AE. Racing Club
07 ตุลาคม 2024 00:26:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 3 [4] 5 6 ... 15  »  [5»] [10»]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: !!==CHONBURI HORROR ZONE==!!  (อ่าน 66877 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:09:29 »

ตำนานกุมารทอง
กุมารทองเป็นผีเด็กที่ตายในท้องพร้อมกับแม่ ผู้ที่มีคาถาอาคมจะใช้คาถาอาคมแหวะเด็กออกจากท้องของศพผู้เป็นแม่ แล้วนำไปประกอบพิธีย่างในโบสถ์ หน้าพระประธานในเวลากลางดึกพร้อมกับบริกรรมคาถาไปขณะย่างนั้น เมื่อย่างจนแห้งดีจะนำมาปิดทองให้ทั่วทั้งตัว จึงเรียกว่า กุมารทอง แล้วนำมาเก็บรักษาไว้ในที่อันควร ให้อาหารกุมารทองกินทุกวันอย่างคนปกติ ตามที่เล่ากันมานั้น วิญญาณกุมารทองจะสามารถปรากฏกายให้ผู้ที่สร้างกุมารทองเห็น และสามารถทำตามคำสั่งของผู้ที่สร้างกุมารทองได้ทุกอย่าง ความสามารถนั้นไม่ใช่ความสามารถของเด็กที่ยังไม่เกิด แต่จะสามารถทำได้เหมือนเด็กที่โตแล้ว ผู้มีคาถาอาคมจึงพยายามหากุมารทองไว้ใช้

บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #61 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:10:02 »

บ้านที่ผีชอบอยู่
 
  เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบ้านบางหลังถึงมีคนเจอผีบางหลังไม่เคยเจอ  เป็นไปได้มั้ยว่าลักษณะของบ้านที่แตกต่างกันเป็นตัวกำหนด เหมือนกับคนเราบางคนชอบบรรยากาศแบบภูเขา บางคนชอบทะเล ผีเองก็เคยเป็นคนมาก่อนรสนิยมที่ว่าก็เลยติดตัวไป ทำให้ผีเลือกบ้านที่ตัวเองชอบ และนี่คือสุดยอดเคล็ดลับ ?จัดบ้านอย่างไรให้ผีชอบอยู่ หรือวิธีการสร้างบ้านผีสิง นั่นเอง?  พร้อมแล้วไปดูกันเลย

1.เลือกทำเลอาถรรพ์เช่น บ้านตรงกันข้ามโบสถ์ วิหาร วัด ศาลเจ้า โรงพยาบาล สุสาน เสา เครื่องหมายจราจร มีปล่องไฟ เป่าลมพุ่งมาหาบ้าน หรือที่เปลี่ยวๆห่างจากชุมชน  ถ้าบ้านใครอยู่ในที่ดังกล่าว เรียกได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งในการเชิญผีมาอยู่เลยทีเดียวล่ะ

2.สร้างด้วยไม้เป็นหลัก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องของความเป็นธรรมชาติ เพราะต้นไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งเหมือนกัน  และในบ้านมีเสาเอกให้ด้วยก็แหล่มเลย

3.ทำบริเวณบ้านให้รกครึ้มไปด้วยแมกไม้พฤกษานานาพันธุ์ แถมด้วยต้นไม้ต้องห้ามประเภท ตะเคียน ไทร ซ่อนกลิ่น อะไรพวกนี้ยิ่งถูกใจสุดๆ

4. ฝืนหลักฮวงจุ้ยเท่าที่สามารถทำได้ ยิ่งเยอะยิ่งชอบอยู่ ในศาสตร์ทางวิชาฮวงจุ้ยได้กล่าวถึงลักษณะของบ้านที่มักจะมีผีหรือคนในบ้านมักจะเห็นผี ดังนี้

                - ประตูหน้าบ้านมีพลังอิมมาก หมายถึงมีความมืดมาก และทิศทางของหน้าบ้านหันไปทางทิศ   ตะวันตกเฉียงใต้ ตรงช่วง 210 องศา-240 องศา หรือหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงช่วง 30 องศา-60 องศา ซึ่งทางฮวงจุ้ยจะเรียก 2 ทิศทางนี้ว่า ประตูผี

 
                    - บ้านที่มีแสงสว่างไม่พอ ภายในบ้านมีบรรยากาศมืด ๆ สลัว ๆ โดยเฉพาะทิศ ตะวันตกเฉียงใต้และทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือมีความมืดมาก ก็จะกระตุ้นให้เกิดพลังอิมมากขึ้น โอกาสเจอผีก็มีสูงตามไปด้วย

                 - บ้านที่มีรูปทรงของบ้านยาวกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้านธาตุไม้ อาทิเช่น บ้านห้องแถวมี               ทางเดินตรงกลางมืด ๆ ผีก็ชอบอยู่ด้วย

                 - การสร้างห้องพระตรงกับห้องน้ำ,  ประดับประดาด้วยของอัปมงคลต่างๆเช่น เขากระทิง นอแรด, การทำกำแพงให้เก่าสกปรกขึ้นราและทุกวิถีทางที่ทำให้บ้านโทรมที่สุด ฯลฯ

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ การจัดบ้านให้น่าอยู่(สำหรับผี) เป็น D.I.Y. ที่ใครก็ทำได้ ลองทำกันดูนะครับ อย่าลืมส่งต่อให้คนที่ท่าน(ไม่)รัก ขอให้มีความสนุกกับเพื่อนใหม่ในบ้านนะครับ........โบร๋ววววว
 
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #62 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:10:32 »

10 สุดยอดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ
อันดับที่ 10 คดีฆ่าหั่นจู๋ พนักงาน รฟม. คดีเขย่าขวัญคนกรุงรับปี 2550 เมื่อมีคนพบศพนายพิชัย ทองใบ พนักงานช่างเทคนิคของ รฟม. ในสภาพถูกฟันที่ท้ายทอย คอถูกปาดลึกเกือบขาด รวมทั้งอวัยวะเพศของผู้ตายถูกคนร้ายใช้มีดตัดเกือบขาดเช่นกัน อีกทั้งยังใช้เลือดเขียนเป็นรูปหัวใจไว้ที่กลางหน้าอกของผู้ตาย สร้างความสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง จนในที่สุดนายกฤษฎาพร บรรพชาติ หรือนายเก่งรฟม.ผู้ที่ลงมือฆ่าก็ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เนื่องจากทนแรงกดดันไม่ไหว โดยนายเก่งสารภาพถึงมูลเหตุจูงใจมาจากเรื่องชู้สาว

อันดับที่ 9 คดีฆาตกรต่อเนื่อง คดีที่ 2 ของประเทศไทย หลังจากคดีซีอุยเมื่อ 40 กว่าปีก่อน โดยนายสมคิด พุ่มพวง ก่อเหตุฆ่าหมอนวดถึง 5 ศพ ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน โดยคดีต่างๆ นายสมคิดจะทำการติดต่อเหยื่อมาร่วมหลับนอนด้วย เมื่อมีการร่วมประเวณีแล้วก็จะฆ่าเหยื่อถึงแก่ความตาย

อันดับที่ 8 คดีแม่ฆ่าลูกบูชาพระอินทร์ ด.ญ.ประภัสสร เจียมเจริญ อายุ 12 ปี ถูกคนในครอบครัวคือนางกาญจนา เจียมเจริญ ผู้เป็นแม่ ซึ่งอ้างว่าเป็นร่างทรงพระอินทร์ นางอนงค์ เจียมเจริญ มีศักดิ์เป็นป้า อ้างเป็นร่างทรงพระอาทิตย์ นางจรินทร์ เจียมเจริญ น้าสาว และนางบัว เจียมเจริญ ผู้เป็นยายร่วมกันฆ่า โดยใช้มีดปาดคอตายอย่างสยดสยองภายในบ้าน โดยนางกาญจนาอ้างว่าสาเหตุที่ฆ่าลูกสาวเพื่อต้องการปลดปล่อยวิญญาณไปให้พระอินทร์ จากนั้นตำรวจได้ส่งตัวทั้งหมดไปที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เนื่องจากพบว่าทั้งหมดมีอาการทางประสาท

อันดับที่ 7 คดีห้างทอง ธรรมวัฒนะ ปริศนาการตายของ ห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส.พรรคประชาไทย ยังคงคาใจทุกฝ่ายอยู่ในขณะนี้ว่าเป็นการฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย หลังจากมีผู้พบศพนายห้างทองเสียชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรู สภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้ คอแหงนไปด้านหลังมีบาดแผลลูกกระสุนเจาะทะลวงที่ศรีษระ 1 นัด โดยเสียชีวิตภายในห้องนอนของนายนพดล ธรรมวัฒนะ ผู้ที่เป็นน้องชายนั่นเอง มีการผ่าพิสูจน์ศพหาสาเหตุการตายอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถสรุปผลที่แท้จริงได้ จนกว่าจะมีคำสั่งของศาลเป็นที่สิ้นสุด

อันดับที่ 6 คดีหมอผัสพร แพทย์หญิงโรงพยาบาลรถไฟที่หายตัวไปนานร่วมเดือน นำไปสู่การสืบสวนสอบสวน น.พ.วิสุทธ์ บุญเกษมสันติ ผู้เป็นสามีซึ่งให้การปฎิเสธมาโดยตลอด จนเมื่อทีมสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นอาคารวิทยนิเวศน์พบคราบเลือดและเส้นผมและหลักฐานสำคัญ ที่เป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ในบ่อพักน้ำเสียของอาคาร ซึ่งตรงกับ DNA ของหมอผัสพร สอดคล้องกับพยานที่เห็น น.พ.วิสุทธิ์ อยู่กับหมอผัสพรเป็นคนสุดท้าย รวมถึงเรื่องการฟ้องหย่าที่มีปัญหาขัดแย้งกันมานานจนนำไปสู่มูลเหตุจูงใจฆ่า

อันดับที่ 5 คดีเสริม สาครราษฎ์ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรีแฟนสาว โดยนายเสริมให้การว่าใช้ปืนสังหารที่ขมับ น.ส.เจนจิรา เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เรื่องมีชายอื่นมาพัวพันหลังจากนั้นได้ใช้มีดผ่าตัดเฉือนศพเป็นชิ้นๆ ทิ้งลงชักโครก จนมีผู้พบชิ้นเนื้อมนุษย์จนนำไปสู่การพิสูจน์ DNA ก็พบว่าตรงกับเจนจิรา

อันดับที่ 4 คดีศยามล อีกหนึ่งคดีที่สร้างความสลดหดหู่ยิ่งนัก เมื่อมีผู้พบศพพยาบาลสาวถูกฆ่าโดยอำพรางศพว่าเป็นการขมขื่นและทิ้งศพไว้ในรถโดยมีลูกสาววัย 2 ขวบ ร้องไห้กอดศพผู้เป็นแม่อยู่ทั้งคืน ซึ่งผู้ที่บงการสั่งฆ่าก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือสามีหมอของเธอนั่นเอง

อันดับที่ 3 คดีเชอร์รี่แอน ดันแคน เด็กสาววัยรุ่นลูกครึ่งเชื้อชาติ ไทย-อเมริกัน ถูกพบเป็นศพหลังจากมีผู้พบเห็นว่าถูกล่อลวงขึ้นรถแท็กซี่ไปจากหน้าโรงเรียน ฆาตกรใช้สายรัดคอจนขาดอากาศหายใจและนำศพไปทิ้งไว้บริเวณป่าแสมบางสำราญ และนำไปสู่การจับผู้ต้องหาถึง 5 คน ซึ่งในเวลา 6 ปีต่อมา ศาลจึงมีคำสั่งว่าพวกเค้าทั้ง 6 คนไม่มีความผิด จนเป็นคดีที่กล่าวขานในเรื่องของการจับแพะมากที่สุดคดีหนึ่ง

อันดับที่ 2 คดีซีอุย ซีอุย แซ่ตั้ง เป็นชื่อของฆาตกรที่ฆ่าเด็กและนำตับมาต้มกินโดยมีเด็กอย่างน้อย 6 คนที่ถูกนายซีอุยสังหาร ซีอุยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาในเมืองไทยและขึ้นฝั่งที่ประจวบคีรีขันธ์ ชอบจับเด็กมาผ่าและควักเอาเครื่องในมากินโดยมีความเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้ทำการฆ่าเด็ก 3 รายแรกที่ประจวบคีรีขันธ์ และรายสุดท้ายจับได้หลังจากคดีฆาตกรรมที่จังหวัดระยอง ซี่งสุดท้ายโดนจับขังคุกและยิงเป้าประหารชีวิต

อันดับที่ 1 คดีนวลฉวี ย้อนหลังไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน เกิดคดีเขย่าขวัญคนกรุง เมื่อมีผู้พบศพพยาบาลสาวถูกฆ่าข่มขืนอย่างทารุณแล้วโยนศพทิ้งน้ำ บริเวณสะพานนนทบุรีซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ สะพานนวลฉวี ซึ่งผู้ที่บงการสั่งฆ่านั่นก็คือหมออุทิศผู้ที่เป็นสามีของเธอนั่นเอง สาเหตุมาจากความหวั่นวิตกของหมอว่าเธอจะเข้าไปทำลายครอบครัวของเขา เขาก็เลยสั่งให้ฆ่าทั้งๆ ที่ยังรักเธออยู่ และแม้ว่าต่อมาหมออุทิศจะสำนึกขึ้นได้และจะยกเลิกคำสั่งนั้น แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว



[จาก ภาพยนตร์ บ้านผีสิง]
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #63 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:11:34 »

คาถาภาวนาดูเนื้อคู่
คาถา
ปุพ-เพ-วะ
สัน-นิ-วา-เส-นะ
ปัจ-จุป-ปัน-นะ
หิ-เต-นะ วา
เอ-วัง-ตัง
ชา-ยะ-เต-เป-มัง
อุป-ปะ-ลัง
วะ-ยะ-โถ
ทะ-เก.
วิธีใช้
1. จุดธูปเทียน เทียน 2 เล่ม ธูป 3 ดอก ทำวันพระขึ้น 15 ค่ำ ยิ่งดี
2. ตักน้ำสะอาด 1 ขัน
3. ท่องคาถาเท่ากับจำนวน อายุ เช่น อายุ 25 ปี ก็ท่อง 25 รอบ
4. เมื่อท่องเสร็จแล้ว ให้นำน้ำในขันมาล้างหน้า แล้วเข้านอน
ท่านว่ากลางคืน จะฝันถึงคู่ครอง ถ้ามีวาสนาบารมี จะได้พบความรัก
เป็นคาถาที่เหมาะกับคนที่มีอายุมากแล้ว แล้วยังไม่มีความรัก

คาถานี้ อยู่ที่กำแพงวัด มหาธาตุอาจารย์ เมืองคำ ปภากโร

ปล.จะเชื่อหรือไม่อยู่ที่ตัวคุณ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #64 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:11:56 »

ตำนาน สมิงพราย
เรื่องเล่านี้เป็นตำนานของจังหวัดแห่งหนึ่งใน ต.เขาสมิง ปู่กับหลาน
คู่หนึ่งเดิมเป็นคนพื้นเพในละแวกนี้ เดินทางเข้าไปในป่า เพื่อตัดไม้
มาเผาถ่านขาย หนทางเต็มไปด้วยเถาวัลย์และกิ่งไม้ละโยงละย้า เดิน
ไปพลางก็ฟันกิ่งไม้ไปพลาง อากาศเริ่มเย็นขึ้น ๆ เพราะตอนนี้สองคน
ปู่หลานเข้าป่ามาลึกมากแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปจะค่อยมีคนเดินเข้ามาถึงที่นี่
"แกล้บ ๆ" เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังมาจากที่ใดสักแห่งในป่า ปู่กับหลาน
หยุดเดิน แล้วเงื่ยหูฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไร ทั้งสองก็ไม่ได้คิดอะไรเดิน
ตัดไม้ต่อไป จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปู่กับหลานก็หลงป่า เพราะมอง
ไม่เห็นทาง หาทางออกจากป่าไม่เจอ จึงพยายามหาต้นไม้ที่สูงและกว้าง
พอที่จะนอนพักเอาแรงได้ เพื่อเดินทางกลับบ้านในวันรุ่งขึ้น คืนนั้นปู่กับ
หลานนอนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ เพราะปู่รู้ดีว่าในกลางป่าอย่างนี้ต้องมีอันตราย
แน่นอน เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ อากาศเย็นขึ้นกว่าเดิม วังเวงผิดปกติ
หลานก็หลับสนิท ปู่ก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้ยินเสียงเหยียบใบไม้เหมือนเมื่อ
ตอนกลางวัน ปู่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นแล้วปลุกหลาน หลานเหลือบไปเห็นหญิงคน
หนึ่งหน้าตาคล้ายแม่ของตนเองมาก แล้วพูดว่า "แม่มาตามหนูกลับบ้าน
หรือ" "จ้ะลูก" เสียงตอบจากหญิงคนนั้น "ลงมาหาแม่เร็ว" ขณะที่เด็กคนนั้น
กำลังจะลงไปหาหญิงคนนั้น ปู่ก็คว้ามือของเด็กเอาไว้ ห้ามไม่ให้ไป แล้วพูด
ว่า "นั่นไม่ใช่แม่แกหรอก" เด็กก็ยังอยากจะไปหาแม่ จึงร้องไห้เสียงดัง หญิง
คนนั้นก็เดินไปเดินมาแล้วเรียกเด็กคนนั้นต่อไป ปู่จึงหันไปกำใบไม้ข้างๆตัว
แล้วเสกคาถากว้างไปยังหญิงที่อยู่ข้างล่าง หญิงคนนั้นร้องเสียงดังอย่างโหย
หวน แล้วพยายามปืนขึ้นไปหาปู่กับหลานสองคน แต่ปู่ก็เสกใบไม้แล้วกว้างลง
ไปอีก หญิงคนนั้นกลับกลายร่างเป็นเสือตัวเมีย ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด
แล้ววิ่งหนีหายไปในป่า... ตำนานนี้จึงเกิดมาเป็น ต.เขาสมิง ของจังหวัดแห่งหนึ่ง
ในภาคตะวันออก.
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #65 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:12:39 »

เจ้าป่าเจ้าเขา
                                         
ขึ้นชื่อว่าผีย่อมมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก ไม่ว่าจะเป็นตามบ้านเรือนทุ่งหญ้าป่าเ ขาในห้วยหนองคลองบึง สำหรับเจ้าป่าเจ้าเขานั้นถือว่าเป็นผีระดับหัวหน้าหรือผีที่เป็นใหญ่กว่าผีป่าผีดงทั้งหมด เหมือนกับผีตามป่าช้าวัดต่างๆ ก็ต้องมีผีนายป่าช้ าเป็นหัวหน้า ผีที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาก็มีเจ้าป่าเจ้าเขา (เป็นผู้ดูแลควบคุม มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พระพนัสบดี" แปลว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งป่า) ซึ่งน่าจะมีทั้งเพศ หญิงและเพศชายเหมือนมีเจ้าพ่อก็ต้องมีเจ้าแม่อะไรทำนองนี้

ประวัติความเป็นมา
ไม่มีข้อมูลอะไรให้ค้นคว้ามากนักสำหรับเจ้าป่าเจ้าเขา แต่น่าจะพอเชื่อได้ว่าบรร ดาผีป่าผีเขาทั้งปวง เมื่อรวมกันอยู่เป็นหมู่มาก ก็ย่อมต้องมีการคัดเลือกหัวหน้าหรือผู้ควบคุมความสงบเรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบ คล้ายๆกับสังคมของคน เ พราะว่าผีส่วนใหญ่นั้นแต่เดิมส่วนใหญ่ก็เคยเป็นคนมาก่อน (ใส่คำว่า "ส่วนใหญ่" ไว้กันเหนียว เผื่อว่ามีผีบางตัวบางประเภทจู่ๆ ก็เกิดเป็นผีเลย โดยไม่ผ่านกา รเคยเป็นคนมาก่อน) ดังนั้นย่อมต้องนำวิธีการปกครองของสังคมมนุษย์ไปใช้บ้างไม่มากก็น้อย

อิทธิฤทธิ์ของเจ้าป่าเจ้าเขา
เจ้าป่าเจ้าเขานั้นสามารถให้คุณให้โทษกับผู้ที่ล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตแห่งป่าได้ ฉะนั้นเวลาไปเที่ยวป่าพรานผู้นำทางหรือท่านผู้รู้ มักจะเตือนไม่ให้ทำอะไรเป็น การดูหมิ่นดูแคลนและให้ความเคารพเจ้าป่าเจ้าเขาซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าของสถานที่ เช่น หากมีความจำเป็นจะต้องตัดไม้มาใช้ทำประโยชน์ก็ต้องบอกกล่าวเล่าสิ บเอ่ยปากขอต่อเจ้าป่าเจ้าเขาซะก่อน ยิ่งถ้าเป็นการตัดต้นไม้ใหญ่ๆ ที่มีอายุยืนล่ะก็ ต้องทำพิธีใหญ่กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะต้องบอกกล่าวขออนุญาตจากเ จ้าป่าเจ้าเขาแล้ว ยังต้องบอกบรรดานางไม้หรือรุกขเทวดาให้ทราบเพื่อท่านจะได้อพยพย้ายไปหาที่สร้างวิมานใหม่ขืนไปทำอะไรส่งเดชตัดไม้ล่าสัตว์ตามอำเภ อใจอาจเจออาถรรพณ์ถึงขนาดหลงทางกลับออกมาจากป่าไม่ได้ หรือโดนภูติผีปีศาจบริวารของเจ้าป่าหลอกหลอน ทำให้เจ้าป่วยจนถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้ ตอนเข้าป่ าถ้าเกิดอยากจะ "ยิงกระต่าย " "หรือเก็บดอกไม้" ก็อย่าลืมยกมือไหว้ขอขมาลาโทษเจ้าป่าเจ้าเขาซะก่อนค่อยทำธุระส่วนตัวแล้วก็ต้องไม่ลืมมองซ้ายขวาหน้าหลังด้วย เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน

เครื่องเซ่นสังเวย
ตอนเดินป่า เมื่อเวลาหยุดพักรับประทานอาหาร จะต้องแบ่งอาหารส่วนหนึ่งใส่ใบไม้ถวายเจ้าป่าเจ้าเขาและบรรดาผีป่าผีดงทั้งหลาย เป็นการแสดงความคารวะต ามประสาผู้มาเยือนที่ดี  และช่วยให้เกิดความรู้สึกสบายใจเพราะได้กระทำถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว มิได้ละเมิดหรือดูหมิ่นดูแคลนแต่อย่างใด หากมีอ ะไรผิดพลาดพลั้งไปบ้างเจ้าป่าเจ้าเขาท่านก็คงให้อภัยสำหรับผู้ที่มีความอ่อนน้อมและรู้กาละเทศะนอกจากนี้ หากมีการล่าสัตว์ พรานอาจจะตัดเนื้อสัตว์ที่ล่าได้ส่ วนหนึ่งวางไว้ในที่อันควรเพื่อเป็นการถวายแต่เจ้าป่าเจ้าเขาพรานสมัยก่อนจะล่าสัตว์และตัดไม้เท่าที่มีความจำเป็นสำหรับเลี้ยงชีพเท่านั้น ไม่ใช่ตัด..น่ารัก..นไปหมด ทั้งป่าหรือล่าจนสัตว์สูญพันธุ์เหมือนทุกวันนี้ สงสัยเจ้าป่าในปัจจุบันไม่ค่อยจะเฮี้ยนหรือเอาจริงเอาจังเหมือนเจ้าป่าในยุคก่อน

ป่าเมืองไทยจึงเหลือแต่ตอ เจ้าป่าเจ้าเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวรรคดีคือ " ปู่เจ้าสมิงพราย" ซึ่งกวีได้บรรยายรูปร่างของท่านตอนที่มีผู้ไปหาไว้ว่า "บผอม บพีทาง บ่หนุ่ม งามนา บ่แก่ผมผิวเนื้อ ปากคิ้วตาตรูฯ" แสดงว่าเป็นคนรูปหล่อหุ่นดีขนาดเป็นพระเอกหนังได้สบาย หรือ ใครอ่านแล้วลองหลับตานึกภาพเอาเองว่าผู้ที่ ไ ม่ผอมไม่อ้วน ไม่แก่และไม่หนุ่มนั้น จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง สำหรับอิทธิฤทธ์ด้านอื่นๆนั้น ลองไปอ่านในตอน "ปู่เจ้าสมิงพราย" กันเอาเอง

บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #66 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:13:05 »

ผีกองกอย


กองกอยเป็นผีป่าชนิดหนึ่งซึ่งมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างแปลกประหลาด ผีชนิดนี้เวลาออกหากินหรือเดินทางไปไหนๆ ชอบร้อง กองกอย กองกอย  บอกเผ่าพันธุ์แ ละประเภทของผีตัวเองให้ชาวบ้าน ชาวเมือง เขารู้เสร็จ เพื่อจะได้ไม่เกิดอาการสับสนหรือคาดเดาให้เสียเวลา ว่าไอ้ตัวที่กำลังเขย่งโหยงๆ มานั้นเป็นผีชนิดใดกันแน่นับเป็นยอดผีนักประชาสัมพันธ์ตัวเองขนานเอกเลยทีเดียว

ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผีกองกอยมีความเป็นมาอย่างไร และก็ยังไม่เคยมีใครบ้าเลือดบุกเข้าป่าไปขอสัมภาษณ์หรือซักประวัติอย่างเป็นผีป่าชนิดหนึ่งชอบอาศัยอ ยู่ในป่าลึกหรือป่าดงดิบ ซึ่งป่านนี้อาจจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับป่าเมืองไทยแล้วก็ได้     ยังมีท่านผู้รู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้อีกว่ากองกอย น่าจะเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่ ง ซึ่งมีพฤติกรรมชอบดูดเลือดผู้อื่น (หมายถึงสัตว์อื่นหรือคนอื่นไม่ชอบดูดเลือดตัวเอง) กินเป็นอาหาร บ้างว่าเป็นพวกเดียวกับผีโป่งค่าง ซึ่งเจ้าผีชนิดนี้มีรูปร่างค ล้ายค่างแต่หางสั้นกว่าอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่แล้วก็ชอบดูดเลือดกินเหมือนๆ กัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ในเรื่อง ฝีโป่งค่าง)

เนื่องจากกองกอยค่อนข้างจะเป็นผีแปลกประหลาด คือ มีเท้าอยู่เท้าเดียวแถมไม่มีสะบ้าหัวเข่า เวลาจะเดินทางไปไหนก็ต้องใช้วิธีเขย่งเกงกอยไป ฉะนั้นจึงพบร อยเท้าของมันเพียงรอยเดียว..ซึ่งก็เป็นของแน่อยู่แล้ว ...ขืนพบรอยเท้าทั้งสองข้างหรือสองเท้าแสดงว่าเป็น กองกอยตัวปลอมอย่างไม่ต้องสงสัยเรียกตำรวจจับไ ด้เลยหากขนานแท้และดั่งเดิมต้องมีีเท้าเดียวโปรดสังเกตเครื่องหมายการค้าอันนี้ไว้ให้ดี เพราะยากต่อการทำเทียมและเลียนแบบ (แถมเวลาซื้อรองเท้าน่าจะได้ล ดครึ่งราคาอีกต่างหาก)เรื่องรูปร่างของผีกองกอยผ่านไปแล้วคราวนี้มาว่าถึงด้านหน้าตาบ้าง ตามตำราบอกว่า ผีกองกอยนั้นหน้าตาเหมือนผีกองกอยยังไงยังงั้นเล ย คือ หัวกลมโตล้านเลี่ยนเตียนโล่งนัยน์ตากลมใหญ่สีแดงเหมือนไฟ ปากเหมือนแตรหรือเหมือนปากแมลงวัน...ตามตำราว่าอย่างนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าแตรกับ ปากแมลงวันมันมาเกี่ยวข้องเป็นคนล่ะเรื่องเดียวกันได้ยังไง (ใครยังไม่หายข้องใจต้องลองไปจับแมลงวันมาพิจารณากันเอาเอง) ปากชนิดนี้มีไว้สำหรับดูดเลือ ดอย่างที่บอกแต่จะเอาไว้ใช้ดูดอย่างอื่นด้วยหรือไม่ก็ยากที่จะสรุปได้ ไว้เจอคุณกองกอยแล้วจะเค้นคอถามมาให้รวมหมดทั้งรูปร่างและหน้าตาแล้ว ผีกองกอยน อกจากจะไม่หล่อแล้วยังค่อนข้างตลกอีกต่างหาก แบบนี้หากใครจับได้ เอามาออกงานวัดคงได้หลายกะตังค์

ผู้สันทัดกรณีซึ่งไม่ประสงค์จะออกนามและไม่ประสงค์จะออกเงินทุกครั้งที่มีกา รเรี่ยไร หรือแจกซองกฐิน,ผ้าป่า บอกว่า...อาหารสุดโปรดของผีกองกอย ก็คือ...เลือด..ใช่แล้วเลือดสดๆ เพิ่งรีดเอ๊ย......ดูดออกจากนิ้วหัวแม่โป้งเท้าใหม่ๆ ร สชาติหอมหวานอย่าบอกใคร แถมอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ใครที่ชอบเข้าไปค้างแรมในป่าทึบ ระวังเอาไว้ให้ดี หากเผลอนอนหลับ เจ้าผีกองกอยอาจจะเ ขย่งย่องมาดูดเลือดกินจนตัวซีดถึงแก่ความตายได้ เวลาออกหากินมันจะร้อง กองกอย...กองกอย ดังโหยหวลทั่วทั้งป่าฟังแล้วให้รู้สึกวังเวงวิเวกวิโหวเหว มันจะม าแอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ บางตำราว่ามันไม่ได้ร้องกองกอย...กองกอย แต่จะร้อง  จุ๊...ดังมาแต่ไกล พอเราออกเสียงตะเพิด มันก็จะตกใจกระโจนออกจากพุ่มไม้ที่ซ่อนตัว แล้วก็เขย่งเกงกอยหนีไป

กองกอยคือผีประเภทชอบกินเลือดเป็นอาหาร แบบเดียวกับพวกแวมไพร์ (Vampire) ของฝรั่งซึ่งกล่าวกันว่ามีลักษณะเป็นค้างคาวตัวใหญ่หรืออาจจะเป็นเ ครือญาติกับท่านเค้าน์แดร็กคิวล่า ซึ่งมีเลือดเป็นอาหารจานโปรดเช่นกัน ผีชนิดนี้จะเขย่งเกงกอยมาแอบกินเลือดในเวลากลางคืนของคนที่ไปเที่ยวค้างคืนในป่าดง ดิบและนอนอย่างไม่ระมัดระวังตัว ยังไม่เคยมีข่าวว่าคุณกองกอยออกจากป่ามาอาละวาดหรือแจกลายเซ็นต์ในเมืองและไม่เคยมีรายงานว่ามันเล่นงานพรานป่ าแบบเผชิญหน้าแต่อย่างใด ปกติน่าจะเป็นผีรักสงบไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครนัก ค่อนข้างหาตัวยาก หรืออาจจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับป่าเมืองไทยนานแล้ว

คงไม่ยากเย็นอะไรนัก เพราะหากสวมรองเท้านอนเวลาไปค้างคืนในป่า เจ้าผีกองกอยก็คงไม่กล้าลักลอบ...เอ๊ย..คงไม่กล้าเข้ามานั่งบรรจงแก้เชือกรองเท้าแล้วก็ กัดนิ้วดูดเลือดกินเป็นแน่ และถ้าได้ยินเสียงร้อง กองกอย...กองกอย หรือ จุ๊...ก็ให้ตะเพิดไปอย่างที่บอก รับรองคุณกองกอยไม่พักตร์ศิลาเหมือนคน...เอ๊ยผีบาง ตัวหรอก..ซิบอกให้ สำหรับการติดตามล่าผผีกองกอย  ต้องใช้วิธีตามรอยเท้าที่มันเขย่งเกงกอยหนีไป  มีอยู่ขาเดียวแถมไม่มีลูกสะบ้าหัวเข่า คงจะตามจับตัวมาอ อกงานวัดไม่ยากนักหรอก หากไม่พลาดท่าโดนเค้าจับดูดเลือดจนตัวซีดไปเสียก่อน

โดยมากพวกผีดูดเลือดทั่วไป อย่างแวมไพร์ หรือแด็กคิวล่า หากใครโดนดูดเลือ ดก็จะกลายเป็นผีแบบเดียวกัน และต้องหาเลือดกินเป็นการถ่ายทอดเผ่าพันธุ์ต่อๆ กันไปอย่างไม่รู้จบสิ้น แต่สำหรับเจ้าผีกองกอยนี่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลว่าต้ องเป็นอย่างนั้น คือใครโดนดูดเลือดก็คงจะแค่แห้งตายไปนะแหละ ไม่มีการกลายเป็นผีกองกอยตัวใหม่ออกอาละวาดแต่อย่างใด

หลังจากที่ สิงหไกรภพ ได้อภิเศกสมรสกับ เจ้าหญิงสร้อยสุดาจนมีพระโอรสองค์ หนึ่งนามว่า เจ้าชายรามวงศ์ ต่อมาพระรามวงศ์ไปได้ เจ้าหญิงเทพกินรี ธิดา ท้าวเทพาอสูรจอมยักษ์เป็นชายาวันหนึ่งรามวงศ์ได้พาชายวาหนียักษ์พ่อตาไปหาสิ งหไกรภพผู้เป็นบิดาของตนที่เมืองโกญจา แต่ระหว่างทางได้แวะพักในป่าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของปีศาจสาวผู้มีนามว่า อองออย ผีสาวซึ่งมีลำตัวเป็นผู้หญิงหัวเป็ นจระเข้เมื่อได้พบพระรามวงศ์นางปีศาจอองออยก็เกิดมีจิตคิดรักใคร่จึงแปลงร่างเป็นสาวโสภาโกหกว่าตัวเองคือ เจ้าหญิงศรีฟ้า ราชธิดาแห่งเมืองกุเวรพลัดกับพ วกทหารหลงทางอยู่ในป่าและรู้ทางไปเมืองโกญจาพระรามวงศ์จึงให้ร่วมทางไปด้วย พอตกกลางคืนนางปีศาจอองออยก็ทำร้ายเจ้าหญิงเทพกินรีจนจมหายไปในลำธารเข้าใจว่าคงไม่รอดแน่จึงแกล้งกลับไปปลุกเจ้าชายรามวงศ์ทูลว่าเจ้าหญิงแ ก้วกินรีหนีตามชายชู้ไปแล้วพระรามวงศ์ไม่เชื่อชักพระขรรค์ขู่นางปีศาจให้บอกความจริง  นางอองออยเห็นไม่ได้การรีบคืนร่างเป็นปีศาจเลยถูกเจ้าชายขว้างด้ว ยจักรขาขาดข้างหนึ่งกระโดดเหยงๆ หนีไป ซึ่งต่อมานางอองออยไปได้คู่ใหม่จนเกิดลูกหลานซึ่งมีตีนข้างเดียวเวลาจะเดินไปไหนก็ต้องใช้วิธีเขย่งเกงกอย ซึ่งเร ารู้จกักันดีในชื่อของ ผีกองกอยอันมีนางปีศาจอองออยเป็นต้นพันธุ์ของผีตระกูลนี้

บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #67 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:17:28 »

ค่าย 50 รุ่นสยอง
ผมเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วก็มีโอกาสได้ร่วม กิจกรรมของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นกิจกรรมค่ายที่จัดติดต่อกันมาเป็นเวลานานแล้ว โดยผมเป็นรุ่นที่ 33 ต่อมาผมก็เลื่อนขั้นขึ้นเป็นพี่เลี้ยง โดยค่ายนี้จะฝึกโดย ใช้ครูฝึกทหาร จากค่ายฝึกรบพิเศษค่ายหนึ่งทางภาคอีสาน

ทุกรุ่นที่ฝึกจะต้องมีเหตุการแปลกๆเสมอ แต่ครูฝึกกับพี่เลี้ยงจะ ไม่บอกกับพวกน้องๆเพราะกลัวว่าจะตกใจกันเพียงแต่จะบอกว่าให้ระวังอย่าทำอะไรที่ เป็นการลบหลู่ เพราะพื้นที่บริเวณนั้นเคยเป็นสนามรบเก่ามาก่อน จนมาถึงค่าย รุ่นที่ 50 พวกเราพี่เลี้ยงก็เริ่มรูสึกตะหงิดๆแล้วเพราะว่า รุ่นนี้เป็นรุ่น ที่ 50 มีน้องไปค่าย 123 คน มีพี่เลี้ยง 13 คนคือตัวเลขมันสวยเกินไปรึเปล่า แล้วแต่ก่อนนี้ในรุ่นที่ 25 มันเคยมีเรื่องวุ่นวายค่ายแตกกันมาแล้ว เนื่องจาก มีน้องถูกผีเข้าอาละวาดกันมาแล้ว เราก็พยายามระวังตัว วันแรกที่ไปถึงเราจะ ต้องมีการไหว้ศาลเจ้าพ่อที่นั่นซึ่งมีหลายศาลมาก ปรากฎว่าจุดธูปไม่ติดทำอย่าง ไรก็ไม่ติด แถมอาจารย์คนใหม่ที่เพิ่งจะมาคุมกิจกรรมนี้เป็นครั้งแรกยังประกาศยก เลิกพิธีบายศรีสู่ขวัญในคืนปิดค่ายเสียอีก เราก็เอาล่ะสิ... ระหว่างที่ทำพิธี เปิดค่ายกันอยู่น้องฝึกงาน(พี่เลี้ยงที่มา 13 คนจะเป็นพี่เลี้ยงฝึกงาน 4 คน)คน หนึ่งชื่อก้อย ก็เอาพวงมาลัยที่เราเตรียมเอาไว้ถวายศาลเจ้าแม่ตะเคียนที่หลัง ค่ายมาแกว่งเล่นพวกเราเห็นเข้าก็ตกใจ สุดท้ายเราก็เลยต้องเล่าเรื่องความแรงของ ค่ายนี้ให้ฟังแล้วก็พาไปขอขมาเจ้าแม่ พอตกกลางคืนเราก็มีการฝึกโดยจะแบ่งน้อง ออกเป็นกลุ่มแล้วปล่อยขึ้นเขา บนเขาจะมีฐานฝึกที่มีครูฝึกทหารควบคุมอยู การ เดินบนเขาจะไม่มีไฟฉายให้ ให้เดินงมกันไปเอง ส่วนพี่เลี้ยงจะจับคู่กันขึ้นเขา มีไฟฉายให้แต่ห้ามเปิดโดยไม่จำเป็น ผมจับคู่กับน้องผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนุ่น ก็ เดินกันขึ้นไปเรื่อยๆเนื่องจากมาหลายรุ่นแล้วจึงคุ้นทาง เดินไปสักพักก็เห็นเงา ตะคุ่มๆของคนสักสิบกว่าคนนั่งเรียงแถวอยู่กลางทางเดินบนเขาซึ่งเป็นทางเดินในป่า ผมกับนุ่นก็เลยหยุดเพราะคิดว่าเป็นกลุ่มน้องที่หยุดรอเข้าฐานอยู่ แต่ก็รู้สึก แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ทำไมน้องจึงนั่งกันเงียบนักไม่มีใครคุยกันเลย รออยู่สัก สิบนาทีพี่เลี้ยงอีกคู่ก็ตามขึ้นมา ชื่อหมีกับกี้แต่ผมน่ะเห็นว่ามากันสามคน อีก คนรูปร่างเหมือนน้องชื่อน้ำ(มันมืดจะเห็นแค่เงาดำๆเท่านั้น) ผมก็ถามไปว่าน้ำมา ด้วยเหรอ หมีก็ตอบว่าผมมากับกี้สองคน ผมก็งงแต่ก็ยังไม่คิดอะไรก็เลยเดินไปจับ หัวคนที่ผมคิดว่าเป็นน้ำเขย่า แล้วก็ถามว่านี่น้ำใช่ไหม แต่เขาก็ไม่ตอบได้แต่ ยืนก้มหน้า หมีก็ยังยืนยันว่ามากันแค่สองคน ตอนที่ผมหันไปพูดกับหมีพอหันกลับมา น้ำก็หายไปแล้ว พวกเราเริ่มรู้สึกว่ามันยังไงกันแล้ว ก็เลยหยิบไฟฉายขึ้นมาเปิด ปรากฎว่ามีกันอยู่แค่สี่คนนึกได้ก็ฉายไฟไปที่น้องที่นั่งกันอยู่ เท่านั้นแหละ เหงื่อแตกพลั่ก ไม่มีใครอยู่เลยสักคนทั้งๆที่ทางตรงนั้นเป็นทางตรงเกือบร้อย เมตร เป็นไปไม่ได้ที่คนเป็นสิบคนจะเดินไปโดยพวกเราสี่คนจะไม่เห็นหรือไม่ได้ยิน เลย พวกเราก็เลยเกาะกลุ่มกันวิ่งลงจากเขาให้เร็วที่สุด ลงจากเขามาได้ผมน่ะเล็บ เปิดเลยครับ

พอลงจากเขามาแล้วทั้งหมดก็มีน้องคนหนึ่งมาคุยกับผม เขาบอกว่าค่าย ตื่นเต้นดีมีครูฝึกทาหน้าขาวมานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างทาง ผมฟังก็ได้แต่ยิ้มจืดๆ ไปเพราะผมรู้ว่าครูฝึกจะทำอะไรบ้างเนื่องจากนัดแนะกับไว้แล้ว แต่ไอ้ที่จะมานั่ง ทาหน้าขาวน่ะไม่มีแน่นอน..แล้วที่น้องเจอน่ะใครล่ะ

พอตกดึกหลังจากที่น้องเข้านอนหมดแล้ว พี่เลี้ยงก็จะมานั่งประชุมกัน แล้วก็เข้านอน เข้านอนได้สักพักก็ได้ยินเสียงคนคุยกันจากเรือนนอนถัดไป คือเราจะ แยกนอนชายหญิง เรือนนอนก็จะเป็นอาคารไม้ติดดินอยู่ห่างกันประมาณสามเมตร ผมก็นึก โมโหฝั่งผู้หญฺงที่ไม่นอนกันสักทีก็เลยกดโทรศัพท์หาเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งว่าทำไม ไม่นอนกัน เขาก็ว่ากลับมาว่าฝั่งผู้ชายนั่นแหละที่ไม่นอนเสียงดังมาก พวกผู้หญิง น่ะหลับกันหมดแล้ว ผมก็ว่าผู้ชายก็หลับเกือบหมดแล้วพูดจบก็ต่างคนต่างเงียบเป็น ที่รู้กันว่า "อีกแล้ว"

วันรุ่งขึ้นน้องที่ชื่อก้อยก็มาเล่าให้ฟังว่าที่เขาเล่นพวงมาลัยแล้ว ไปขอขมาน่ะ เจ้าแม่มาหาเขาถึงที่นอนเลยเพราะว่าเขากังวลมากในใจก็เลยพรำขอโทษ อยู่ตลอดเวลา ตอนนอนเจ้าแม่ก็เลยมาบอกว่าไม่เป็นไรแต่มาลอยอยู่ตรงหน้าชนิดว่า หน้าชนหน้าเลย ที่แปลกอีกเรื่องก็คืออาจารย์ที่ประกาศไม่จัดพิธีบายศรีวันรุ่ง ขึ้นก็รีบขับรถเข้าเมืองไปซื้ออุปกรณ์ทำบายศรีแต่เช้าเลย คาดว่าคงจะเจอดีเข้า ให้

จนถึงวันกลับก็มีการให้น้องเข้ากลุ่มอีกครั้ง มีน้องกลุ่มหนึ่งแยก ตัวไปนั่งใกล้ๆศาลเจ้าแม่ตะเคียนซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโรงเลี้ยงแล้วส่งเสียงดังมาก ครูฝึกก็เข้าไปเตือนน้องก็ยังไม่ฟัง สักพักผมก็เข้าไปเตือนน้องก็ยังไม่เบาเสียง ลงอีก พอผมหันหลังกำลังจะเดินออกมาก็ได้ยินเสียง "ตึก"เหมือนของหนักตกลงกระแทก ดิน พอหันไปก็เห็นว่าเป็นกิ่งตะเคียนขนาดใหญพอสมควรร่วงลงมาห่างจากตรงที่น้อง นั่งอยู่ไม่ถึงห้าเมตร ผมกับครูฝึกก็เข้าไปดู กิ่งตะเคียนไม่มีร่องรอยการฉีกจาก การถูกลมพัดแต่อย่างใด ลมในตอนนั้นก็ไม่แรง เหมือนกับทิ้งกิ่งลงมาเฉยๆ ผมกับครู ฝึกก็มองหน้าในเชิงรู้กันว่าเจ้าแม่ท่านคงเตือนแล้วล่ะก็เลยรีบไล่น้องให้ไปนั่ง กันที่อื่น

ที่จริงยังมีอีกหลายคนที่เจอดีที่ค่ายนี้แต่มันมากจนลงในเรื่องตอน นี้ไม่ไหว เพราะว่าเจอกันทุกคนก็ว่าได้ แล้วคราวหลังจะส่งมาให้อ่านกันใหม่นะ ครับ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #68 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:17:48 »

ห้องสยอง
สวัสดีค่ะทีมงานเดอะช็อคทุกท่าน

หยามีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนของหยาคนนี้เขาไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดซึ่งเขาจะต้องอยู่สัมมนาถึง 3 วัน พอไปถึงเขาก็แจกกุญแจห้องให้ ของเพื่อนกับบัดดี้เขาได้ห้อง 509 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ด้านในสุดเลย ซึ่งในการสัมนาครั้งนี้มีผู้ร่วมทีมไปประมาณ 100 คนได้ ซึ่งผู้ที่เข้าสัมนาจะอยู่ชั้น 5 และ ชั้น 3 ขอเอ่ยนามเพื่อนหน่อยนะค่ะเพื่อนหยาชื่อเต้คะ เต้บอกว่าพอเปิดห้องเข้าไปเพื่อนเขาก็หันมามองหน้าแบบแปลก ๆ แต่เต้ไม่ได้เอะใจอะไรพอบัดดี้ของเต้วางกระเป๋าลงเขาก็เดินสำรวจห้องทันที ทั้งห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า ระเบียงห้องเสร็จเขาก็เดินมาถามเต้ว่าได้กลิ่นดอกไม้หรือเปล่าเต้ก็ส่ายหน้า เขาก็เลยเงียบแล้วก็ขอตัวไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นเต้ก็จัดข้าวของเข้าตู้ เสร็จแล้วก็ว่างรองเท้าให้สลับข้างกันจังหวะนั้นเขาบอกว่าได้ยินเสียงเคาะห้องก็คิดว่าคนรู้จักกันมาเคาะก็เลยเปิดออกไปแต่ไม่มีใครอยู่หน้าห้อง สักพักก็ได้ยินเสียงบัดดี้ตะโกนบอกว่าเดี๋ยวก่อน เสร็จแล้ว เต้ก็งงว่าเขาตะโกนบอกใคร พอเขาออกมาก็ถามเต้ว่าแกจะเขย่าประตูทำไมว งงเลย เต้บอกว่าเขาเปล่าแล้วก็รีบเข้าไปอาบน้ำเพราะต้องลงไปทานข้าวกัน คืนนั้นเต้บอกว่าก็ไม่มีอะไรเขานอนหลับสบายดีแต่บัดดี้เขานอนครางทั้งคืนเขาก็คิดว่านอนละเมอ พอระหว่างพักทานข้าวเที่ยงพี่ที่ไปสัมนาด้วยก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยจะหลับได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นทั้งคืนจะลุกมาต่อว่าข้างห้องก็กะไรอยู่ เต้รีบบอกว่าพี่พักห้องใกล้ผมไม่ใช่เหรอชั้นที่เราอยู่มีแต่คนที่มาสัมนาด้วยกันทั้งนั้นไม่มีเด็กพี่คนนั้นเขาก็มองหน้าเต้งง ๆ แต่ก็ยืนยันว่าเธอได้ยินจริง ๆ สักพักบัดดี่ของเต้ก็เดินมาถามว่าช่วงบ่ายมีสัมมนายาวหรือเปล่า เต้ก็บอกว่าต่ออีก 2 ชม. เขาก็บอกว่างั้นขอขึ้นห้องก่อนรู้สึกเวียนหัวเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ จนเวลาผ่านไปนานพอสมควรบัดดี้ของเต้ไม่ลงมาจากห้องเต้ก็คิดว่าเขาคงป่วยจริงก็สัมมนาจนเสร็จ เต้กลับขึ้นห้องเคาะประตูอยู่นานมากบัดดี้ของเขาก็ไม่ลุกมาเปิดสักที จนพี่ที่ทานข้าวด้วยกันตอนกลางวันเดินเข้ามาถาม เต้จึงบอกว่าเพื่อนเขาเป็นอะไม่ทราบเรียกอยู่นานแล้วไม่ยอมเปิดประตูพี่คนนั้นบอกว่าท่าจะไม่ดีแล้วเดี๋ยวพี่เรียกเมตให้ สักพักเมตเอากุญแจสำรองไขเข้าไป ในห้องมืดมากบัดดี้เขาปิดหน้าต่างปิดม่านจนมืดหมดเลย พอเปิดไฟทุกคนตกใจมากเพราะบัดดี้ของเต้หน้าซีดขาวและนอนกระตุกพี่ผู้หญิงคนนั้นเธอรีบเอาพระที่อยู่ที่คอคล้องคอให้แล้วบอกว่าให้รีบพาไปหาหมอ เต้ก็ออกอาการงง ๆ พี่คนนั้นมาบอกทีหลังว่าเธอเห็นผู้หญิงอยู่บนตัวของบัดดี้เต้เธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเหมือนกำลังทำอะไรกันอยู่พอบัดดี้เต้รู้สึกตัวเขาก็เลยเล่าให้ฟังว่าตอนที่เขาขึ้นไปนอนนั้นขณะกำลังเคลิ้ม เขารู้สึกว่ามีคนมายืนที่ปลายเท้าพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นผู้หญิงคนที่เขาเจอคืนแรกมายืนอยู่ เขาคุยด้วยสักพักเธอคนนั้นก็ขอนอนด้วยแล้วเขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยรู้แค่ว่ามันหวิว ๆ เหมือนมันจะหลุดออกมาจากร่างให้ได้ พอก่อนกลับพี่คนนั้นแกไปถามจนรู้ว่าห้องที่เต้กับบัดดี้อยู่เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งมาพักและหัวใจวายตายเพราะมีอะไรกับแฟน ตำรวจลงความเห็นว่าเธออัพยาเกินขนาดในขณะมีเพศสัมพันธ์
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #69 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:18:36 »

ผีหลอกหรือมาเตือน
สวัสดีค่ะพี่ๆทีมงานทุกคน หนูมีเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ชายหนูมาเล่าให้ฟังค่ะ คือเรื่องนี้มันเกิดมาประมาณ 3-4 ปีแล้วค่ะ คือตอนนั้นพี่ชายหนูต้องเดินทางไปจับกุมคนขายยาเสพติดรายใหญ่รายหนึ่ง แต่ก่อนทำการค้นและจับกุมทางหัวหน้าพี่หนูเค้าให้ลูกน้องต้องทำทีไปเช่าห้องเช่าที่ผู้ค้ารายนี้เป็นเจ้าของโดยทำทีเป็นคนเซลล์ที่ต้องขายของให้ร้านอาหารตอนกลางคืน เพราะต้องขับรถออกไปตอนเย็นแล้วประมาณตี2-3จะขับรถเข้ามาในห้องเช่าแต่ต้องบอกก่อนนะคะว่าห้องเช่าที่นี่พี่หนูบอกว่าทางเข้าต้องผ่านทางเหมือนสวนถึงจะเข้าไปได้ แต่เวลาขับรถเข้ามาต้องปิดไฟหน้ารถแล้วปล่อยให้รถค่อยๆไหลตามเกียร์ไปเอง คืออาศัยเเสงจากดวงจันทร์เข้ามาน่ะค่ะ แต่ลูกน้องพี่หนูเค้าก็เช่าห้องเช่านี้มานานเกือบเดือนแล้วไม่เคยเจออะไรนะคะ เค้าก็ออกไปข้างนอกแล้วกลับเวลานี้ตลอด จนกระทั้งสีบแน่ชัดแล้วก็เลยนัดเวลาเข้าทำการจับกุมก็ให้ทางชุดรวมทั้งพี่หนูเข้าแสตนบายก่อนวันจับกุม 1 วันทำทีว่าเพื่อนเซลมากัน เนื่องจากตอนเช้าชุดขอหมายจะเข้าขอหมายแล้วจับกุม เหตุการณ์ก็ปกติดีแต่ตอนกลับมาสิคะ ในรถมีกันอยู่ 6 คน มีดาบตำรวจคนหนึ่งขับรถ สารวัตรนั่งข้างคนขับ พี่หนูนั่งด้านหลังคนขับ อยู่ๆดาบคนที่ขับรถก็เบรคกระทันหัน แล้วทุกคนในรถก็เห็นเหมือนกันหมดว่ามีชายคนหนึ่งเดินหันข้างแล้วยื่นมือออกมาห้ามไม่รถวิ่งในลักษณะหันข้าง แต่รูปร่างชายคนนั้นผอมมากคนธรรมดาคงไม่ผอมขนาดนั้น แต่ที่ทุกคนตะลึงก็คือรถโฟวิวยกสูงน่ะค่ะ สูงแค่เอวชายคนนั้นเองค่ะพี่ แล้วผิวชายคนนั้นขาวมากจนสามารถมองในทีมืดว่าขาวซีดมากค่ะพี่แล้วนายดาบคนนี่นตกใจเปิดไฟหน้ารถทันที พี่คะพี่ชายหนูพร้อมกับทุกคนแทบช็อคเพราะเหมือนในหนังทีวีน่ะค่ะ หายวับไปกับตาเลยค่ะ ดาบพร้อมทั้งคันรถไม่สนอะไรรีบเหยียบทันที แต่พอไปถึงห้องพักพี่หนูกินเบียร์หวังจะให้หลับแต่เรื่องไม่จบแค่นั้นสิคะพี่หนูตื่นมาตอนเช้าเพื่อนๆเค้าเล่าให้ฟังว่าพี่หนูเมาแล้วตะโกนด่าผีแถมท้าผีใหญ่เลยค่ะระวังนะพี่ แต่พี่หนูเค้าไม่ได้คิดอะไร แล้วเมื่ออีกชุดหนึ่งเข้ามาจับกุมพี่คะนายดาบคนที่เปิดไฟใส่ผีน่ะค่ะโดนยิงตายคาที่ส่วนพี่หนูโดนยิงเข้าที่เอวแต่ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ เมือ่เสร็จภารกิจแล้วทุกคนมานั่งคุยกันว่าเค้าอาจจะมาเตอนหรืออะไรสักอย่างแต่คงโกรธที่ดาบไปเปิดไฟใส่เค้าแล้วพี่หนูอาจจะไปท้าทายเค้าก็ได้ค่ะ หนูอาจจะเล่าไม่ค่อยละเอียดนะคะเนื่องจากเวลาพิมพ์ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีนค่ะถ้าเล่าจริงๆเล่าได้เข้าใจกว่านี้ค่ะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #70 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:19:15 »

อะไรในบ้าน
สวัสดีครับพี่ป๋อง ผมชื่อแจ๊คนะครับ ผมเป็นคนนึงที่ชอบรายการพี่ป๋อง ฟังมาตั้งแต่ สมัย ไนน์ตี้ช๊อคละครับ เรื่องที่ผมส่งมาเล่าให้พี่ป๋องฟังเป็นเรื่องสั้นๆนะครับ เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง คือเรื่องก็มีอยู่ว่า ผมเป็นคนๆนึง ที่ชอบเล่น Internet ครับ บางวันจะเล่น ถึงประมาณ เกือบๆเช้าเลย วันนี้ก็เหมือนวันก่อนๆครับ บ้านของผมอยุ่ในอ.สามพราน จ.นครปฐม (แถวๆตลาดดอนหวายน่ะครับ) ผมได้เล่น Internet จนถึง เวลา ประมาณ ตีสองได้ ผมเริ่มรู้สึกเพลียผม จึงไปปิด ไฟ แล้วหน้าจอ เพื่อไปนอนครับ เตียงผมจะเป็นเตียงเดี่ยวฅและผมเป็นคนชอบนอน กลับหัวจากเตียงครับ คือ จะหันเท้าให้หัวเตียง คือ ว่านอนๆหลับไปดีๆ ผมก็เปิดเพลงไว้แหละครับ แล้วเพลงก้ดับไป ผมก็ผลอยหลับไป ไม่นานผมก็ได้ยินเสียง กรีดร้องโหยหวน ของผู้ ญ ผมก้ไม่ได้ คิดไรมากครับ ผมคิดว่า เป็นเสียง ของ ลำโพง ผมจึง พลิกตัวหันไปอีกข้างของเก้าอี้ซึ่งอยุ่ด้านซ้าย ผมก็ได้ยินอีกผมก็ ไม่รู้สึกยังไงนะครับ เหมือน จะตื่นแต่มันโงหัว ไม่ขึ้น ผมเลยพลิกหันไปดูว่ามีอะไร

ปรากฏว่ามี ผู้ หญิง ปากกว้างมานั่งที่เก้าอี้ของผมครับ แล้วก็กรี๊ดร้องใส่ผม ผมไม่รู้จะทำยังไงครับ ผมจึงใช้เทคนิคเก่าๆที่ เคยโดนผีอำมาคือเอามือผลัก พื้นเพื่อดันศรีษะขึ้น แล้วผมก็ สามารถลุกขึ้นมาได้ครับ จากนั้นผมก็ หันไปดู ปรากฏว่าไม่มีอะไรแล้ว ผมไม่นอนแล้วครับ เลยนั่งเปิดเพลงแล้ว เล่น MSN จนถึงประมาณ 6 โมงเช้าเลยครับ ถึงนอน

แล้วพี่ป๋องคิดว่า เค้าคนนั้นเป็นไครล่ะครับ ทั้งๆ ที่บ้านก็อยู่กันมา 10ปีได้แล้ว .... และไม่เคยมีประวัติ คนเสียชีวิตเลย
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #71 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2007 15:19:30 »

เรื่อง กลิ่นธูปและความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง
สวัดดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องจริงเมื่อประมาณหลายปีก่อนจะมาเล่าสู่กันฟังเป็น เรื่องที่เกิดขึ้นกับแฟนเก่าของดิฉันเอง คือเมื่อประมาณหลายปีที่แล้วเพื่อนสนิท ของแฟนเก่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ และแฟนเก่า (ชื่อหนุ่ม) ก็ไม่ได้ ว่างไปงานศพของเพื่อนของเขาเลย แต่ที่แปลกคือ ตอนที่ยังไม่ทราบแฟนเล่าให้ฟังว่า ได้กลิ่นธูป และ มีความรู้สึกเหมือนคนจ้องมองอยู่ตลอด ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ กลิ่นธูปนี้ก็ตามไปทุกทีตลอดเวลา ประมาณ5วันได้ คือได้กลิ่นตลอด แม้กระทั่งตอน นอน แล้วก็เหมือนมีอะไรมาดลใจไม่ทราบแฟนของดิฉัน็โทรไปที่เบอร์มือถือของเพื่อน คนนี้ ปรากฎว่าโทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย ก็เลยโทรไปที่บ้าน ก็ไม่มีคนรับสาย อีก เลยตัดสินใจ เอาว่ะ..คงไปธุระกัน ดึกๆก็คงจะกลับ พอซัก 22.00 น.เห็นจะได้ แฟนได้โทรไปอีกครั้ง แม่ของเพื่อนเขาที่ตายก็เล่าให้ฟังว่า เออ..หนุ่มแม่ไม่รู้ เบอร์หนุ่ม ไม่รู้จะตต.กันยังไง จะบอกว่าเอ๋ เสียแล้วนะ เท่านั้นแหละแฟนดิฉันทำ อะไรไม่ถูกเลยก็อึ้งไปพักนึง ก็รีบบึ่งรถกลับมา และที่แปลกคือ พอทราบว่าเพื่อน คนนี้เสียแล้วกลิ่นธูปและความรู้สึกทั้งหมด ก็หายไป ไม่มีความรู้สึกว่าถูกจ้อง มองอีก พอถึงวันเผา แฟนดิฉันก็พูดต่อหน้าศพว่าเออ..ขอโทษนะโว้ย ที่ไม่ได้มา ขอบคุณมากที่มาบอก ซักพักกลิ่นธูปลอยมาอีก และแฟนก็ได้กลิ่นคนเดียวด้วย ตอนนั้น ยังไม่มีใครจุดธูปด้วยนะค่ะ แล้วกลิ่นธูปก็ติดจมูกแฟนอยู่จนถึงวันลอยอังคารที่ พัทยา ตอนแฟนเล่าให้ฟังตอนนั้นขนลุกเกรียวเลยค่ะ เพราะว่าไม่เคยเจอเรื่องเร้น ลับแบบนี้
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #72 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2007 08:16:11 »

รอ
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
^^warriorball^^
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540


เน้นใช้งาน..แต่ขับมันส์...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #73 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2007 19:06:08 »

เรื่อง กลิ่นธูปและความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง
สวัดดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องจริงเมื่อประมาณหลายปีก่อนจะมาเล่าสู่กันฟังเป็น เรื่องที่เกิดขึ้นกับแฟนเก่าของดิฉันเอง คือเมื่อประมาณหลายปีที่แล้วเพื่อนสนิท ของแฟนเก่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ และแฟนเก่า (ชื่อหนุ่ม) ก็ไม่ได้ ว่างไปงานศพของเพื่อนของเขาเลย แต่ที่แปลกคือ ตอนที่ยังไม่ทราบแฟนเล่าให้ฟังว่า ได้กลิ่นธูป และ มีความรู้สึกเหมือนคนจ้องมองอยู่ตลอด ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ กลิ่นธูปนี้ก็ตามไปทุกทีตลอดเวลา ประมาณ5วันได้ คือได้กลิ่นตลอด แม้กระทั่งตอน นอน แล้วก็เหมือนมีอะไรมาดลใจไม่ทราบแฟนของดิฉัน็โทรไปที่เบอร์มือถือของเพื่อน คนนี้ ปรากฎว่าโทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย ก็เลยโทรไปที่บ้าน ก็ไม่มีคนรับสาย อีก เลยตัดสินใจ เอาว่ะ..คงไปธุระกัน ดึกๆก็คงจะกลับ พอซัก 22.00 น.เห็นจะได้ แฟนได้โทรไปอีกครั้ง แม่ของเพื่อนเขาที่ตายก็เล่าให้ฟังว่า เออ..หนุ่มแม่ไม่รู้ เบอร์หนุ่ม ไม่รู้จะตต.กันยังไง จะบอกว่าเอ๋ เสียแล้วนะ เท่านั้นแหละแฟนดิฉันทำ อะไรไม่ถูกเลยก็อึ้งไปพักนึง ก็รีบบึ่งรถกลับมา และที่แปลกคือ พอทราบว่าเพื่อน คนนี้เสียแล้วกลิ่นธูปและความรู้สึกทั้งหมด ก็หายไป ไม่มีความรู้สึกว่าถูกจ้อง มองอีก พอถึงวันเผา แฟนดิฉันก็พูดต่อหน้าศพว่าเออ..ขอโทษนะโว้ย ที่ไม่ได้มา ขอบคุณมากที่มาบอก ซักพักกลิ่นธูปลอยมาอีก และแฟนก็ได้กลิ่นคนเดียวด้วย ตอนนั้น ยังไม่มีใครจุดธูปด้วยนะค่ะ แล้วกลิ่นธูปก็ติดจมูกแฟนอยู่จนถึงวันลอยอังคารที่ พัทยา ตอนแฟนเล่าให้ฟังตอนนั้นขนลุกเกรียวเลยค่ะ เพราะว่าไม่เคยเจอเรื่องเร้น ลับแบบนี้

พี่ปูม..เอามาจากเรื่องจริง..หรือจากในหนังสือหยอออ..อิอิ
บันทึกการเข้า
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #74 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2007 14:25:21 »

เอามาจาก THE SHOCK คับ (เรื่องจริงๆก็มีหลายเรื่องนะ)
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
1300 ก็แค่นั้น
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,166


ดีชั้วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #75 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2007 14:28:53 »

ผีจับหัว
ผีจิ้มหัว
ผีกระจู๋
ผีไม่มีหัว
ผีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว...
บันทึกการเข้า

ขอแค่มีน้ำใจ แม้ขับรถอะไรก็เพื่อนผม\\\\\\น้ำปั่นมาแว้วววววววววววว
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #76 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2007 14:45:03 »

ผีจับหัว
ผีจิ้มหัว
ผีกระจู๋
ผีไม่มีหัว
ผีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว...


อ่านจนหลอนไปแระ - -"
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
^^warriorball^^
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 540


เน้นใช้งาน..แต่ขับมันส์...


ดูรายละเอียด
« ตอบ #77 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2007 22:04:20 »

โอเค...จัดปายยยย...พี่ปูม
บันทึกการเข้า
~POOMZA~
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,164


ปูม 081-7045833


ดูรายละเอียด
« ตอบ #78 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2007 13:15:11 »

มาขยับบอร์ดหน่อย
บันทึกการเข้า

...ใต้ฟ้าสีคราม...
1300 ก็แค่นั้น
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,166


ดีชั้วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว


ดูรายละเอียด
« ตอบ #79 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2007 14:12:00 »

ผีจับหัว
ผีจิ้มหัว
ผีกระจู๋
ผีไม่มีหัว
ผีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว...


อ่านจนหลอนไปแระ - -"
ผีกระหรั่ว
 เต้นระบำ เต้น ร้องเพลง ถูกใจ.. ใช่เลย.. ไม่ไหวแล้ว...
บันทึกการเข้า

ขอแค่มีน้ำใจ แม้ขับรถอะไรก็เพื่อนผม\\\\\\น้ำปั่นมาแว้วววววววววววว
หน้า:  «  1 2 3 [4] 5 6 ... 15  »  [5»] [10»]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!