุมหน้า 1 ตัว (พอสำหรับสวมใส่ตระกร้าได้และเหลือชายไว้สำหรับผูก ปมได้)
6.ยอดทับทิม 2-3 ยอด
7.กระดาษทอง (คนจีนเรียกว่า ขอซี้ )
8. ถ้าต้องการให้ตระกร้าเขียนอะไรก็ให้เตรียมปากกาและกระดาษแผ่นใหญ่

วิธีการเล่น 1.สวมเสื้อให้ตระกร้าติดกระดุม ผูกชายเสื้อเป็นปม 2 ข้างสำหรับจับ นำยอดทับทิม 1 ยอดผูกไว้ ที่หูตระกร้าด้านบนสุด (ผุกปากกาไว้ด้วยถ้าต้องการให้ผีตระกร้าเขียน)
2.นำกระถางธูปใส่ทราย น้ำชา ขนมทับกระดาษทองไว้ ตั้งไว้บนโต๊ะ แและเตรียมน้ำแช่ยอดทับทิมไว้ต่างหาก
3.จุดธูป 5 ดอก บอกขออนุญาติเจ้าที่ให้ผีตระกร้าเข้าบ้านได้และหน้าบ้านซ้ายขวาอย่างละ 1 ดอก 3 ดอกปักที่กระถางธูปและอีก 1 ดอก ปักหรือผูกไว้ที่ตระกร้าด้านบนสุด ต่อธูปอย่าให้ดับตลอดในพิธี แล้วให้ผู้เล่น 2 คนยกเชิญที่ริมน้ำถ้าไม่มีริมน้ำให้เชิญที่ท่อน้ำหน้าบ้านหรือทางน้ำไหลห้ามเชิญในบ้าน ถ้าผีตระกร้ามาแล้วตระกร้าจะหนักและโยก ให้นำเข้าพิธีให้เรียกผีว่าอาโกว
4.ถึงพิธีแล้วห้ามวางตระกร้าให้ถือตลอดพิธีจะนั่ง ยืน หรือคุกเข่าก็ได้(ถ้าเปลี่ยนคนถือให้ถามก่อนจะให้เปลี่ยนหรือไม่ถ้าให้เปลี่ยนผงกกี่ทีและถ้าไม่เปลี่ยนให้ผงกกี่ที)
5.แล้วแต่ผู้เล่นจะถาม แต่ส่วนใหญ่จะถามอายุก่อน ตำตอบของอาโกวขึ้นอยู่กับการที่เราให้ผงกกี่ที
6.เมื่อเล่นเสร็จแล้วจะต้องเชิญอาโกวกลับไปยังจุดที่เชิญมา บอกเชิญอาโกวกลับ พักผ่อน (รอให้ตระกร้าสึกเบา)เสร๊จแล้วถอนธูป ยอดทับทิม เผากระดาษทอง ทิ้งยังจุดที่เชิญ แล้วนำน้ำแช่ ยอดทับทิมพรมศีรษะผู้เล่นทุกคน

-เล่นกี่คนก็ได้แต่ต้องมีคนถือ 2 คน
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #51 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:55:15 »

ตำนาน: วิธีพิสูจน์ผี
วิธีพิสูจน์ผี 3 วิธี


วิธีที่1
วิธีนี้ง่ายมากครับได้ผล 60%-80%
เพียงแค่เวลาคุณนอนหลับในยามค่ำคืนแต่ขอให้เป็นคืนเดือนเพ็ญนะครับจะได้ผลดีเยี่ยม เวลาคุณนอนนั้นจากที่คุณเคยนอนหันศีรษะไปทางใดก็ตามให้คุณเปลี่ยนการนอนมาเป็นหันหัวไปทางทิศตะวันตก และที่สำคัญคุณต้องจุดธูป 1 ดอกไว้บริเวณหัวนอนของคุณ เท่านี้แหล่ะครับคุณก็จะเจอสิ่งที่คุณต้องการแล้ว...


วิธีที่2
ผมได้วิธีนี้มาจากคำบอกเล่าของเพื่อนคนนึงที่ได้รับข้อมูลมาจากสื่อๆหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ วิธีนี้ได้ทำการทดลองโดยไม่ตั้งใจจากเด็กวัยรุ่นชาวญี่ปุ่น
วิธีการก็มีอยู่ว่าคุณต้องหาสถานที่ซักที่นึงที่มีเสา 4 ต้น(โบสถ์วัดจะดีมาก)แต่ถ้าไม่สามารถที่จะหาได้ก็ให้ใช้บ้านคุณหรือบ้านใครก็ได้ที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมและมีเสา 4 ต้น โดยวิธีนี้
* ให้ใช้จำนวนคนได้เพียง 4 คนเท่านั้นห้ามเกินกว่านี้โดยเด็ดขาด
* ให้ทุกคนยืนประจำที่เสาทั้งสี่ต้นโดยไม่มีเครื่องลางใดๆติดตัวและปิดไฟให้มืดสนิท
* เริ่มวิธีให้คุณตั้งสมาธิให้มั่นอย่าวอกแวก แล้วให้คนแรกเริ่มวิ่งไปแตะคนที่ยืนอยู่ที่เสาต้นที่ 2 โดยคนที่หนึ่งจะยืนแทนที่คนที่สอง
* เมื่อคนที่สอง2แตะให้วิ่งไปแตะคนที่ยืนอยู่ที่เสาต้นที่ 3
* คนที่ 2 ที่วิ่งมาแตะจะยืนแทนที่คนที่ 3 คนที่ 3 ก็จะวิ่งไปแตะคนที่ยืนอยู่ที่เสาต้นที่ 4 และยืนแทนที่คนที่ 4
หากคุณนึกภาพตามคนที่ 4 จะไม่สามารถแตะใครได้ ให้เพียง แค่วิ่งไปแทนที่ที่คนที่ 1 ยืน และเริ่มให้คนที่ 1 วิ่งไปแตะคนที่ 2ใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆคุณจะพบว่ามีอีกหนึ่งบุคคลลึกลับมา ร่วมวิ่ง กับคุณด้วยและทำให้คุณสับสนในการวิ่ง


วิธีที่3
วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างยากแต่รับรองได้ว่าเป็นวิธีที่ได้ผลถึง100% อย่างแน่นอนท่านผู้ใดอยากพิสูจน์อย่ารอช้ามาดูกันว่าต้องทำอย่างไร
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.ขี้เถ้าจากเชิงตะกอนสักหนึ่งช้อนโต๊ะห่อด้วยผ้าสีดำ
2.ใบบอนดำ 1 ใบ
3.น้ำบ่อ 7 วัดเอาวัดละครึ่งช้อนโต๊ะ

สถานที่และเวลาที่ทำพิธี
1.สถานที่ทำพิธีต้องทำในวัดร้างหรือวัดที่มีอายุตั้งแต่ร้อยปีขึ้นไป
2.วันเวลาที่ทำพิธี ต้องทำวันขึ้นและแรม 8,14,15 ค่ำในเวลา 4 ทุ่มถึง ตี 2

ผู้เข้าพิธีการบวงสรวง
1.ผู้ทำพิธีหรือหัวหน้า
ต้องเป็นบุคคลที่เคยผ่านการเป็น พระภิกษุและสามเณรแล้วไม่ต่ำกว่า 3 พรรษา
2.ผู้เข้าพิธีไม่เกิน 3-6 คนให้ทุกคนใส่ชุดดำทั้งหมด จุดเริ่มต้นพิธีให้ดับไฟทุกดวงที่มีอยู่ในวัดทั้งหมดเปิดประตูในอุโบสถหรือวิหารจุดเธียนไว้หน้าพระประธานเพียง 1 เล่ม
3.จากนั้นมายืนอยู่หน้าวิหารแล้วทำการผสมให้หงายใบบอนขึ้นเทขี้เถ้าลงไปพอประมาณแล้วเอาน้ำผสมลง ไปพอประมาณ ว่าหรือเป่าคาถา มะๆมาๆ 3 จบพร้อมกันทุกคน
วิธีในการใช้
ให้ใช้นิ้วที่ถนัดแตะลงในน้ำที่ผสมไว้
แล้วป้ายไว้ที่หน้าผากหรือคิ้วตาทั้งสองข้างจากนั้นผู้ที่ทำพิธีเดินนำหน้าถือใบบอนไปด้วย
เดินเวียนรอบอุโบสถไปทางซ้าย 2 รอบมาหยุดตรงที่จุดเริ่มต้น หันหน้าเข้าอุโบสถ แล้วท่านจะเห็นผีปรากฏร่างตามปรารถนา
ข้อห้าม
1.เมื่อเห็นผีปรากฏร่างห้ามคนใดคนหนึ่งวิ่ง
2.ห้ามดื่มสุรา
3.ห้ามนำขี้เถ้าเข้าบ้านพักที่อยู่อาศัยจะเป็นภัยแก่ตนเองและคนในครอบครัวถึงเสียชีวิต หรือไม่ก็เป็นบ้า เสียสติไม่มีทางรักษาให้หายขาด
4.ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับในขณะทำพิธีขอวิญาณให้ปรากฏร่าง
5.ในขณะที่ผีปรากฏร่างห้ามซักถามหรือพูดคุยกัน และห้ามเคลื่อนไหวตัวไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นท่าน ไม่อยากดูให้ท่องคาถา วะวะวะตังวะวะวะนัง 3 จบ หลับตาลงท่านจะไม่เห็นผีแต่ห้ามหนี ออกจากที่เวลาเลิกดูให้ท่านใช้คาถาบทในข้อ 5 จากนั้นให้ผู้ที่พิสูจน์ผีถ่มน้ำลายลงพื้น 3 ครั้งและให้รีบไปล้างหน้าด้วยน้ำส้มป่อยจึงเสร็จพิธีและให้เก็บขี้เถ้าที่เหลือไว้ในบริเวณวัด



บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:55:47 »

ตำนาน: บ่อปูนอาถรรพ์ ย่านดอนเมือง
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 - 15 ปีมาแล้วนั้น ประวัติ บ่อปูนนี้เป็นบ่อขุดเพื่อเอา โดยใช้แมคโคขุดเป็นกินบริเวณกว้างมาก และลึกสุดแมคโค อาจจะเรียกว่าทะเลสาบเล็กก็ว่าได้ เรื่องนี้มีอยู่ว่า
ตอนสมัยผมเด็กนั้น มีคนเล่าว่า
1. มีม้าที่เลี้ยงไว้ใกล้ ๆ บ่อ ได้โดดลงไปตายหลายตัว
2. มีสามีภรรยาตำรวจคู่หนึ่งได้ไปทำอะไรทานกันและ สามีอยู่ก็เกิดกระโดดน้ำลงไปตาย
3. ตอนสมัยผมเด็ก ๆ นั้น เด็กแถว ๆ บ้านผมก็ไปเล่นน้ำบริเวณนั้น ๆ ก็ได้ว่ายไปใกล้กับเรือลุงหาปลา ก็ได้คุยกับลุงว่าผมดำน้ำเก่ง ผมจะดำน้ำให้ดูน่ะ แล้วก็ดำหายลงไปชั่วชีวิตเลย ๆ กว่าจะหาศพเจอ ก็ได้เชิญคนทรงมาบอกตำแหน่งให้คนประดาน้ำ จนเจอศพ ตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว
4. มีลุงคนหาปลาหว่านแหได้ หว่านแหลงไป หว่างที่เดินลงไปนั้น แหก็ออกห่าง ไปเรื่อย ก็นึกเสียดายแห หว่างนั้นก็นึกถึงอาถรรพ์ ก็เลยทิ้งแหไปและหนี้ไป
5. คนรู้จึก ได้ไปตกปลาตอนประมาณบ่าย ก็เกิดตะขอเบ็ดก็ติด ก็เลยตามสายเอ็นลงไปดูจนเจอ เมื่อเวลาขึ้นมาเกือบจะถึงเพือนอยู่แล้ว มีอะไรเหมือนมือมาดึงขาและร้องให้เพื่อนช่วย เพื่อนก็ดึงเพื่อนจนขึ้นมาได้ แล้วเมื่อถึงฝั่งก็ดูขา ปรากฏมีรอยแผลยาว มีเลือดไหลออกมา
6. พี่ชายเป็นคนชอบตกปลาตอนดึก ๆ ประมาณเที่ยงคืน ก็มีเสียงผู้หญิงร้องโหนหวน
7. พี่ชายเห็นเด็กผู้หญิงดมกาวอยู่บริเวณข้างบ่อก็โดดลงบ่อลงไปตาย

ความอาถรรพ์ของบ่อนั้น ทุก ๆ เดือนเมษายนจะมีคนตายอยู่ทุกปี ไม่น้อยกว่า 4 - 6 ราย หรือไม่ก็มากกว่านั้น

* มีชาวบ้านเล่าว่ามีการปรากฎของผีหัวโต หัวโตเท่าการะมังบ้าง มีชาวบ้านเคยเห็นอยู่บ่อย ๆ (แต่ผมก็ไม่เคยเห็น อยากเห็นเหมือนกัน)
* แต่ตอนนี้ บ่อได้ถูกล้อมรั้วไว้หมด รู้สึกว่าจะเป็นของศูนย์วิจัยฯ
* แต่มีช่องเดินเข้าไปได้อยู่ดี และก็มีคนตาย ! อยู่แบบเดิม ๆ อยู่อีก แต่น้อยลง

คุณเชื่อหรือไม่ ? แต่ผมเชื่อ

จาก คุณชลานันท์
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:57:22 »

ประเภทของผี

1. ผีสิง ( Haunting Ghosts )
           ผีชนิดนี้ มีนิสัยชอบโชว์ตัววันละหลาย ๆ รอบ อย่างน้อย ๆ ก็ 3 เวลาหลังอาหาร และก่อนนอน แต่ชอบปรากฏตัว ในสถานที่เดียวซ้ำ ๆ ซาก ๆ เช่น บ้านร้าง ดูเผิน ๆ แล้วก็คล้าย ๆ กับว่า เป็นเจ้าของตึก ที่เดินไปเดินมาธรรมดาในบ้าน แต่คนเราดันผ่านเข้าไปเห็นเอง ผีชนิดนี้ เป็นผีชนิดที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาหลอก มาหลอนใคร ๆ ซะหน่อย

2. ผีคนเป็น ( Ghosts of the Living )
           ผีรายนี้มาแปลก เพราะตามบันทึก ของคนหลาย ๆ รายแล้ว ผู้ประสบเหตุมักยืนยันว่า เห็นคนที่ตัวรู้จัก ซึ่งขณะนั้น เจ้าตัวอยู่ห่างออกไป หลายพันไมล์ มาปรากฏให้เห็น ส่วนมากผู้ที่มาปรากฏนี้ มักเป็นคนเจ็บใกล้ตาย หรือผู้ที่กำลัง ประสบปัญหาวิกฤตอยู่ เลยมาปรากฏตัว เพื่อขอความช่วยเหลือ อาจจะถือได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ทางจิตอย่างหนึ่ง ผีคนเป็นนี้ มันมักจะมาปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

3. ผีมีห่วง ( Purposeful Ghosts )
           มักจะเป็นผีชนิดที่มี " ความในใจ " อยากจะบอกให้เพื่อน หรือญาติรับรู้ เรียกได้ว่า เป็นผีประเภท นอนตายตาไม่หลับ ก็ว่าได้ ผีแบบนี้ มักจะออกมาปรากฏตัวแบบเป็นใบ้ ไม่พูดไม่จา ชี้โน่นชี้นี่ลูกเดียว หรือบางที อาจจะมาชี้ขุมทรัพย์ ที่ซ่อนไว้ให้ทายาทได้รับรู้ ( ผีอย่างงี้ น่าจะมาหาเราบ้างเนอะ )

4. ผีหลอก ( Poltergeists )
           เป็นผีที่เล่น ที่ชอบออกมาหลอกมาหลอนคนเป็น ๆ ให้ตกใจเล่น บางทีก็เรียกได้ว่าเป็น ผีโรคจิต เพราะชอบขว้างปา ข้าวของให้ตกใจเล่น ผีประเภทนี้ นักวิเคราะห์ผีบางราย สันนิษฐานว่า อาจไม่ใช่ผี แต่ว่าเป็น ปรากฏการณ์ทางจิตชนิดหนึ่ง ของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะจากการสังเกตแล้ว พบว่า ในเหตุการณ์ ผีอาละวาดแบบนี้ มักจะมีวันรุ่น อายุราว 12-16 ปีอยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ จึงอาจเป็นไปได้ที่ จิตของวัยรุ่น ซึ่งมีอารมณ์รุนแรงนั้น จะสร้างพลังงานพิเศษขึ้นอย่างหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกยาก ๆ ว่า Psychokinesis ( PK ) ซึ่งสามารถเคลื่อนที่วัตถุได้

หลังจากที่ได้ทำการรู้จักผีแต่ละประเภทไปแล้ว เห็นมั๊ยล่ะว่า ผีแต่ละตัวนั้น ก็มีจุดประสงค์ ในการแสดงตัว ที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่า ทำยังไงดีล่ะ ผีแต่ละตัว ถึงจะออกมา วาดลวดไม้ลายมือ ให้คนได้ดูกันว่า ฉันก็เป็นผีกะเขาเหมือนกันนะ อยากรู้ต่อแล้วใช่มั๊ยล่ะ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 14:58:54 »

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ตอนที่.1ท้องทะเลมรณะ
เรือเดินทะเลที่หายสาบสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้น ส่วนมากจะเกิดขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า "ทะเล
ซากัสโซ" และสาเหตุที่ท้องมหาสมุทรแห่งนี้มีนามว่าทะเลซากัสโซ ก็เพราะอาณาเขตบริเวณแห่งนี้อุดม
สมบูรณ์ไปด้วย สาหร่ายทะเลชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าสาหร่ายซากัสซั่ม สาหร่ายชนิดนี้เป็นอุปสรรคต่อการ
เดินเรืออย่างยิ่ง และ เหตุการณ์ประหลาดลึกลับทางทะเลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่โบราณกาล มักจะมีต้น
ตอมาจาก ทะเลซากัสโซเสียเป็นส่วนมาก ชาวฟีนีเชียนโบราณซึ่งเคยใช้เรือเดินทางผ่านท้องทะเลมหาภัย
แห่งนี้มา ตั้งแต่หลายพันปีก่อน ได้บันทึกปรากฏการณ์ประหลาดต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ท้องทะลซา
กัสโซ่ มีอาณาเขตบริเวณกว้างใหญ่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอ๊ตแลนติค บริเวณแห่ง
นี้จะเต็มไปด้วย สาหร่ายทะเลลอยฟ่องเต็มไปหมด เมื่อตอนที่โคลัมบัสแล่นเรือผ่านท้องทะเลแห่งนี้เป็น
ครั้งแรก กลาสีเรือต่างตื่นเต้นที่คิดว่าเรือคงแล่นเข้าใกล้ฝั่งแห่งใดแห่งหนึ่งเข้าไปแล้ว แต่แม้จะแล่นเรือ
ต่อไปอีกนาน อาณาเขตของ สาหร่ายแห่งนี้ก็หาหมดลงไปไม่ อีกอย่างหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ประจำของทะ
เลซากัสโซ คือ ภูเขาทะเล ภูเขาทะเลคือภูเขาที่อยู่ใต้พื้นน้ำ แต่มีส่วนยอดแบนราบโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำ
เล็กน้อย มองดูคล้ายเกาะ แต่ไม่มีพืชพันธ ์ใด ๆ นอกจากตระใคร่น้ำเกาะอยู่เท่านั้นทะเลซากัสโซไม่เพียง
แต่เป็นท้องทะเลที่เต็มไปด้วยสาหร่ายยากแก่การเดินเรือ เท่านั้น แต่กิตติศัพย์ในความน่าสะพรึงกลัวของ
มันได้ถูกกล่าวขานกันอยู่เสมอ บ้างก็ให้เชื่อว่าเป็นทะเลแห่งความหายนะ หรือสุสานของเรือเดินสมุทรบ้าง
ก็ว่าเป็นที่สิงสถิตของภูติผีปีศาจทะเล หรือสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ เรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกชาวเรือชอบนำมาเล่า
สู่กันฟังเกี่ยวกับท้องทะเลจำนวนนับไม่ถ้วน ถูกยึดนิ่งสงบรวมอยู่ในใจกลางของทะเลซากัสโซ่ ตั้งแต่สมัย
การการเดินทางโดยทะเลของพวกฟินีเชียน ไวกิ้ง โรมัน หรือแม้แต่เรือต่าง ๆ ในสมัยกลางของยุโรป พวก
เหล่านี้เชื่อว่าเรือเหล่านี้ลอยกองรวมกันพร้อมด้วยสมบัติมหาศาลที่บรรทุกอยู่เหตุที่ไม่จมเพราะมีสาหร่าย
จำนวนหนาแน่นรองรับอยู่ข้างใต้ มนุษย์ผู้พบท้องทะเลแห่งนี้เป็นพวกแรกเข้าใจว่าจะต้องเป็นพวกฟินี
เชียนและพวกคาร์ธายิเนียนโบราณ เพราะเป็นเวลา หลายพันปีแล้วที่พวกนี้เดินทางข้ามมหาสมุทรแอ๊ต
แลนติคสู่อเมริกาหลักฐานที่ปรากฏคือรอยแกะสลักบนแผ่นหินของ พวกฟินีเชียน ที่พบอยู่ในประเทศบรา
ซิลขณะนี้ และศิลาจารึกในสุสานฝังศพของ พวกคาร์ธายิเนียน เมื่อราว 500 ปี ก่อนคริศศักราชระบุว่า
                                   

เรือกูดนิว ซึ่งเป็นเรือลากจูงเครื่องดีเซล ซึ่งได้ทำสงครามชักคะเยอ กับพลังลึกลับในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และสามารถรอดพ้นอันตราย มาได้
เหนือท้องทะเลแห่งนี้มีแต่ความอ้างว้างเงียบเหงา คล้ายกับสุสานใหญ่ที่มองจรดขอบฟ้าไปทุกด้าน ไม่มี
แรงลม พอที่จะพัดพาเรือให้แล่นไปได้ ใต้พื้นน้ำเต็มไปด้วยสาหร่ายทะเลอย่างหนาทึบ ซึ่งยึดเรือ ทั้งหลาย
ให้หยุดนิ่งอย่างกับกำลังมหาศาลของหนวดปลาหมึกยักษ์
ท้องทะเลบางแห่งตื้นเขินซึ่งเป็นที่อาศัยของสัตว์ประหลาดมหึมาหลายสิบชนิด และบางครั้งมันก็ว่ายน้ำเข้า
มาทำลายเรือทั้งลำให้กลายเป็นผุยผงไปในพริบตา
 [:::ขอบคุณ loxinfo สำหรับข้อมูลภาพ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา:::]
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #55 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:02:51 »

เอามาแจกให้อ่านกัน เด๋วจะหาว่า กระทู้ผี ไม่มีอะไรแจ่มๆ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:03:10 »

อ่านใจจากภาพถ่าย
เอามือกอดอก
คนที่ถ่ายรูป แล้วชอบเอามือกอดอก มักจะเป็นคนชอบเสี่ยง ชอบความท้าทาย และใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่ถ้ามีความรักและจะระมัดระวังตัวมาก จะพยายามทะนุถนอมความรักที่มี เป็นอย่างดี จึงทำให้สัมพันธภาพนั้นยืนยาว และมีความมั่นคง

นั่งไขว่ห้าง

คนคนนี้จะรักศักดิ์ศรีมากทีเดียว มีความซื่อสัตย์ และเป็นคนที่ค่อนข้างลึกลับ เอาใจใส่ และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา คุณจะมองหาคำแนะนำดี ๆ ได้จากคนแบบนี้

ทำหน้าทะเล้นเด๋อด๋า
คนที่ชอบแอ็คท่าขี้เล่น เวลาถ่ายรูปเป็นคนที่ ค่อนข้างอ่อนไหว ขี้อาย แต่ขณะเดียวกันก็มีอารมณ์ขัน ชอบทำให้ผู้อื่นหัวเราะอยู่เสมอ จะไม่ชอบอยู่ท่ามกลาง คนแปลกหน้ามาก ๆ ถ้าให้เลือกได้ จะเลือกสนทนาปาร์ตี้อย่างอบอุ่น กับเพื่อนสนิทไม่กี่คนมากกว่า

วางมือไว้ที่หลังศรีษะ
ท่าแอ็คชั่นท่าพิเศษนี้ เป็นของคนที่ชอบสนุกสนาน ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ไม่ชอบพิธีการ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ชอบทำอะไรประหลาด ๆ ให้คนอื่นแปลกใจอยู่เสมอ เมื่อเวลามีทุกข์ หรือมีเรื่องไม่สบายใจ ก็จะขอคำแนะนำจากเพื่อน ยิ่งเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้ว จะปฎิบัติตามคำแนะนำนั้น อย่างเชื่ออกเชื่อใจทีเดียว

ชอบหันใบหน้าด้านข้าง เข้าหากล้อง
คนที่ชอบถ่ายรูป โดยเอาใบหน้าด้านข้างเข้าหากล้องนั้น เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง หนักแน่น ไม่หวั่นที่จะแก้ปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้น จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคตลอดเวลา เก็บรักษาของเป็นอย่างดี และไม่ยอมเสียผลประโยชน์ ใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย

ยิ้มเห็นฟันนิดหน่อย
ถ้าชอบถ่ายรูปในลักษณะนี้ คือจะยิ้มกว้างอย่างเต็มที่ แต่จะโชว์ให้เห็นฟันเพียงเล็กน้อย แสดงว่าเป็นคนชอบเข้าสมาคม สังสรรค์กับผู้อื่น เข้ากับคนได้ง่าย เฉลียงฉลาดเฉียบแหลม และมักจะมีไอเดียดี ๆ ให้ผู้อื่นเสมอ

ถ่ายรูปทีไร เป็นได้ยิ้มกว้างทุกที
คนที่ถ่ายรูปแล้วชอบยิ้มโชว์ฟัน ทำท่าเริงร่าสุดขีดนั้น ที่จริงแล้ว เป็นคนที่ชอบเก็บงำความรู้สึก เมื่อมีปัญหาอะไร ก็ไม่อยากให้ใครมารับรู้ ช่วยแก้ปัญหาด้วย เรียกได้ว่าไม่อยากให้ผู้อื่นไม่สบายใจ ในเรื่องของตนเอง จะพยายามแก้ไขปัญหา อย่างสุดความสามารถด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแย่สักแค่ไหนก็ตาม แต่ในทางกลับกัน ถ้าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ ก็จะรีบเข้าไปช่วยทันที

เอามือจับที่คาง
ท่าแอ็คชั่นถ่ายรูปท่านี้ เป็นของคนที่มีอารมณ์ศิลปิน อ่อนไหว เมื่อชอบอะไรก็ตามจะทุ่มจนสุดตัว เมื่อรักใครก็รักสุดชีวิต และเมื่อเกลียดจะเกลียดแทบขาดใจ ถ้ามีเงินทองอยู่ในมือ ก็จะใช้จ่ายอย่างไม่เสียดาย ไม่มีการวางแผนไว้เผื่อวันข้างหน้า แต่ใช้ชีวิตวันนี้ให้คุ้มที่สุด
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #57 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:04:00 »

ผีเกิดขึ้นสมัยไหน
โรคกลัวผี มีประวัติมายาวนาน ควบคู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเลยทีเดียว
     เริ่มจากในยุคหิน จากการขุดพบโครงกระดูกยุคหิน พบว่า พิธีกรรมฝังศพในยุคนั้น มีการผูกมัดมือ และเท้าของศพ เสร็จแล้วเอาหินทับซ้ำอีกครั้ง เรียกว่ากลัวศพจะลุกกลับขึ้นมาเดินโท่งๆ ใหม่
     บันทึกแรกเกี่ยวกับผีนี้ จารึกอยู่บนแผ่นดินเหนียว ในชื่อเรื่องมหากาพย์กิลกาเมซ ตั้งแต่ใมัยบาบิโลน 2,000 ปี ก่อน ค.ศ. โน่นแน่ะ ในเรื่องเล่าถึงผีของเพื่อนอัศวินกิลกาเมซ ซึ่งมาปรากฏตัวในสภาพโปร่งแสง
     ถัดมาในสมัยอียิปต์โบราณ มีการบันทึกถึงผีที่มีหัวเป็นนก ชื่อว่า "คู" (Khu) เขาว่าผีตัวนี้ จะนำโรคภัยมาแพร่ระบาด ในคนและสัตว์
     สมัยโรมัน ก็ไม่น้อยหน้า อุดมไปด้วยเรื่องปิศาจ อย่างเช่นเรื่องเล่าว่า นายพลบรูตุส สมคบกับสมุน ฆ่าจูเลียสซีซ่าร์ตาย ต่อมาผีของจูเลียส ซีซาร์ ก็มาปรากฏตัวในร่างผีโปร่งแสง สาปแช่งทำให้บรูตุสแพ้สงคราม และฆ่าตัวตายในที่สุด
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:06:52 »

ผีเปรต
                                                               
ผีเปรตในตำนานผีไทยกล่าวไว้ว่า มีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ๆ ใครอยากจะทราบราย ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถาอันเป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรียญ ณ วัดพระเชตุพนฯ และห าอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้
 
หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งใ นป่าหิมพานต์ ชื่อว่าวิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล

นอกจากเปรต 12 ตระกูลนี้ ยังมีเปรตอีก 19 จำพวก ได้แก่
1. สุจิโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นเข็ม
2. ขุรโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นกรด
3. เอกปาทา คือ เปรตผู้มีเท้าข้างเดียว
4. อเนกปาทา คือ เปรตผู้เท้ามาก
5. เอกหตถา คือเปรตผู้มีมือข้างเดียว
6. อเนกหตถา คือ เปรตผู้มีมือมาก
7. เอกเจตตา คือ เปรตผู้มีจักษุข้างเดียว
8. อเนกเนตตา คือ เปรตผู้มีจักษุมาก
9. ได้แก่ เปรตจำพวกที่กินมลทินครรภ์เป็นอาหาร
10. ได้แก่ เปรตจำพวกขนหยักเยื่อทูลศีรษะไว้เป็นนิตย์
11. ได้แก่ เปรตจำพวกกายยาว 25 เส้น นอนกลิ้งอยู่ดุจแผ่นศิลา
12. ได้แก่ เปรตจำพวกตัวจมอยู่บนภูเขาเพียง สะเอว ไฟไหม้อยู่
13. ได้แก่ เปรตพวกไถนาอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
14. ได้แก่ เปรตจำพวกมีกายสูง มีกลิ่นตัวเหม็นยิ่งนัก
15. ได้แก่ เปรตจำพวกมีพืชเป็นเหล็กเป็นเปลวเพลิงรัดศีรษะอยู่
16. ได้แก่ เปรตจำพวกมีร่างกายผอม และเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา
17. ได้แก่ เปรตจำพวกรูปชั่วตัวผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศีรษะกลั้วไปด้วยฝุ่น
18. ได้แก่เปรตจำพวกดำดุจตอไฟไหม้ และ
19. ได้แก่ เปรตจำพวกสูงเท่าลำตาล มีแต่หนังหุ้มกระดูก

เปรตไม่สมประกอบ 4 ชนิด
1. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ร่างกายซูบผอมอดโซ
2. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิการ เช่น กายเป็นอย่างร่างของมนุษย์ แต่ศีรษะ เป็นอย่างสัตว์ดิรัจฉาน เช่น ตัวเป็นคนหัวเป็นนกกาบ้าง...เป็นสุกรบ้าง...เป็นสุนัขบ้าง
3. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิกล เสวยกรรมกรณ์ (รับกรรม รับอาญา) อยู่ตา มลำพังด้วยอำนาจบาปกรรมที่ได้กระทำเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์
4. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างอย่างมนุษย์ปกติ แม้เป็นผู้เสวยก็มีวิมานอยู่ แต่ใน ราตรีต้องออกจากวิมานไปเสวยกรรมจนกว่าจะรุ่งเช้า เรียกว่าวิมานนิกเปรต

เปรตเป็นผีจำพวกหนึ่ง ซึ่งเคยทำบาปสร้างกรรมเอาไว้สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ครั้น ตายลงแล้วก็ต้องมารับผลกรรมตามที่ได้สร้างไว้ทำให้ต้องมีความเป็นอยู่อย่างอดอยาก ผอมโซ ชอบส่งเสียงร้องหรือปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นเพื่อขอส่วนบุญให้ช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้างเพราะอดอยากหิวโหยซะเหลือเกิน

โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอ ดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเดียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ....สูงยังกับเปรต   แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโ หยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติข องคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตัญญู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่างที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้ านก็จะพากันด่าประณามว่า...ไอ้เปรต คนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดหมู เชือดวัว อยู่เป็นอาจิณ เวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นค นหัวเป็นไก่ หรือหัวเป็นหมู ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง ฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก ใครอยากเห็นก็ลองดูรูปปั้นเปรตชนิดต่างๆ ได้ที่วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี

เปรตมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไปตามประเภทและเผ่าพันธ์รวมทั้งคติความเชื่อที่บอกต่อหรือสืบทอดกันมา บางตำราว่าอาศัยอยู่ตามวัดคอยปรากฏตัวหลอกหลอ นหรือแสดงร่างให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญ บ้างว่าอยู่ตามท้องทุ่งตามทางเปลี่ยวใครไปเที่ยวดึกๆ กลับบ้านคนเดียวเดินผ่านศาลาวัด หรือตามทางแยก อาจเจอเปรตเดิ นตามหลังมาส่งถึงบ้าน  หรือเดินเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ซึ่งหากเจอเปรตก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไร วิ่งลูกเดียว หรือหากว่ามีเปรตและผีชนิดใดก็ตามขวางหน้าเรา อยู่  โบราณว่าอย่าวิ่งหันหลังกลับ เพราะจะโดนมันดักหน้า ให้วิ่งไปข้างหน้าหรือวิ่งฝ่าไปเลย แต่ถ้าจะให้ดีกลางค่ำกลางคืน นอนอยู่บ้านสบายที่สุด...ว่ามั๊ย...

เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุญจากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่ง อนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผีญาติๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน ใครจะศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดถวาย ซาวด์อเบาท์ หรือโทรทัศน์ วีดีโอ ซีดี. ก็ ตามถนัดไม่ผิดกติกาอันใด หากไม่มีญาติหรือ ลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหย ร้องโหยหวล เสียงร้องของเปรตไม่มีใครยืนยันได้ว่ าไพเราะเพราะพริ้งขนาดไหน นอกจากในบางตำรา บอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนล่ะอย่างกับที่พวก วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต ว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ดๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่า รูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก แบบนี้พวกเปรตที่มีหัวเป็นไก่ก็อาจจะร้องเสียง เอก-อี้-เอ้ก-เอ้ก ก็ได้ล่ะมั้ง ถ้าใครทำบุญหากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกน ามพวกผีไม่มีญาติ หรือบรรดาผีๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร

หลังจากที่ถูกพระพันวษาสั่งประหารชีวิต นางวันทองได้กลายเป็นผีเปรตที่ไม่มีหั วหรือเปรตหัวขาด วันหนึ่งนางทราบข่าวว่าพระไวยวรนาถลูกชาย กำลังจะไปรบกับผู้เป็นพ่อคือขุนแผน เปรตนางวันทองกลัวพ่อกับลูกจะต้องฆ่ากันเอง พลอยเป็นบาปกรรมติดตัวกันไปเปล่าๆ ก็เลยออกมาห้ามทัพ โดยแปลงกายเป็นสาวงาม นั่งเล่นอยู่บนชิงช้า เพราะรู้ว่าพระไวยฯ นั้นชีกอเหมือนพ่อนั่นแหละพระไวยฯ ไม่ทราบความนัย จีบสาวงามที่ได้พบ แม้เธอจะบอกว่าเป็นแม่ หรือนางวันทอง พระไวยฯ ก็ไม่ยอมเชื่อจนนางต้องแปลงเพศกลับเป็นเปรตอย่างเดิมเพื่อให้เห็นแจ้งประจักษ์ ว่ากันว่า เปรตนอกจากจะมีรูปร่างผอมโซจนเห็นโครงกระดูกทุก ซี่และมีความสูงชนิดผีฝรั่งอายแล้ว มันยังสามารถ แลบลิ้นได้ยาวเท่ากบความสูงของตัวเองอีกด้วย อะไรจะเว่อร์ปานนั้น

เปรตน่าจะเหมือนผีธรรมดาสามัญทั่วไปคือ กลัวพระ กลัวเครื่องรางของขลัง ลอ งเจอเข้าเป็นเผ่นกระเจิง เพราะผีกับพระไม่ถูกกัน เหมือนงูกบเชือกกล้วยยังไงยังงั้น แต่สำหรับ ผีเปรตมีท่านผู้รู้แนะนำว่า หากใครเจอระหว่างทางหรือเจอที่ไห นก็แล้วแต่ ให้รีบบอกว่า...ไปที่ชอบๆ...หรือไปผุดไปเกิดซะเถอะ แล้วจะอุทิศส่วนกุศลไปให้  เท่านี้ผีเปรตและผีทั้งหลาย ก็จะเลิกตอแย หายตัวแว๊บ..ไปเลย แ ล้วก็อย่าลืมทำตามสัญญา เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเจออีกเป็นรอบที่สอง เพราะคุณผีเขามาทวงส่วนกุศลนั่นแหละ

ผีเปรต หรือชาวอีสานเรียกว่า ผีเผด เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เอ๊ย..ไม่ใช่ เกิดหรื อถือกำเนิดขึ้นตามผลกรรมที่เคยได้กระทำเอาไว้ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตำราโบราณกล่าวว่า เวลาที่เปรตตัวเดิมจะพ้นจากกรรมได้ไปผุดไปเกิด จะมีเปรตตัวใหม่ มารับตำแหน่งแทนดังมีเค้ามาจากนิทานพระมาลัยเรื่องหนึ่ง ดังนี้

ยังมีมานพหนึ่งคนหนึ่งชื่อว่า มิตตวินทุ อยากจะไปเที่ยวทะเลกับพ่อค้าสำเภาจึงเ คี่ยวเข็ญเอาเงินทองจากมารดาซึ่งเป็นแม่ม่ายใจบุญ ด้วยความเป็นห่วงลูกชายมารดาก็ขัดขวาง มิตตวินทุปกติเป็นคนเกกมะเหรกเกเรอยู่แล้ว จึงโกรธจนลืมตัวถี บแม่จนล้มแล้วหนีไปเที่ยวทะเลจนได้ แต่ผลกรรมตามทันทำให้เรือแตก มิตตวินทุว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของพวกเปรต แต่ชายหนุ่มกลับม องเห็นกงจักรที่หมุนคว้างผ่าศีรษะของพวกเปรตเหล่านั้นเป็นดอกบัวซึ่งประดิษฐ์เป็นมาลาสวมใส่ไว้อย่างสวยงาม..เห็นเลือดที่ไหลย้อยมาตามตัวเป็นสังวาลสาย สร้อย เห็นพวกเปรตที่กำลังร้องครวญครางยกมือยกไม้ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดเป็นการร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข  มิตตวินทุจึงเอ่ยปากขอพวกเปรตรู้ ว่ามีผู้มารับกรรมหรือรับช่วงต่อ แสดงว่าพวกตนได้พ้นจากกรรมที่เคยกระทำเอาไว้แล้วก็ดีใจ รีบยกให้อย่างไม่ลังเล จึงเป็นที่มาของคำพังเพยไทยที่ว่า   "เห็นก งจักรเป็นดอกบัว เห็นสองโพดำเป็นสเปโต..." อะไรทำนองนี้แหละ

ในพจนานุกรมฉบับต่างๆ กล่าวถึงเปรตพอรวมความได้ว่าเป็นสัตว์พวกหนึ่ง เกิ ดในอบายภูมิ แปลว่า  แดนแห่งความทุกข์เป็นผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด รูปร่างสูงโย่งยังกับลำตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซเพราะอดอยาก ปากเท่ารูเข็ม..... สงสัยจะหมายถึงเข็มเย็บผ้ามากกว่าเข็มเย็บกระสอบ มีมือโตเท่าใบตาล กินเลือดและหนองเป็นอาหาร ร้องเสียงดังกรี๊ดๆ ไม่ใช่กรี๊ดกร๊าด        ส่วนในหนังสือไ ตรภูมิพระร่วง พรรณนาเกี่ยวกับเปรตเอาไว้ว่า บางจำพวกอยู่ในมหาสมุทร  บนยอดเขา ตามไหล่เขา แต่บางจำพวกก็อยู่ในปราสาท มีช้างม้าเป็นข้าทาส บางจ ำพวกเวลาข้างแรม เป็นเปรต เวลาข้างขึ้นเป็นเทวดา ฯลฯ อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ได้กระทำเอาไว้

ทางภาคใต้ มีผีอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า 'ผีหลังกลวง" เป็นผีที่มีรูปร่างลักษณะอย่างค น  แต่ข้างหลังเป็นรูกลวงสามารถมองเห็นเครื่องในประเภทตับไตใส้พุงได้หมด มีหนอนยั๊วเยี๊ย เวลาใครก่อไฟผิงอยู่กลางแจ้ง  ผีหลังกลวงจะทำทีเข้ามาขออาศัย ด้วย แล้วหลอกหลอนโดยการแสดงให้เห็นอวัยวะภายในจากหลังที่กลวง บางทีมันแกล้งวานเด็กๆ เกาหลังให้ แล้วหลอกให้เห็นอวัยวะภายในหรือหลังที่กลวงซึ่งมีกิ๊งกือเต็มไปหมดผีพวกนี้ไม่ทำร้ายใคร แต่จะหลอกหลอนให้ตกใจกลัว

บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:08:52 »

วิธีเข้าฝัน

ให้แต่งชุดขาวทั้งตัวรวมทั้งกางเกงในด้วยนำธูป 1 ดอกมาจุดไว้บนหัวนอน ปากคาบใบพลู 9 ใบแล้วเอามือไว้ข้างหลังโดยที่จับมือประสานกัน แล้วท่องชื่อคนที่จะไปเข้าฝันคนนั้น 99 ครั้งรับรองวิธีนี้ได้ผล 90% เลยทีเดียว เพราะมีคนลองใช้มาแล้วหลายต่อหลายคน คิดดูแล้วกันถ้าคุณเข้าไปฝันคนอื่นได้แล้ว โดยที่คุณสามารถบอกหรือพูดคุยกับเข้าได้แบบมีสติคุณคิดว่ามันจะสนุกไหม
ข้อห้าม
1.ทำตอนเที่ยงคืนลงไป
2.ทำได้แค่คืนวันศุกร์
3.เวลาจะกลับให้นึกถึงแต่ตัวเราแล้าหลับตา
4.จงจำไว้ว่าเวลากลับพยายามนึกถึงแต่ตัวเราเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากกลับมาไม่ทันก่อนเช้า จะมีอันตรายต่อชีวิตสูงทีเดียว
5.หากในฝันมีคนชวนไปยังที่ที่คุณไม่เคยไป ห้ามไปโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะนรกหรือสวรรค์
6.อาทิตย์หนึ่งควรทำไม่เกิน 2 ครั่ง
7.หากทำเกิน 2 ครั้งครั้งต่อไปอายุคุณจะลดลง 99 วัน

จงจำไว้ว่าคิดให้ดีเสียก่อนก่อนที่จะทำทั้งหมดที่พูดมานี้เป็นการนำออกมาจาก คัมภีร์เขมรเล่มหนึ่งที่มีอายุสมัยอยุทยาเราโดยได้มีการแปลออกมาได้เมือไม่นานมานี้.
ของดีมักจะมีผลเสียเสมอจำเอาไว้

ปล.ปูมยังไม่เคยลองนะ แต่เพื่อนผมมันลองและมันบอกใช้ได้จริงๆ (เรายังไม่กล้าเสี่ยงเรื่องพวกนี้)
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
หน้า:  «  1 2 [3] 4 5 ... 15  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!