AE. Racing Club
11 มกราคม 2025 06:04:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 ... 3 4 [5]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอระบายหน่อยคับ  (อ่าน 9864 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 18 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
witarn
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 398



ดูรายละเอียด
« ตอบ #80 เมื่อ: 19 เมษายน 2011 17:13:14 »

น่าสนใจครับ ทุกคนต่างมีเรื่องที่น่าจดใจและไม่น่าจดจำกัน ผมรบกวนเล่าเรื่องขอผมไว้ให้คิดนะครับ เมื่อช่วงปี 46 ผมได้เล่นแชท โปรแกรม pirch98 หลายท่านคงเคยเล่น ผมจำได้เลยว่าเข้าไปในห้อง "จีบกันได้" และได้เจอกับน้องคนนึงในนั้น ตามประสาชายโสดนะครับผม ผมก็จีบไปเรื่อย และได้เบอร์สาวมา 2-3 เบอร์ 1 ในนั้นคือแฟนผมในอีกปีต่อมา เรื่องของเรื่องคือผมว้อนท์ อยากดูหนังเรื่อง "แฟนฉัน" และผมไม่อยากไปดูคนเดียว พวกเพื่อนๆส่วนมากก็มีแฟนกันหมดแล้ว เลยชวนน้องคนนี้ไปดู(มารู้ที่หลังว่าน้องคนนี้เคยดูเรื่องนี้มาแล้วรอบนึง)
บ่าย 3 โมงเจอกันที่เซ็นฯ ปิ่นเกล้า ช่วงนั้นผมทำงานโรงพิมพ์กะกลางคืน พอไปถึงก็ดูหนังกันครับ ระหว่างหนังฉายไปสักพัก น้องคนนี้ก็ซบลงที่ไหล่ผมเฉยเลย(เพิ่งเจอกันนะเนี่ย) ผมก็ไม่คิดไรมาก ไม่กล้าขยับตัว กลัวคิดว่าผมรังเกียจเธอ แต่ใจก็คิดนะครับว่าน้องคนนี้กล้าจัง แต่เราเป็นผู้ชายนี่หว่าไม่เห็นเป็นไร อิๆ พอหนังจบเธอบอกว่า "พี่ต้องไปส่งหนูนะ" อ้าวเฮ้ย..แล้วพี่จะไปทำงานทันไหมเนี่ย? อ่ะ ส่งก็ส่ง..เธอก็บอกไปส่งแถวบางซื่อละกัน ครึ่งทาง สมัยนั้นผมยังไม่มีปัญญามีรถขับครับ เลยไปส่งเธอต่อรถที่ป้ายรถเมล์แถวบางซื่อครับ วันนั้นก็ไปทำงานสายจนได้ หลังจากนั้นทุกวันเธอก็เป็นฝ่ายรุกเดินหน้าแล้วฆ่าผม โทรมาทุกวันและขอผมคบเป็นแฟน ผมก็โอเคเลยครับ เพราะตอนนั้นโสดและไม่ได้คิดไรมาก เธอโทรมาก็ชวนผมไปนี่ไปโน้น ซึ่งผมเลิกงานเช้าก็กลับไปนอน นัดไว้ก็ให้เธอไปรอแล้วผมก็ไม่ได้ไปตามนัด จนที่สุดเธอก็ใช้ไม้ตาย นัดผมไป รร.เลยครับ(รร.= โรงแรม ไม่ใช่โรงเรียนนะครับ) เธอบอกว่าเป็น รร ของอาเธอครับ 3 ทุ่มของคืนนั้นผมก็ออกถีบตัวเองไปบนถนนลาดพร้าว ใจผมยังคิดเลยว่า มันเป็น รร ม่านรูดป่าวฟะ? อยู่ซะไกลเชียว อีกใจก็คิดเอาก็เอา ฟรีสไตล์ไม่มีเสียหาย ชายทั้งแท่ง 555 ไปถึงตามเลขห้องที่เธอเปิดรอไว้อยู่แล้ว เคาะประตู เธอเปิดออกมา กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียวพี่น้อง.. ผมคิดในใจอีกว่า งานนี้เสียตัวแน่เลยตรู อิๆ และก็เป็นตามคาด เธอบุกจู่โจมยังกะแม่เสือสาวหิวโหย (เล่ายังกะหนังติดเรท ฮ่าๆ)เอาเป็นว่าเราคบกันแบบเต็มตัวสมบูรณ์แบบแล้วครับ จากนั้นเธอก็เปิดห้องไว้อีกเช่นเคย ผมก็ไปอีกเช่นเคย เราก็เจอกันแบบนี้ครับ ไม่นานนักเธอก็ร้องอยากมาบ้านผม จังหวะพอดีตอนนั้นผมอยุ่คนเดียว คนอื่นไปทำงานต่าง จว. พ่อแม่ก็ไปเลี้ยงหลานบ้านพี่ผมครับ ช่วงนั้นผมก็เหงาและฟรีมาก จึงพาเธอมาบ้าน เธอปรนนิบัติทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำอาหารให้ผมทาน ทำงานบ้านทุกอย่าง และเรื่องนั้น..ก็ไม่มีขาดเช่นกัน(อย่าเพิ่งอิจฉาผมนะครับ เพราะมันทำให้ผมเสียคน หลงระเริงและเหลิงในที่สุด) ผมกลายเป็นคนเสียนิสัย ติดเรื่องนั้น..และเริ่มรักเธอมาก จากที่ไม่เคยคิดรักเลย คิดแค่สนุกและแก้เหงาในตอนแรก เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ผมลาออกจากงานเพราะกลัวห่างเธอ ซึ่งระหว่างทำงานเธอก็จะโทรหา นัดเจอ และทำให้ผมไม่เป็นอันอยากทำงานและลาออกในที่สุด เพื่อมีเวลาให้กันและกันเต็มที่ เธอไม่ได้ทำงานอะไรเลย โดยอ้างว่าดรอปเรียนมหาลัย หลังจากผมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ผมก็เริ่มหึงหวง เนื่องจากพฤติกรรมแปลกๆของเธอ ผมเริ่มสืบเสาะหาข้อมูลของเธอ ซึ่งเธอไม่ได้เรียนอะไรเลย อาไม่ได้เป็นเจ้าของ รร. และเธอมีป๋าส่งให้อยู่ห่างๆ และแอบนัดเจอกันในบางครั้ง ซึ่งผมจับได้เมื่อเธอกลับมาจากการไปหาป๋าคนนั้นด้วยเงิน 7พันบาท โดยที่วันนั้นทั้งวันผมโทรหาเธอๆไม่รับสายเลย ด้วยความที่ผมเป็นคนอยากรู้ความจริงและต้องสืบให้ได้ จิงได้แอดคอนแท็คเพื่อนของเธอในเอ็มฯของเธอ มา ซึ่งจริงๆคือแฟนเก่าเธอนั่นแหละ และไม่ว่าผมจะหูเบา จะเชื่อหรือไม่ที่แฟนเก่าเธอบอกเรื่องต่างๆของเธอให้ฟัง ผมก็หน้ามืดตามัวไปแล้วครับ และหึงหวงระแวงเธอมากขึ้น ด้วยความที่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป คิดไม่เป็นและหึงหวง จึงคอยเช็คเบอร์โทรเข้า-ออกของเธอ และได้รู้เรื่องของเธอมากขึ้น อาทิเธอเคยเป็นกรุ๊ปปี้และเป็นภรรยาน้อยของวงดนตรี "12 ปีก"ย่านอโศก ซึ่งผมโทรคุยกับนักดนตรีคนนั้นเองเลย จากเบอร์แมสเสจที่นักดนตรีคนนั้นส่งมาหาเธอในช่วงที่ผมอยู่กับเธอที่บางแสน ซึ่งมันเป็นเรื่องอดีตผ่านมาแล้ว แต่ใจผมตอนนั้นคิดไม่ตก รักก็รัก อยากเลิกก็อยากเลิก จนบอกเลิกเธอๆก็ไม่ยอม และผมก็ใจอ่อน จนแล้วจนรอดก็ทู่ซี้คบกันเรื่อยมา อาจจะด้วยเซ็กส์และความผูกพันก็แล้วแต่ และผมก็เริ่มไม่ไว้ใจเธออีกและระแวงเรื่อยมา ซึ่งผมอาจคิดไปเองจากที่ได้ยินเรื่องเก่าๆของเธอ แต่ก็มีบ้างที่เธอโกหกผม และโกหกเรื่อยมา จนผมสงสัยและคิดไปต่างๆนานา เราคบกันก็ทะเลาะกัน3วันดี 4วันไข้ตลอด ซึ่งผมคงเพี้ยนและระแวงมากไปจนฟุ้งซ่าน(คนนี้คือแฟนที่คบจริงจังคนแรก) จนเธอเองเริ่มทนไม่ไหวและเริ่มเปิดมองหาคนใหม่ๆ แทนที่ผม ซึ่งก็สมควรกับสิ่งที่ผมทำนะครับ แต่ตอนนั้นผมไม่เคยเข้าใจเลย ผมกลับทำเรื่องต่างๆ และก้าวก่ายเรื่องเธอมากไป จนยากที่เธอจะทนอีกต่อไป
คืนวันฮาโลวีน ปี 49 ผมโทรไปนัดเธอไปเซ็นทรัล และส่งแมสเสจไปหาเธอย้ำว่าพรุ่งนี้เจอกัน "คิดถึงฝันดี"ตามเคย โดยผมรู้สึกผิดและอยากซื้อรองเท้าให้เธอสักคู่ เห็นเธอบ่นอยากได้มานาน ตอนนั้นผมก็ไม่มีตังค์ คืนนั้นนอนไม่ค่อยหลับและคิดอยากให้ถึงเช้าไวไว จะได้เจอเธอและซื้อรองเท้าให้เธอ
เช้าแล้ว ผมโทรหาเธอ ๆ ปิดเครื่อง? ใจผมร้อนรน และรู้สึกแปลกๆ กระสับกระส่ายมาก เที่ยงแล้ว ผมโทรหาเธอ ๆ ปิดเครื่องอีก? บ่ายผมโทรหาอีก คราวนี้เธอรับสายพร้อมเสียงงัวเงีย "ฮัลโหล ไม่ค่อยสบายอ่า ปวดหัว นอนอยู่ห้อง" .......ผมอดคิดและสงสัยไม่ได้ว่า นัดกันแล้วนี่นา เมื่อคืนผมก็แมสเสจไป เธอยังตอบกลับมาเลยว่าเจอกัน..และปกติดีทุกอย่าง ไม่รู้เป็นไรใจผมคิดว่าเธอไม่ได้อยู่ห้องเธอแน่ๆ จากที่ลังเลอยู่นานและคิดว่าจะเลิกหรือไม่ กับเรื่องราวไม่ดีหลายอย่างที่ผ่านมา ผมทนไม่ไหวและคิดว่า ไปหาเธอเลยดีกว่า พร้อมเอาเสื้อผ้าและของใช้ของเธอติดไปด้วย หากเธออยู่ห้องจริงผมก็จะกลับพร้อมสัมภาระที่นำมา หากเธอไม่อยู่ห้องเธอจริง ผมก็จะฝากของๆเธอกับแม่ของเธอไว้ และคิดว่าจบกันที
...เมื่อไปถึงห้อง แม่เธอเปิดประตูออกมา(แม่เธอไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไร และอยากให้ลูกสาวเธอเจอกับคนที่มีเงินดูแลเธอและครอบครัวเธอได้) แม่เธอบอกกับผมว่า เธอไม่อยู่ไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่กลับ...
.....(Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh??) ผมยืนถือของๆ เธอนิ่งไปพอสมควร และฝากของๆเธอให้กับแม่เธอ และเดินกลับออกมาอย่างใจลอย...และหมดแรงยังไงบอกไม่ถูก ใจคิดไปต่างๆนานา ว่าไปกับใคร ทำอะไรอยู่ และรู้สึกว่าผมเสียเธอไปแล้วจริงๆ ผมแวะ7-11 ซื้อน้ำดื่มและนั่งพักแถวนั้น สงบสติอารมณ์ และกลับบ้านไปนอน โดยระหว่างทางก็โทรไปหาเธอตลอด เธอก็ปิดเครื่องตลอดเช่นกัน ผมไม่รู้ที่ทำไปแบบนี้ถูกหรือผิด แต่เหมือนเป็นการตบหน้าเธออย่างแรง จากนั้นผมโทรไปเธอก็ให้แม่เธอรับสาย และบอกกับผมว่าเธอกลับไปคบแฟนเก่าหรือมีแฟนใหม่ ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วในตอนนั้น ผมขอคุยกับเธอ เธอก็บอกไม่คุย จากนั้นเราก็จบกัน ผมทำอะไรไม่ได้เกือบ 4 เดือน ตกงาน ดื่มทุกวันเกือบเช้า นอนหลับอย่างเดียวตื่นมาก็เย็นแล้ว ๆก็ดื่มต่อทุกวัน จนที่ทำงานเก่าเรียกกลับไปทำงาน จึงผ่านพ้นมาได้ อยากบอกว่าที่ผ่านมา ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกครับ คนเราคบกัน2คน มีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรักษาความรักไว้ได้ดีหรือไม่ หากเป็นรักที่ดีควรรักษามันไว้ หากมันไม่ดีมีแต่ปัญหาต้องตัดใจและผ่านพ้นมันไปให้ได้ครับ แต่เหตุการณ์นี้ของผม ๆขอรับผิดคนเดียว ที่ผมไปยุ่งเกี่ยวกับเธอ หากผมไม่คิดจริงจังกับเธอจนเลยเถิดเรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น ผมรักเธอครับ จนทุกวันนี้ผมก็ยังคิดถึงเธอเสมอ ทุกวันนี้ผมยังไม่มีใครใหม่เป็นตัวเป็นตนอีกเลย ผมยังจดจำเรื่องดีๆ ของเธออยู่เสมอ ส่วนเรื่องที่ไม่ดี ผมไม่จำครับ ได้แต่เฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ ในโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ค โดยนานๆที ก็จะแอบแวะเข้าไปดูเพจ ของเธอบ้าง โดยไม่แอดเธอไว้(ถึงแอดเธอก็คงไม่รับ) มันจบไปนานแล้วครับ ปีนี้ก็ จะ5ปีผ่านแล้ว ผมยังไม่ลืมเธอ และนึกถึงเรื่องดีๆ ในอดีตอยู่เสมอ แต่ทุกอย่างมันผ่านพ้นมาแล้วครับ ถึงตอนนี้ผมยังไม่มีใคร มีเหงาบ้างแต่ก็ได้มีสติ และความคิดมากขึ้นครับ
หนักหนาสาหัสพอดูเลยครับท่าน ดีแล้วครับที่ผ่านมันมาได้ หลังจากผ่านมันมาแล้วผมรู้สึกได้เลยว่า เรื่องแบบนี้จะไม่น่ากลัวอีก ไม่ดีก็เลิกไปไม่อาลัยอาวรณ์เหมือนเดิมแล้ว สงสัยเพราะเจ็บจนมันด้านชาไปเองครับ
บันทึกการเข้า

t_13
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,924


AE พลัง เค อิอิ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #81 เมื่อ: 19 เมษายน 2011 17:50:46 »

ครับ ก็มีเพื่อนๆบางท่านสนใจเรื่องของผม ส่งข้อความส่วนตัวมา เอาเป็นว่าเล่าลงในนี้เลยแล้วกัน เผื่อมีคนอยากนำไปเป็นข้อคิดได้บ้าง ผมกับแฟนคนเก่าคบกันมาตั้งแต่สมัยเค้าเรียน ม.5 ส่วนผมอยู่ ปวช.2 ตั้งแต่ยังเด็กๆกันอยู่เลย จนโต จบแล้วแยกย้ายกันไปทำงานก็จะติดต่อกันตลอด เค้าอยู่ กทม. ผมอยู่ชลบุรี เรียกได้ว่า จากพ่อแม่เค้าไม่ค่อยชอบจนกลายเป็นซี้กันไปเลยแหละ เพราะคบกันนานมาก แต่ด้วยที่เราห่างกันช่วงนั้น msn กำลังพีคถึงขีดสุด เค้าก็เล่น msn เนี่ยแหละครับนัดพบเพื่อนชาย แล้วก็พามาที่ห้องแทบไม่ซ้ำหน้า ผมรู้เพราะน้องสาวเค้าเล่าให้ฟังก่อนที่จะตัดสินใจเลิกกัน ปกติเค้าเป็นคนเรียบร้อย แต่ค่อนข้างโรคจิตนิดนึงคือถ้าใครเอาใจเค้า เค้าจะทุ่มความรู้สึกดีๆให้คนๆนั้นทันที ไม่ว่าใครจะปรามยังไงก็ไม่ฟัง สุดท้ายก็จะเสียตัวฟรีตลอด เรื่องที่ทำให้เราเริ่มระหองระแหงกันก็คือ เวลาผมโทรไปคุยตามปกติ เค้ามักจะบอกปัดว่าไม่ว่าง ไปทำนู่น ทำนี่อยู่ แต่ที่แท้พาผู้ชายมาที่ห้อง เป็บแบบนี้หลายเดือนจนผมชักสงสัยว่ามันจะไม่ว่างอะไรกันนักหนา และช่วงระหว่างคุยโทรศัพท์ผมจับพิรุธได้เลยตัดสินใจเลยว่า ให้มันเห็นดำเห็นแดงกันเลย จะได้จบปัญหาที่ค้างคาใจกันเลยในคืนนั้น วันนั้นผมต้องเข้ากะดึก เลยรบกวนพี่เค้าช่วยควบกะให้แล้วตัวเองก็ขับรถเข้า กทม.ทันทีถึงที่ตี 2 ไปเค้าประตู พอเค้าเปิดมาเจอผมเค้าก็ทำหน้าตกใจสุดขีดว่าผมมาได้ยังไง คืนนี้ทำงานไม่ใช่เหรอ ผมเลยโผล่หน้าเข้าไปดูในห้อง เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ มีผู้ชายนอนอยู่บนเตียงที่ผมนอนกับเธอประจำแล้วที่ร้ายสุด มันใส่ชุดนอนของผมด้วย 555 แมร่งไม่ลงทุนเลยหรือไร คุยกันซักพักมันตกใจตื่น ผมก็ไม่ว่าไรมันหรอกนะ เพราะมันไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร คนของเรานั่นแหละตัวดี เลยเดินเข้าไปหามันแล้วบอกกับมันว่า ถ้าอยากได้ผมยกให้ ดูแลกันให้ดีๆก็แล้วกัน คนนี้ผมรักมากดูแลส่งเสียมาตลอดจนเธอเรียนจบ แล้วก็กลับ ก่อนกลับยังบอกว่า ให้ลองตัดสินใจอีกทีนะ ผมให้อภัยได้ถ้ากลับตัวใหม่ แต่เค้าบอกว่าอยากลองเลือกทางอื่นดูบ้าง ผมก็เลยขับรถกลับมาชลบุรี กลับมาถึงเช้ามืดล้มตัวลงนอนก้นอนไม่ได้เพราะคิดถึงแต่ภาพที่เเค้กับมันมีอะไรกันแล้วมันหลับไม่ลง กินอะไรก็ไม่ได้ กลืนไม่ลง พาลจะอ้วกออกมาหมด เลยเข้าใจคำว่า ท้องไม่รับก็วันนี้เอง เป็นแบบนี้อยู่ 2 วัน คือหลับไม่ได้เลย จนเดี้ยงถูกหามเข้าโรงพยาบาลไปนอนอยู่ 2 วันถึงจะได้กลับบ้าน ช่วงนี้ฟุ้งซ่านสุดๆ ยามสมองว่างจะเห็นแต่ภาพเค้ากับมันมีอะไรกันตลอด จากคนไม่กินเหล้ากินเบียร์ก็ต้องกินจนเมาอ้วก เพื่อให้มันหลับได้ หลังจากเป็นแบบนี้ไปครึ่งปี เค้าโทรมาบอกว่าเลิกกันแล้ว มันกลับไปคืนดีกับแฟนมัน เค้าเหงา ให้ผมช่วยพาเค้าไปเที่ยวหน่อย โอเค...ผมก็ไม่คิดอะไรมาก อย่างน้อยก็คนเคยรัก พาไปเที่ยวเกาะเสม็ด แต่ต้องแวะค้างคืนที่ตัวเมืองระยองก่อน เนื่องจากมืดแล้ว ได้ห้องนึงที่เป็นเตียงคู่ นอนคนละเตียง แต่เชื่อหรือเปล่า เค้านัดผู้ชายที่รู้จักกันทาง msn ซึ่งมันอยู่ระยองพอดีมาหาที่โรงแรม เธอบอกว่าผมเป็นพี่ชาย แล้วผมก็ขอตัวนอนเนื่องจากเพลียจากการขับรถ เค้าก็นั่งคุยกันไป ผมก็นอนไปซักพักก็ตื่น ก็เอะใจว่าทำไมมันเงียบจังเลยลืมตามาดู เต็มๆเลยครับท่าน กำลังจูบปากกันอย่างดูดดื่ม นี่เพิ่งเจอกันวันแรกนะเนี่ย เด็กดี เรียบร้อยคนนั้นของผมหายไปไหน ก็เลยต้องแกล้งหลับไป แต่ซักพักเพื่อนชายของเธอก็ขอตัวกลับไป แล้วก็กลับมาตอนตี 2 เธอบอกว่าขออณุญาติพาเพื่อนมาคุยในห้องได้มั้ย ผมเลยบอกว่าตามสบาย ก็แค่คุยกันไม่เห็นจะมีเหตุผลที่จะไม่ให้เข้ามา แต่ผิดคาด พอมันเข้ามาถึงเธอดึงมันไปที่เตียงแล้วปิดไฟเลย เราก็นอนฟังเธอกับมันเล่นจ้ำจี้กันซักพัก ก็ชักไม่ไหวแฮะ ถึงแม้จะเลิกกันแล้วแต่ก็เคยเป็นของเรามาก่อนนะ แล้วก็ลุกขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะกลับ จะได้ปล่อยให้มัน 2 คนทำอะไรกันได้สะดวกหน่อย ขณะที่ผมกำลังเก็บของ ผู้ชายคนนั้นคงเข้าใจแหละว่าผมไม่ใช่พี่ชายๆแน่ๆ มันเผ่นอ้าวไปเลย ถึงแม้เธอจะโทรหาทั้งคืนมันก็ไม่รับสาย และแล้วผมก็กลับไม่ได้เพราะถ้ากลับเธอคงจะซวยแน่ ไม่มีตังค์จ่ายค่าห้องแล้วก็ไม่มีเพื่อน เห็นแก่พ่อแม่เค้าก็ดูแลผมมาเป็นอย่างดีจนเค้าบอกว่าผมก็เหมือนลูกเค้าคนนึง ก็เลยทิ้งลูกสาวเค้าแบบนี้ไม่ได้ เลยรอจนเช้า พาไปเที่ยวเกาะเสม็ดตามสัญญาแล้วก็พาไปส่งขึ้นรถกลับ กทม. หลังจากนี้ก็ได้คุยกันบ้างตาม msn บางทีก็ขอยืมตังค์ผมบ้าง แต่ไม่เคยได้คืนหรอก คิดว่าทำบุญไป ผ่านไป 3 ปี เธอมีแฟนหลายคน แล้วผมก็มีแฟนใหม่ จนต้นปีนี้เธอเลิกกับแฟนคนล่าสุดแล้วกลับมาขอคืนดีกับผม ไม่รู้เธอใช้สมองส่วนไหนคิด ทำกันขนาดนี้แล้วจะคืนดีกันได้ยังไง บางทีก็บ่อน้ำตาแตกบอกว่าเค้าเลือกเดินทางผิด เราเริ่มต้นใหม่ได้มั้ย ทุกครั้งผมก็จะตอบเสมอว่า ไม่ได้เกลียดนะ แต่คงกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว ผมมีคนใหม่แล้วแฟนผมไม่ได้ผิดอะไรจะให้เลิกแล้วกลับไปคืนดีกันคงไม่ได้ เพื่อนๆพี่ๆว่ามันโหดพอมั้ยกับการรักใครแบบจริงใจซักคนแล้วก็มาลงเอยแบบนี้ หลายคนคงแปลกใจและอดโมโหไม่ได้ว่าทำไมผมถึงไม่ทำอะไรเลยก็เพราะว่าคนของเรามันผิดไงล่ะครับ ป่วยการที่จะใช้กำลัง สุดท้ายก็ไม่ได้เธอคืนมาอยู่ดี อยากได้ก็เอาไป ทุกวันนี้ก็ยังส่งข้อความมาขอคืนดีบ้าง ผมลบทิ้งตลอด ถึงแฟนผมจะรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจลบทิ้งไปซะดีกว่า ตอนนี้อายุเธอเข้าเลข 3 แล้วยังไม่มี ผ........คงเพราะเป็นเวรกรรมที่เธอทำไว้นั่นแหละ เลยไม่มีใครรักจริง ได้แล้วก็ทิ้งกันไป หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้คงสบายใจขึ้นบ้างนะครับท่าน
น่าสนใจครับ ทุกคนต่างมีเรื่องที่น่าจดใจและไม่น่าจดจำกัน ผมรบกวนเล่าเรื่องขอผมไว้ให้คิดนะครับ เมื่อช่วงปี 46 ผมได้เล่นแชท โปรแกรม pirch98 หลายท่านคงเคยเล่น ผมจำได้เลยว่าเข้าไปในห้อง "จีบกันได้" และได้เจอกับน้องคนนึงในนั้น ตามประสาชายโสดนะครับผม ผมก็จีบไปเรื่อย และได้เบอร์สาวมา 2-3 เบอร์ 1 ในนั้นคือแฟนผมในอีกปีต่อมา เรื่องของเรื่องคือผมว้อนท์ อยากดูหนังเรื่อง "แฟนฉัน" และผมไม่อยากไปดูคนเดียว พวกเพื่อนๆส่วนมากก็มีแฟนกันหมดแล้ว เลยชวนน้องคนนี้ไปดู(มารู้ที่หลังว่าน้องคนนี้เคยดูเรื่องนี้มาแล้วรอบนึง)
บ่าย 3 โมงเจอกันที่เซ็นฯ ปิ่นเกล้า ช่วงนั้นผมทำงานโรงพิมพ์กะกลางคืน พอไปถึงก็ดูหนังกันครับ ระหว่างหนังฉายไปสักพัก น้องคนนี้ก็ซบลงที่ไหล่ผมเฉยเลย(เพิ่งเจอกันนะเนี่ย) ผมก็ไม่คิดไรมาก ไม่กล้าขยับตัว กลัวคิดว่าผมรังเกียจเธอ แต่ใจก็คิดนะครับว่าน้องคนนี้กล้าจัง แต่เราเป็นผู้ชายนี่หว่าไม่เห็นเป็นไร อิๆ พอหนังจบเธอบอกว่า "พี่ต้องไปส่งหนูนะ" อ้าวเฮ้ย..แล้วพี่จะไปทำงานทันไหมเนี่ย? อ่ะ ส่งก็ส่ง..เธอก็บอกไปส่งแถวบางซื่อละกัน ครึ่งทาง สมัยนั้นผมยังไม่มีปัญญามีรถขับครับ เลยไปส่งเธอต่อรถที่ป้ายรถเมล์แถวบางซื่อครับ วันนั้นก็ไปทำงานสายจนได้ หลังจากนั้นทุกวันเธอก็เป็นฝ่ายรุกเดินหน้าแล้วฆ่าผม โทรมาทุกวันและขอผมคบเป็นแฟน ผมก็โอเคเลยครับ เพราะตอนนั้นโสดและไม่ได้คิดไรมาก เธอโทรมาก็ชวนผมไปนี่ไปโน้น ซึ่งผมเลิกงานเช้าก็กลับไปนอน นัดไว้ก็ให้เธอไปรอแล้วผมก็ไม่ได้ไปตามนัด จนที่สุดเธอก็ใช้ไม้ตาย นัดผมไป รร.เลยครับ(รร.= โรงแรม ไม่ใช่โรงเรียนนะครับ) เธอบอกว่าเป็น รร ของอาเธอครับ 3 ทุ่มของคืนนั้นผมก็ออกถีบตัวเองไปบนถนนลาดพร้าว ใจผมยังคิดเลยว่า มันเป็น รร ม่านรูดป่าวฟะ? อยู่ซะไกลเชียว อีกใจก็คิดเอาก็เอา ฟรีสไตล์ไม่มีเสียหาย ชายทั้งแท่ง 555 ไปถึงตามเลขห้องที่เธอเปิดรอไว้อยู่แล้ว เคาะประตู เธอเปิดออกมา กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียวพี่น้อง.. ผมคิดในใจอีกว่า งานนี้เสียตัวแน่เลยตรู อิๆ และก็เป็นตามคาด เธอบุกจู่โจมยังกะแม่เสือสาวหิวโหย (เล่ายังกะหนังติดเรท ฮ่าๆ)เอาเป็นว่าเราคบกันแบบเต็มตัวสมบูรณ์แบบแล้วครับ จากนั้นเธอก็เปิดห้องไว้อีกเช่นเคย ผมก็ไปอีกเช่นเคย เราก็เจอกันแบบนี้ครับ ไม่นานนักเธอก็ร้องอยากมาบ้านผม จังหวะพอดีตอนนั้นผมอยุ่คนเดียว คนอื่นไปทำงานต่าง จว. พ่อแม่ก็ไปเลี้ยงหลานบ้านพี่ผมครับ ช่วงนั้นผมก็เหงาและฟรีมาก จึงพาเธอมาบ้าน เธอปรนนิบัติทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำอาหารให้ผมทาน ทำงานบ้านทุกอย่าง และเรื่องนั้น..ก็ไม่มีขาดเช่นกัน(อย่าเพิ่งอิจฉาผมนะครับ เพราะมันทำให้ผมเสียคน หลงระเริงและเหลิงในที่สุด) ผมกลายเป็นคนเสียนิสัย ติดเรื่องนั้น..และเริ่มรักเธอมาก จากที่ไม่เคยคิดรักเลย คิดแค่สนุกและแก้เหงาในตอนแรก เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ผมลาออกจากงานเพราะกลัวห่างเธอ ซึ่งระหว่างทำงานเธอก็จะโทรหา นัดเจอ และทำให้ผมไม่เป็นอันอยากทำงานและลาออกในที่สุด เพื่อมีเวลาให้กันและกันเต็มที่ เธอไม่ได้ทำงานอะไรเลย โดยอ้างว่าดรอปเรียนมหาลัย หลังจากผมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ผมก็เริ่มหึงหวง เนื่องจากพฤติกรรมแปลกๆของเธอ ผมเริ่มสืบเสาะหาข้อมูลของเธอ ซึ่งเธอไม่ได้เรียนอะไรเลย อาไม่ได้เป็นเจ้าของ รร. และเธอมีป๋าส่งให้อยู่ห่างๆ และแอบนัดเจอกันในบางครั้ง ซึ่งผมจับได้เมื่อเธอกลับมาจากการไปหาป๋าคนนั้นด้วยเงิน 7พันบาท โดยที่วันนั้นทั้งวันผมโทรหาเธอๆไม่รับสายเลย ด้วยความที่ผมเป็นคนอยากรู้ความจริงและต้องสืบให้ได้ จิงได้แอดคอนแท็คเพื่อนของเธอในเอ็มฯของเธอ มา ซึ่งจริงๆคือแฟนเก่าเธอนั่นแหละ และไม่ว่าผมจะหูเบา จะเชื่อหรือไม่ที่แฟนเก่าเธอบอกเรื่องต่างๆของเธอให้ฟัง ผมก็หน้ามืดตามัวไปแล้วครับ และหึงหวงระแวงเธอมากขึ้น ด้วยความที่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป คิดไม่เป็นและหึงหวง จึงคอยเช็คเบอร์โทรเข้า-ออกของเธอ และได้รู้เรื่องของเธอมากขึ้น อาทิเธอเคยเป็นกรุ๊ปปี้และเป็นภรรยาน้อยของวงดนตรี "12 ปีก"ย่านอโศก ซึ่งผมโทรคุยกับนักดนตรีคนนั้นเองเลย จากเบอร์แมสเสจที่นักดนตรีคนนั้นส่งมาหาเธอในช่วงที่ผมอยู่กับเธอที่บางแสน ซึ่งมันเป็นเรื่องอดีตผ่านมาแล้ว แต่ใจผมตอนนั้นคิดไม่ตก รักก็รัก อยากเลิกก็อยากเลิก จนบอกเลิกเธอๆก็ไม่ยอม และผมก็ใจอ่อน จนแล้วจนรอดก็ทู่ซี้คบกันเรื่อยมา อาจจะด้วยเซ็กส์และความผูกพันก็แล้วแต่ และผมก็เริ่มไม่ไว้ใจเธออีกและระแวงเรื่อยมา ซึ่งผมอาจคิดไปเองจากที่ได้ยินเรื่องเก่าๆของเธอ แต่ก็มีบ้างที่เธอโกหกผม และโกหกเรื่อยมา จนผมสงสัยและคิดไปต่างๆนานา เราคบกันก็ทะเลาะกัน3วันดี 4วันไข้ตลอด ซึ่งผมคงเพี้ยนและระแวงมากไปจนฟุ้งซ่าน(คนนี้คือแฟนที่คบจริงจังคนแรก) จนเธอเองเริ่มทนไม่ไหวและเริ่มเปิดมองหาคนใหม่ๆ แทนที่ผม ซึ่งก็สมควรกับสิ่งที่ผมทำนะครับ แต่ตอนนั้นผมไม่เคยเข้าใจเลย ผมกลับทำเรื่องต่างๆ และก้าวก่ายเรื่องเธอมากไป จนยากที่เธอจะทนอีกต่อไป
คืนวันฮาโลวีน ปี 49 ผมโทรไปนัดเธอไปเซ็นทรัล และส่งแมสเสจไปหาเธอย้ำว่าพรุ่งนี้เจอกัน "คิดถึงฝันดี"ตามเคย โดยผมรู้สึกผิดและอยากซื้อรองเท้าให้เธอสักคู่ เห็นเธอบ่นอยากได้มานาน ตอนนั้นผมก็ไม่มีตังค์ คืนนั้นนอนไม่ค่อยหลับและคิดอยากให้ถึงเช้าไวไว จะได้เจอเธอและซื้อรองเท้าให้เธอ
เช้าแล้ว ผมโทรหาเธอ ๆ ปิดเครื่อง? ใจผมร้อนรน และรู้สึกแปลกๆ กระสับกระส่ายมาก เที่ยงแล้ว ผมโทรหาเธอ ๆ ปิดเครื่องอีก? บ่ายผมโทรหาอีก คราวนี้เธอรับสายพร้อมเสียงงัวเงีย "ฮัลโหล ไม่ค่อยสบายอ่า ปวดหัว นอนอยู่ห้อง" .......ผมอดคิดและสงสัยไม่ได้ว่า นัดกันแล้วนี่นา เมื่อคืนผมก็แมสเสจไป เธอยังตอบกลับมาเลยว่าเจอกัน..และปกติดีทุกอย่าง ไม่รู้เป็นไรใจผมคิดว่าเธอไม่ได้อยู่ห้องเธอแน่ๆ จากที่ลังเลอยู่นานและคิดว่าจะเลิกหรือไม่ กับเรื่องราวไม่ดีหลายอย่างที่ผ่านมา ผมทนไม่ไหวและคิดว่า ไปหาเธอเลยดีกว่า พร้อมเอาเสื้อผ้าและของใช้ของเธอติดไปด้วย หากเธออยู่ห้องจริงผมก็จะกลับพร้อมสัมภาระที่นำมา หากเธอไม่อยู่ห้องเธอจริง ผมก็จะฝากของๆเธอกับแม่ของเธอไว้ และคิดว่าจบกันที
...เมื่อไปถึงห้อง แม่เธอเปิดประตูออกมา(แม่เธอไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไร และอยากให้ลูกสาวเธอเจอกับคนที่มีเงินดูแลเธอและครอบครัวเธอได้) แม่เธอบอกกับผมว่า เธอไม่อยู่ไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่กลับ...
.....(Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?Huh??) ผมยืนถือของๆ เธอนิ่งไปพอสมควร และฝากของๆเธอให้กับแม่เธอ และเดินกลับออกมาอย่างใจลอย...และหมดแรงยังไงบอกไม่ถูก ใจคิดไปต่างๆนานา ว่าไปกับใคร ทำอะไรอยู่ และรู้สึกว่าผมเสียเธอไปแล้วจริงๆ ผมแวะ7-11 ซื้อน้ำดื่มและนั่งพักแถวนั้น สงบสติอารมณ์ และกลับบ้านไปนอน โดยระหว่างทางก็โทรไปหาเธอตลอด เธอก็ปิดเครื่องตลอดเช่นกัน ผมไม่รู้ที่ทำไปแบบนี้ถูกหรือผิด แต่เหมือนเป็นการตบหน้าเธออย่างแรง จากนั้นผมโทรไปเธอก็ให้แม่เธอรับสาย และบอกกับผมว่าเธอกลับไปคบแฟนเก่าหรือมีแฟนใหม่ ผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วในตอนนั้น ผมขอคุยกับเธอ เธอก็บอกไม่คุย จากนั้นเราก็จบกัน ผมทำอะไรไม่ได้เกือบ 4 เดือน ตกงาน ดื่มทุกวันเกือบเช้า นอนหลับอย่างเดียวตื่นมาก็เย็นแล้ว ๆก็ดื่มต่อทุกวัน จนที่ทำงานเก่าเรียกกลับไปทำงาน จึงผ่านพ้นมาได้ อยากบอกว่าที่ผ่านมา ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกครับ คนเราคบกัน2คน มีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรักษาความรักไว้ได้ดีหรือไม่ หากเป็นรักที่ดีควรรักษามันไว้ หากมันไม่ดีมีแต่ปัญหาต้องตัดใจและผ่านพ้นมันไปให้ได้ครับ แต่เหตุการณ์นี้ของผม ๆขอรับผิดคนเดียว ที่ผมไปยุ่งเกี่ยวกับเธอ หากผมไม่คิดจริงจังกับเธอจนเลยเถิดเรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้น ผมรักเธอครับ จนทุกวันนี้ผมก็ยังคิดถึงเธอเสมอ ทุกวันนี้ผมยังไม่มีใครใหม่เป็นตัวเป็นตนอีกเลย ผมยังจดจำเรื่องดีๆ ของเธออยู่เสมอ ส่วนเรื่องที่ไม่ดี ผมไม่จำครับ ได้แต่เฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ ในโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ค โดยนานๆที ก็จะแอบแวะเข้าไปดูเพจ ของเธอบ้าง โดยไม่แอดเธอไว้(ถึงแอดเธอก็คงไม่รับ) มันจบไปนานแล้วครับ ปีนี้ก็ จะ5ปีผ่านแล้ว ผมยังไม่ลืมเธอ และนึกถึงเรื่องดีๆ ในอดีตอยู่เสมอ แต่ทุกอย่างมันผ่านพ้นมาแล้วครับ ถึงตอนนี้ผมยังไม่มีใคร มีเหงาบ้างแต่ก็ได้มีสติ และความคิดมากขึ้นครับ


นับถือเลยครับ
บันทึกการเข้า

TOYO_DA Huh?
purewhite
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #82 เมื่อ: 23 เมษายน 2011 00:27:00 »

เคยผ่านมาแล้วครับ ขอบอกว่าฟ้าหลังฝนนี่มันสุดๆคับ อยากให้ลอง ยังไงซะ AE เรายังมีคนรอคิวนั่งเพียบครับ มั่นใจในตัวเองไว้ครับ ผมนี่จีบทิ้งจีบขว้างเลยครับ ใช้ AE นี่แหละ
บันทึกการเข้า
sudteen
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 154



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #83 เมื่อ: 23 เมษายน 2011 11:15:05 »

เศร้า คนไหนรักกับเรา เรา รักก็ตอบ ครับ คนไหนไม่รักเราไม่แคร์เรา  ก็ไม่ต้องไปสนใจ ..มัน ครับ....
ยิ่งสนใจเขายิ่งหนีค่ะ ปล่อยไปซะ หาใหม่ใหญ่กว่าเดิมไปเลย
บันทึกการเข้า
n_a
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 822


เรียบๆ หวานๆ ใช้งานได้ก็พอ!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #84 เมื่อ: 23 เมษายน 2011 12:47:58 »

ชีวิตจริงเม้งโครตเจ็บปวดเลย
เป็นคำสั้นๆแต่เเป็นเรื่องจริงเลยครับ ชีวิตจริงนี้สุดๆผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวมาก ยกธงขาว
บันทึกการเข้า

แอร์ก็ไม่เย็น เพลงก็หมอลำ!!!
โนสคุง ป๋าแพนด้า
นักแข่งมือสมัครเล่น
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 289


ae92 คร้าบ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #85 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2011 10:39:40 »

เป็นกระทู้ที่ hot มากครับ กว่าจะไล่อ่านจบหลายอารมณ์มากครับ
ไม่ทราบว่าตอนนี้ จขกท มีแฟนใหม่รึยังครับ?

ถ้าคุณพบกับความเหงาจงเป็นเพื่อนกับมันไว้
เพราะถ้าคุณไม่รู้จักกับความเหงา คุณจะหายเหงาได้อย่างไร
บันทึกการเข้า

หน้า:  «  1 ... 3 4 [5]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!