ตอนนี้ผมใช้หม้อน้ำมีเนียม หนา 55mm ชนิด fin ตั้ง ท่อน้ำเข้า-ออกอยู่แนวเดียวกัน พัดลมไฟฟ้า 2 ตัว ต่อผ่าน thermostat

เมื่อความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางแล้ว (เกจ์ความร้อนขึ้น = 3 ใน 4 ส่วน) พัดลมจึงจะทำงาน พอทำได้แป๊บเดียวก็หยุด (ความร้อนลดลงมาอยู่ตรงกึ่งกลาง = 2 ใน 4 ส่วน)
ปัญหาตอนนี้ที่เจอคือ ความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางไป พอพัดลมทำงานก็จะลงมาเหลือตรงกึ่งกลาง (โดยปกติที่เคยเห็น ส่วนใหญ่ความร้อนควรจะต่ำกว่ากึ่งกลาง = 1.5 ใน 4 ส่วน)
และ แอร์ไม่เย็น

ทั้งๆ ที่มีพัดลมเป่าแผงแอร์ด้านหน้า (วันแรกที่เอารถออกจากอู่นี่ฝ้าขึ้นกระจกเลยอ่ะครับ) เลยไม่รู้ว่ารถผม ปกติเหมือนคนอื่นๆ มั๊ยครับ มีวิธีแก้ยังไงบ้างอ่ะคับ

เรื่องแอร์ไม่เย็นคงได้คำตอบกันแล้ว
ผมฝากเรื่องเกจวัดที่ติดมากะรถครับ รถรุ่นเราส่วนใหญ่อายุมากกว่า 10ปี เกจวัดความร้อนมันถูกใช้งานมานาน
มันเป็นแบบไม่ได้บอกค่าเป็นตัวเลข เราเลยไม่ขัดเจนว่ามันร้อนกี่องศา อีกทั้งsensor วัดอุณหภูมิของหลายคนน่าจะมีขี้ตะกรันจับซะหนาพอควร
การแสดงผลของเกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์อาจจะช้ากว่าความเป็นจริง
ประสบการณ์ตรง รถผมเคยฮีทควันท่วมฝากระโปรง แต่เกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์ยังอยู่ตรงกลางอยู่เลย พอน้ำแห้งหมดมันถึงวิ่งไปหาขีดแดง
ทุกวันนี้ รถทุกคันใส่เกจวัดแบบแสดงผลเป็นตัวเลข และตรวจสอบsensorทุกปีครับ
เกจวัดอุณหภูมิน้ำและน้ำมันเครื่อง ควรจะมีติดรถไว้นะ
ที่สำคัญ อุณหภูมิของทั้งสองตัว ไม่ควรร้อนเกิน 100C หากเกินควรหาทางแก้ไขครับ