AE. Racing Club
03 พฤศจิกายน 2024 03:32:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4  »    ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หม้อน้ำอลูมิเนียม ทำให้เครื่องเย็นลงมากแล้วจะถนอมเครื่องจริงมั้ยครับ  (อ่าน 32178 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
samphop
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 เมษายน 2011 00:53:34 »

              หม้อน้ำอลูมิเนียม ทำให้เครื่องเย็นลงมากแล้วจะถนอมเครื่องจริงมั้ยครับ หรือเหมาะสำหรับรถซิ่งเท่านั้น
             
              คือถ่ามันถนอมเครื่องในระยะยาวได้ก็ว่าจะเก็บหอมรอมริบด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดซื้อมาใส่สักชุด  อ้อน
บันทึกการเข้า
TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 00:54:47 »

เย็นไป การสึกหรอสูงครับ

ต้องพอดี พอดีครับ  ซุบซิบ
บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
hp_6365
นักแข่งมืออาชีพอันดับสาม
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 587



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 01:12:21 »

ใส่ทำไมอ่ะ
บันทึกการเข้า

รัก.............................รัก
Zkr
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,371



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 05:12:34 »

มันเย็นลงกว่าเดิมยังไงครับ
ในเมื่อมันมี วาล์วหม้อน้ำคอยคุ้มระดับอุณหภูมิความร้อนให้ได้ตามเกณฑ์ของมันอยู่
จะเปลี่ยนเป็นทองแดง อลู ถ้าไม่ตะบี้ตะบันเหยียบแช่นานๆ มันก็ไม่ต่างกันหรอกมั่งครับ

ทองแดง 2 ชั้นก็คายความร้อนดีอยู่แล้วครับ ถ้าไม่เชื่อลองถอดวาล์วน้ำดู แล้วเอาไปขับ วิ่ง 60-80 ระดับความร้อนลดลงฮวบๆ ขีดจะชี้ที่ประมาณ 1/4 ของเกจวัด พอหยุดไฟแดงมันก็จะขึ้นมาที่ระดับความร้อนปรกติของเครื่องยนต์ ที่โรงงานกำหนดมา

ผมเคยวาล์วน้ำทะลุมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าหม้อทองแดงมันก็ไม่ได้ระบายความร้อนได้ช้าอะไรเลยสักนิด

ส่วนถ้าร้อนจัดๆ ร้อนมากๆ ทำ 3 ชั้นไปเลย คิดว่าน่าจะดีกว่า 2 ชั้นอลูมิเนียมด้วยน่ะ เพราะผมเคยอ่านพวกรถใหญ่ๆ เค้าใส่ 2 ชั้นแล้วมันยังร้อนอยู่ เกจขึ้นเกินครึ่งมีปัญหาความร้อน สุดท้ายไปลงเอยที่ 3 ชั้น ก็สบายกระเป๋ากันไป

ปริมาณน้ำเยอะทำให้น้ำมีเวลาพอที่จะถ่ายเทความร้อนไปกับอากาศได้มากขึ้น
บันทึกการเข้า
PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 06:08:07 »

หม้อน้ำมิเนียม 1 ช่องก็มีครับ ดีตรงไม่ค่อยมีสนิม ไม่ค่อยตันเท่าไร เอาป่าวครับขายให้ถูกๆ กองอยู่เกะกะ พอดีใส่ของซิ่งไปหมดแล้ว

ผมก็ไม่รู้ว่าอันไหนมันระบายได้ดีกว่ากัน แต่ตามหลักแล้ว เหล็กน่าจะอมความร้อนดีกว่าพวกมิเนียม(คือเย็นก็เย็นกว่า ร้อนก็ร้อนกว่า) ทำให้มันคายความร้อนได้ช้ากว่าละมั้ง

ต้องรอผู้รู้มาอธิบาย
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 07:37:50 »

เขาใจอะไรกันผิดแล้วละมั่ง หม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อน ไม่ได้มีหน้าที่ กำหนดความร้อนเย็น ครับ

เครื่องร้อนเย็นขึ้นอยู่กับ วาร์วน้ำควบคุม

ยกตัวอย่างง่าย ๆ

ถ้ามีความร้อย มา 100 องศา และต้องระบายความร้อนลงมาให้เหลือระดับ 80 องศา

เหล้ก      ใช้เวลาระบาย 2 นาที
ทองแดง  ใช้เวลาระบาย 1.30 นาที
มิเนียม    ใช้เวลาระบาย 1 นาที

ทั้งหมดระบายออกมา แล้วได้ความร้อน 80 องศา เท่ากันหมดแต่ระยะเวลา ในการระบายไม่เท่ากัน เท่านั้นเอง

จริงแล้ว หม้อน้ำนะถ้าจะให้ระบายดี พื้นที่หน้าตัดกว้าง  ดีกว่า หนานะครับ  เพราะหนาตัวแปร ที่ตามมาอีกอย่างคือ ความแรงของลมที่มาช่วยระบาย จะลดลง ทำให้ระบายได้ช้าลง มันต้องพอดีครับ บางไปก็ไม่ดี หนาไปก็ใช้ว่าจะดี

ก็เหมื่อนกับน้ำแข็ง ก้อน ใหญ่  2 ก้อน

1.ก้อนหนาใหญ่ ละลายช้า
2.อีก 1 ก้อนทำให้มัน ละเอียด ละลายได้เร็ว พื้นที่หนาตัดมากกว่า ผิวสำผัสอากาศเยอะกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2011 07:44:55 โดย ¥Fair500¥¥¥んーーーーーーーー » บันทึกการเข้า

ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 07:39:05 »

เย็นไป การสึกหรอสูงครับ

ต้องพอดี พอดีครับ  ซุบซิบ

ถามน้านิดครับ น้ำมันเครื่อง นี้ ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง
บันทึกการเข้า

b a n a n a o a t
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,738


อยู่เฉยๆก็ไม่เสียตังค์นะจ๊ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 08:30:38 »

หม้อน้ำมิเนียม 1 ช่องก็มีครับ ดีตรงไม่ค่อยมีสนิม ไม่ค่อยตันเท่าไร เอาป่าวครับขายให้ถูกๆ กองอยู่เกะกะ พอดีใส่ของซิ่งไปหมดแล้ว

ผมก็ไม่รู้ว่าอันไหนมันระบายได้ดีกว่ากัน แต่ตามหลักแล้ว เหล็กน่าจะอมความร้อนดีกว่าพวกมิเนียม(คือเย็นก็เย็นกว่า ร้อนก็ร้อนกว่า) ทำให้มันคายความร้อนได้ช้ากว่าละมั้ง

ต้องรอผู้รู้มาอธิบาย

สนใจหม้อน้ำพี่ครับ
บันทึกการเข้า

Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,158


3S-GE Doraemonster 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 09:23:36 »

ถ้าทั่วไปไม่ต้องก็ได้ครับ

ถ้ามีเกจวัดจะรู้ได้ชัดกว่าครับว่าควรเปลี่ยนหรือเปล่า

อย่างรถผมเองใส่ทองแดง มันระบายช้ากว่าอลูมิเนียมเยอะเลยครับ

อย่างรถผมวาวน้ำเปิด72 พัดลมเปิด82

ถ้ารถติดเนี่ยความร้อนผมขึ้นไปไม่เกิน85-87 แล้วลดลง 82อย่างรวดเร็วแสดงว่ามันระบายทัน

แต่หม้อน้ำทองแดงอันเก่าผม ดันขึ้นไป95แล้วค่อยๆลดลงครับ

สรุปว่าอลูมิเนียมดีกว่าเบากว่าคายความร้อนได้ไวกว่า แต่มันจำเป็นสำหรับรถคุณหรือเปล่าอันนี้ต้องลองถามตัวเองดูครับ เพราะรถหลายๆคนในคลับเราก็เป็นทองแดงซึ่งมันก็ใช้ได้ปกติครับผม
บันทึกการเข้า

Handyman
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,473


You are alway all my mine


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:10:38 »

เขาใจอะไรกันผิดแล้วละมั่ง หม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อน ไม่ได้มีหน้าที่ กำหนดความร้อนเย็น ครับ

เครื่องร้อนเย็นขึ้นอยู่กับ วาร์วน้ำควบคุม

ยกตัวอย่างง่าย ๆ

ถ้ามีความร้อย มา 100 องศา และต้องระบายความร้อนลงมาให้เหลือระดับ 80 องศา

เหล้ก      ใช้เวลาระบาย 2 นาที
ทองแดง  ใช้เวลาระบาย 1.30 นาที
มิเนียม    ใช้เวลาระบาย 1 นาที

ทั้งหมดระบายออกมา แล้วได้ความร้อน 80 องศา เท่ากันหมดแต่ระยะเวลา ในการระบายไม่เท่ากัน เท่านั้นเอง

จริงแล้ว หม้อน้ำนะถ้าจะให้ระบายดี พื้นที่หน้าตัดกว้าง  ดีกว่า หนานะครับ  เพราะหนาตัวแปร ที่ตามมาอีกอย่างคือ ความแรงของลมที่มาช่วยระบาย จะลดลง ทำให้ระบายได้ช้าลง มันต้องพอดีครับ บางไปก็ไม่ดี หนาไปก็ใช้ว่าจะดี

ก็เหมื่อนกับน้ำแข็ง ก้อน ใหญ่  2 ก้อน

1.ก้อนหนาใหญ่ ละลายช้า
2.อีก 1 ก้อนทำให้มัน ละเอียด ละลายได้เร็ว พื้นที่หนาตัดมากกว่า ผิวสำผัสอากาศเยอะกว่า

เดี๋ยวนี้ความรู้แน่นเลยนะน้องชาย อิอิ

ยืนยันตามนี้ครับ
บันทึกการเข้า

++ รถยนต์เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แรงด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์ ++ http://www.facebook.com/handyman.aoud

รับซื้อรถมือสอง , รับจำนำรถ ,รับปรึกษาปัญหาของรถยนต์ ฟรี
TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:22:39 »

เย็นไป การสึกหรอสูงครับ

ต้องพอดี พอดีครับ  ซุบซิบ

ถามน้านิดครับ น้ำมันเครื่อง นี้ ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง

จบ ออกแบบ อ่ะนะน้าแฟร มีก้อแต่ที่ค้นๆ เจอ ซุบซิบ

อย่างรถผม (ไม่เคยวัดอุณหภูมิ นมค นะ)
ใช้ แก๊สแอลพีจี + หม้อน้า เหล็ก 1 ช่อง

หากวาวล์น้ำทำงานปรกติ ขับรถในสถาณการปรกติ
หม้อน้ำและพัดลม ถ่ายเทความร้อนให้ นมค ทัน
ก้อจะไม่เจอปัญหาอะไร


ที่แฟร ถามผมว่า "ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง"

ความร้อน น้อยสุด  บ้านเรา ไปไม่ถึงอ่ะน้าแฟร์ -39 เซลเซียสแหน่ะ ถึงจะแข็งตัว ไม่ใหล

ดังนั้น เครื่องเย็น ไม่มีผลต่อการสึกหรอ เพราะเย็นไม่ถึง -39


ส่วน ความร้อนสูงสุด ไม่ได้มีระบุไว้
แต่ยิ่งร้อน ยิ่งหนืดน้อย แรงยึดเกาะต่อชิ้นส่วนน้อย
ชั้นน้ำมันเครื่อง ที่เป็นฟีล์ม เคลือบชิ้นส่วน
จะบางลง จนไม่สามารถหล่อลื่นได้

มีกรณีเดียวคือ ระบบ ถ่ายเทความร้อนล้มแหลว
ในกรณี ซวยๆ แบบนั้น
เครื่องที่มี ความหนืดในช่วง ซัมเมอร์ (เลขชุดหลัง) เยอะๆ 50 -60 จะลาโลก ช้ากว่า 30-40


ขอบคุณ การให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ จาก ฝ่ายเทคนิค ปตท + เชลส เฮลิคส์ ครับ

ปล.

เลขบน ฉลาก นมค

0w - 40

0W ก้อเปน วินเทอร์แกรด (อุณหภูมิต่ำสุด)

40 เปน ซัมเมอร์ แกรด (ค่าความใส/ความหนืดที่ อุณหภูมิสูง)

--------------------------------------------------------------------------

ข้อความจาก http://www.civicesgroup.com/forum/topic26523  บาย ขอบคุงคร๊าบ



น้ำมันทุกชนิดจะมีความหนืด หรือที่เราเรียกว่า ความข้นเหนียว โดยธรรมชาติ
ความหนืดนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ

เช่น เมื่อได้รับความร้อนน้ำมันจะใส และ

เมื่อได้รับความเย็นน้ำมันจะข้น

ความหนืดของน้ำมันจะมีหน่วยวัดเป็น เซนติสโตรก

โดยหลักการวัดค่าความหนืดนั้น ถ้าพูดกันอย่างง่ายๆ
จะนำน้ำมันปริมาณ 60 cc. มาทำให้ร้อนที่ 100 C
บรรจุใส่ในหลอดแก้วที่มีรูขนาดเล็กทางด้านปลายหลอด
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มม เพื่อปล่อยให้น้ำมันไหล

แล้วจับเวลาว่าปริมาณน้ำมัน 60 cc . นั้นจะไหลหมดภายในกี่วินาที
จากนั้นจึงนำไปคำนวณเพื่อหาค่าออกมาเป็นเซนติสโตรก แล้วเทียบว่าเป็นน้ำมันเบอร์ความหนืด SAE อะไร

SAE ย่อมาจาก The Soceity of Automotive Engineer
ซึ่งเป็นสมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาโดยที่ SAE
จะเป็นผู้กำหนดเบอร์ความหนืดของน้ำมันเครื่อง

โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ น้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูหนาวและน้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูร้อน
โดยที่เบอร์ความหนืดของน้ำมันเครื่องในกลุ่มฤดูหนาว จะมีตัว W ซึ่งย่อมาจาก Winter ต่อท้าย

เบอร์ความหนืดในกลุ่มนี้ ได้แก่ 0W,5W,10W,15W,20W,25W
และวัดค่าความหนืดที่อุณหภูมิ -30 C ถึง - 5 C เบอร์ที่น้อยจะใสและเบอร์ที่มากกว่าข้นกว่า

ส่วนใหญ่ความหนืดสำหรับน้ำมันในกลุ่มฤดูร้อน
ได้แก่ SAE 20,30,40,50,60

โดยวัดค่าความหนืดที่ 100 C เช่นเดียวกัน
เบอร์ที่น้อยจะใสและเบอร์ที่มากจะข้น

ในอดีตนั้นผู้ใช้รถจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป เช่น
เมื่อถึงฤดูหนาว(-15C) ก็จะต้องใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่มี W ต่อท้าย ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับฤดูหนาว

และเมื่อถึงฤดูร้อน(25C)ก็ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูหนาวออก
เนื่องจากน้ำมันจะใสเกินไปไม่เหมาะกับการใช้งานในฤดูร้อน และเปลี่ยนมาใช้น้ำมันสำหรับฤดูร้อนแทน

ซึ่งเป็นการยุ่งยาก ดังนั้นจึงมีการพัฒนาน้ำมันที่เรียกว่า น้ำมันมัลติเกรดขึ้นมาเพื่อให้ใช้ได้ตลอดทั้งปี

สำหรับในบ้านเราเบอร์น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมนั้นมีหลายเบอร์ด้วยกันสามารถใช้ได้ทั้งนั้น แต่ที่
นิยมใช้กันมาก ได้แก่เบอร์ SAE 15W/40 และ 20W/50
 แต่ถ้าจะใช้เบอร์ต่างไปจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ขอให้เบอร์ความหนืดในช่วงฤดูร้อนเป็นเบอร์ 30 ขึ้นไปก็ใช้ได้

-------------------------------------------------------

จากที่โทรคุยกะช่างเทคนิค ปตท นะ
อุณหภูมิที่เหมาะสม ต้องดูอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง
แล้ว มาเลือก น้ำมันเครื่องให้เหมาะ แกจะหารายละเอียดเมลให้ผมอีกที  แหะ.. แหะ..

---------------------------------------------------------

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2011 15:43:56 โดย TAOTAO-TZ#056- » บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:43:04 »

เขาใจอะไรกันผิดแล้วละมั่ง หม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อน ไม่ได้มีหน้าที่ กำหนดความร้อนเย็น ครับ

เครื่องร้อนเย็นขึ้นอยู่กับ วาร์วน้ำควบคุม

ยกตัวอย่างง่าย ๆ

ถ้ามีความร้อย มา 100 องศา และต้องระบายความร้อนลงมาให้เหลือระดับ 80 องศา

เหล้ก      ใช้เวลาระบาย 2 นาที
ทองแดง  ใช้เวลาระบาย 1.30 นาที
มิเนียม    ใช้เวลาระบาย 1 นาที

ทั้งหมดระบายออกมา แล้วได้ความร้อน 80 องศา เท่ากันหมดแต่ระยะเวลา ในการระบายไม่เท่ากัน เท่านั้นเอง

จริงแล้ว หม้อน้ำนะถ้าจะให้ระบายดี พื้นที่หน้าตัดกว้าง  ดีกว่า หนานะครับ  เพราะหนาตัวแปร ที่ตามมาอีกอย่างคือ ความแรงของลมที่มาช่วยระบาย จะลดลง ทำให้ระบายได้ช้าลง มันต้องพอดีครับ บางไปก็ไม่ดี หนาไปก็ใช้ว่าจะดี

ก็เหมื่อนกับน้ำแข็ง ก้อน ใหญ่  2 ก้อน

1.ก้อนหนาใหญ่ ละลายช้า
2.อีก 1 ก้อนทำให้มัน ละเอียด ละลายได้เร็ว พื้นที่หนาตัดมากกว่า ผิวสำผัสอากาศเยอะกว่า

เดี๋ยวนี้ความรู้แน่นเลยนะน้องชาย อิอิ

ยืนยันตามนี้ครับ

ผมยืนยันตามพี่นั้นละครับ อุอุ ดูพี่เป็นตัวอย่าง

"รถยนต์เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แรงด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์ "

บันทึกการเข้า

ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:50:38 »

เอาไปอ่านกันนะครับ จะได้รู้ว่า จริงๆ แล้วเย็น ไม่มีผลต่อความสึกหรอ มีพี่น้องใจบูญขุดมาให้อ่านแล้ว ผมไม่อยากตอบ เบื่อคำถามเดิมๆ กลัวว่าเย็น แล้วจะสึกหรอสูง

ร้อนนั้นละครับ ตัวดีเลย สึกหรอเร็ว อุปกรณ์ภายในที่เป็นซิลก็พังง่าย แข็งง่าย อุปกรณ์รอบข้าง ก็กรอบเร็ว ใครที่ว่าเครื่องเย็น พังง่ายกว่าเครื่องร้อน ก็ลองมาอ่านดู



ขอบคุณน้ามากสำหรับข้อมูลดี ที่ถาม เพื่อให้ตอบแล้วได้ความรู้ เพิ่มครับ

ขอบคุณมากครับ

เย็นไป การสึกหรอสูงครับ

ต้องพอดี พอดีครับ  ซุบซิบ

ถามน้านิดครับ น้ำมันเครื่อง นี้ ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง

จบ ออกแบบ อ่ะนะน้าแฟร มีก้อแต่ที่ค้นๆ เจอ ซุบซิบ

อย่างรถผม (ไม่เคยวัดอุณหภูมิ นมค นะ)
ใช้ แก๊สแอลพีจี + หม้อน้า เหล็ก 1 ช่อง

หากวาวล์น้ำทำงานปรกติ ขับรถในสถาณการปรกติ
หม้อน้ำและพัดลม ถ่ายเทความร้อนให้ นมค ทัน
ก้อจะไม่เจอปัญหาอะไร


ที่แฟร ถามผมว่า "ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง"

ความร้อน น้อยสุด  บ้านเรา ไปไม่ถึงอ่ะน้าแฟร์ -39 เซลเซียสแหน่ะ ถึงจะแข็งตัว ไม่ใหล

ดังนั้น เครื่องเย็น ไม่มีผลต่อการสึกหรอ เพราะเย็นไม่ถึง -39


ส่วน ความร้อนสูงสุด ไม่ได้มีระบุไว้
แต่ยิ่งร้อน ยิ่งหนือน้อย แรงยึดเกาะต่อชิ้นส่วนน้อย
ชั้นน้ำมันเครื่อง ที่เป็นฟีล์ม เคลือบชิ้นส่วน
จะบางลง จนไม่สามารถหล่อลื่นได้

มีกรณีเดียวคือ ระบบ ถ่ายเทความร้อนล้มแหลว
ในกรณี ซวยๆ แบบนั้น
เครื่องที่มี ความหนืดในช่วง ซัมเมอร์ (เลขชุดหลัง) เยอะๆ 50 -60 จะลาโลก ช้ากว่า 30-40


ขอบคุณ การให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ จาก ฝ่ายเทคนิค ปตท + เชลส เฮลิคส์ ครับ

ปล.

เลขบน ฉลาก นมค

0w - 40

0W ก้อเปน วินเทอร์แกรด (อุณหภูมิต่ำสุด)

40 เปน ซัมเมอร์ แกรด (ค่าความใส/ความหนืดที่ อุณหภูมิสูง)

--------------------------------------------------------------------------

ข้อความจาก http://www.civicesgroup.com/forum/topic26523  บาย ขอบคุงคร๊าบ



น้ำมันทุกชนิดจะมีความหนืด หรือที่เราเรียกว่า ความข้นเหนียว โดยธรรมชาติ
ความหนืดนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ

เช่น เมื่อได้รับความร้อนน้ำมันจะใส และ

เมื่อได้รับความเย็นน้ำมันจะข้น

ความหนืดของน้ำมันจะมีหน่วยวัดเป็น เซนติสโตรก

โดยหลักการวัดค่าความหนืดนั้น ถ้าพูดกันอย่างง่ายๆ
จะนำน้ำมันปริมาณ 60 cc. มาทำให้ร้อนที่ 100 C
บรรจุใส่ในหลอดแก้วที่มีรูขนาดเล็กทางด้านปลายหลอด
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มม เพื่อปล่อยให้น้ำมันไหล

แล้วจับเวลาว่าปริมาณน้ำมัน 60 cc . นั้นจะไหลหมดภายในกี่วินาที
จากนั้นจึงนำไปคำนวณเพื่อหาค่าออกมาเป็นเซนติสโตรก แล้วเทียบว่าเป็นน้ำมันเบอร์ความหนืด SAE อะไร

SAE ย่อมาจาก The Soceity of Automotive Engineer
ซึ่งเป็นสมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาโดยที่ SAE
จะเป็นผู้กำหนดเบอร์ความหนืดของน้ำมันเครื่อง

โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ น้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูหนาวและน้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูร้อน
โดยที่เบอร์ความหนืดของน้ำมันเครื่องในกลุ่มฤดูหนาว จะมีตัว W ซึ่งย่อมาจาก Winter ต่อท้าย

เบอร์ความหนืดในกลุ่มนี้ ได้แก่ 0W,5W,10W,15W,20W,25W
และวัดค่าความหนืดที่อุณหภูมิ -30 C ถึง - 5 C เบอร์ที่น้อยจะใสและเบอร์ที่มากกว่าข้นกว่า

ส่วนใหญ่ความหนืดสำหรับน้ำมันในกลุ่มฤดูร้อน
ได้แก่ SAE 20,30,40,50,60

โดยวัดค่าความหนืดที่ 100 C เช่นเดียวกัน
เบอร์ที่น้อยจะใสและเบอร์ที่มากจะข้น

ในอดีตนั้นผู้ใช้รถจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป เช่น
เมื่อถึงฤดูหนาว(-15C) ก็จะต้องใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ที่มี W ต่อท้าย ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับฤดูหนาว

และเมื่อถึงฤดูร้อน(25C)ก็ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องที่ใช้ในฤดูหนาวออก
เนื่องจากน้ำมันจะใสเกินไปไม่เหมาะกับการใช้งานในฤดูร้อน และเปลี่ยนมาใช้น้ำมันสำหรับฤดูร้อนแทน

ซึ่งเป็นการยุ่งยาก ดังนั้นจึงมีการพัฒนาน้ำมันที่เรียกว่า น้ำมันมัลติเกรดขึ้นมาเพื่อให้ใช้ได้ตลอดทั้งปี

สำหรับในบ้านเราเบอร์น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมนั้นมีหลายเบอร์ด้วยกันสามารถใช้ได้ทั้งนั้น แต่ที่
นิยมใช้กันมาก ได้แก่เบอร์ SAE 15W/40 และ 20W/50
 แต่ถ้าจะใช้เบอร์ต่างไปจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ขอให้เบอร์ความหนืดในช่วงฤดูร้อนเป็นเบอร์ 30 ขึ้นไปก็ใช้ได้

-------------------------------------------------------

จากที่โทรคุยกะช่างเทคนิค ปตท นะ
อุณหภูมิที่เหมาะสม ต้องดูอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง
แล้ว มาเลือก น้ำมันเครื่องให้เหมาะ แกจะหารายละเอียดเมลให้ผมอีกที  แหะ.. แหะ..

---------------------------------------------------------


บันทึกการเข้า

Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,158


3S-GE Doraemonster 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:55:54 »

แสดงว่าถอดวาวน้ำให้เครื่องยิ่งเย็นก็ยิ่งดีสิครับ

แล้วแบบนี้ตอนติดเครื่องตอนเช้าไม่ต้องรอให้ร้อนสามารถเหยียบได้เลยด้วยใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:57:01 »



ลง K ใน น้องต้าแล้วรึครับ !!!!

แสดงว่าถอดวาวน้ำให้เครื่องยิ่งเย็นก็ยิ่งดีสิครับ

แล้วแบบนี้ตอนติดเครื่องตอนเช้าไม่ต้องรอให้ร้อนสามารถเหยียบได้เลยด้วยใช่ไหมครับ

 เวียนหัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2011 10:59:15 โดย TAOTAO-TZ#056- » บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
Moo@RYZ
นักแข่งมืออาชีพอันดับหนึ่ง
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,735


081-2797236


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 10:58:41 »

เปลี่ยนเป็นอลูมิเนียมช่องใหญ่ แล้วติดเครื่องทิ้งไว้ สังเกตุพัดลมหม้อน้ำแทบจะไม่ทำงานเลย หรือถ้าทำงานก็แค่แป็บเดียว
บันทึกการเข้า

nut_spoon.CZ
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,168


AE เสือเหลือง STYLE แรงไม่เท่า...เงาไว้ก่อน!!!


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 11:05:24 »

 แอบดู
บันทึกการเข้า

 
SETUP BY TORNTO
AE SUPERCARBON
Handyman
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,473


You are alway all my mine


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 11:11:05 »

เย็นไป การสึกหรอสูงครับ

ต้องพอดี พอดีครับ  ซุบซิบ

ถามน้านิดครับ น้ำมันเครื่อง นี้ ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง

จบ ออกแบบ อ่ะนะน้าแฟร มีก้อแต่ที่ค้นๆ เจอ ซุบซิบ

อย่างรถผม (ไม่เคยวัดอุณหภูมิ นมค นะ)
ใช้ แก๊สแอลพีจี + หม้อน้า เหล็ก 1 ช่อง

หากวาวล์น้ำทำงานปรกติ ขับรถในสถาณการปรกติ
หม้อน้ำและพัดลม ถ่ายเทความร้อนให้ นมค ทัน
ก้อจะไม่เจอปัญหาอะไร


ที่แฟร ถามผมว่า "ความร้อยน้อยสุดระดับไหน ถึงหล่อลื่นได้ดีที่สุด  ร้อยมากสุดระดับไหนความหล่อลื่นถึงด้อยลง"

ความร้อน น้อยสุด  บ้านเรา ไปไม่ถึงอ่ะน้าแฟร์ -39 เซลเซียสแหน่ะ ถึงจะแข็งตัว ไม่ใหล

ดังนั้น เครื่องเย็น ไม่มีผลต่อการสึกหรอ เพราะเย็นไม่ถึง -39




แสดงว่าอุณหภูมิไม่ถึง -39 เครื่องก็ไม่สึกหรอสิครับ 

งั้นเช้าๆ ก็ไม่ต้องอุ่นเครื่อง ใช่ใหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2011 11:13:17 โดย Handyman » บันทึกการเข้า

++ รถยนต์เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แรงด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์ ++ http://www.facebook.com/handyman.aoud

รับซื้อรถมือสอง , รับจำนำรถ ,รับปรึกษาปัญหาของรถยนต์ ฟรี
TAOTAO-TZ#056-
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9,805


ไอ๊หย่ะ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #18 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 11:15:58 »

. แหะ.. แหะ..  ฟังเค้ามาอ่ะนะ พี่อู๊ด พอ ได้ข้อมูลมา เลย เห็นทาง สว่าง... เต้นระบำ
บันทึกการเข้า

ย่องเบา....นินจา..ผลุบ..โผล่KENG SERVICE & MODIFY อู่เล็กๆเด็กๆทำถิ่นพระประแดง-คู่สร้าง แว๊นนนน KYB SR 3,999 บาท http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=144724.msg3137300#msg3137300
Hunter_JIK.CZ48
AE Racing Club Staff
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,158


3S-GE Doraemonster 9X


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 11:24:30 »

แล้วมันตกลงยังไงแน่อะครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4  »    ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!