AE. Racing Club
26 พฤศจิกายน 2024 09:41:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า:  «  1 2 3 [4]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หม้อน้ำอลูมิเนียม ทำให้เครื่องเย็นลงมากแล้วจะถนอมเครื่องจริงมั้ยครับ  (อ่าน 32318 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PANDA RACING
Moderator
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,663



ดูรายละเอียด
« ตอบ #60 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 18:51:35 »


อันนี้ไม่ใช่อุณหภูมิน้ำนะครับ เป็นอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง เห็นว่าเกี่ยวๆกันนิดหน่อย เลยเอามาลงให้ดู เป็นรายละเอียดจาก book service ของ GT-R ครับ



According to 2011 mantainace handbook of Nissan GT-R :

When oil temp stay below 110'C while driving    :  Change engine oil as per service manual guide book (abt 10,000 KM.)

When oil temp reach 110' - 130'C while driving  :  Change engine oil every 5,000 KM.

When oil temp exceeds 130'C while driving      :   Change engine oil immediately after stopping

ต้องให้รถที่มีทั้ง water temp และ oil temp ลองวัดดูว่า 2 อันนี้ มีผลต่อกันขนาดไหน แต่ถ้ารถไม่มี oil cooler ผมว่า มันน่าจะไล่ๆกัน แต่ water temp จะขึ้นไปก่อนและ oil temp จะขึ้นตาม แต่ oil temp ก็จะมีตัวแปรคือ เกรด และ คุณภาพของน้ำมันเครือ่งในขณะนั้นด้วย

อาการเองก็น่าจะแยกกัน

water temp ขึ้นเยอะ น่าจะมีผลกับท่อยาง ต่างๆ หม้อน้ำเอง ฝาสูบ มักจะโก่งเพราะเหล็กมันร้อนจนขยายตัวหนัก
oil temp ขึ้นเยอะ น้ำมันเครื่องหมดสภาพ+แรงดันตก ทำให้การหล่อลื่นไม่ดี ผล shaft ละลาย แหวนลูกสูบ-กระบอกสูบสึกหรอ ไปจนแกนเทอโบพัง

สงสัยต้องติด oil temp เพิ่มอีกซักตัวแฮะ
บันทึกการเข้า

บรรทุกไม่เกิน 18 ปี รับเฉพาะคนรู้ใจ
Ratchayotin Football Club
www.rfc.in.th
rfcthailand.hi5.com
M31 Body and Spa Sukhumvit 31
www.m31.in.th
ร้านแดง-ดำ สาขาวังหิน ก่อน TOP plaza lagoon นิดนึง
samphop
มือเก่าหัดแข่ง
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140


ดูรายละเอียด
« ตอบ #61 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 19:09:09 »

 คำนับ คำนับ คำนับ ขอบคุณสำหรับความรู้จากทุกคนครับ 

           คือผมพึ่งจะมีรถใช้ได้ไม่นานไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถกะเขาหรอกครับ แล้วก่อนที่จะเข้าสมัครสมาชิกae ก็มีโดนค่าฉลาดน้อยไปก็หลายตัง แต่พอได้สมัครเข้าอ่านบทความต่างๆของชาว ae ก็ได้ความรู้มากเลยครับ เวลาจะซื้ออะไรสักอย่างก็ใจเย็นขึ้นมาก รู้สึกดีๆ  ได้โปรด.. 
บันทึกการเข้า
mengbuu
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 774


0-200km/h in 8 sec. 750cc 155แรงม้า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #62 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 20:16:17 »


อันนี้ไม่ใช่อุณหภูมิน้ำนะครับ เป็นอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง เห็นว่าเกี่ยวๆกันนิดหน่อย เลยเอามาลงให้ดู เป็นรายละเอียดจาก book service ของ GT-R ครับ



According to 2011 mantainace handbook of Nissan GT-R :

When oil temp stay below 110'C while driving    :  Change engine oil as per service manual guide book (abt 10,000 KM.)

When oil temp reach 110' - 130'C while driving  :  Change engine oil every 5,000 KM.

When oil temp exceeds 130'C while driving      :   Change engine oil immediately after stopping

ต้องให้รถที่มีทั้ง water temp และ oil temp ลองวัดดูว่า 2 อันนี้ มีผลต่อกันขนาดไหน แต่ถ้ารถไม่มี oil cooler ผมว่า มันน่าจะไล่ๆกัน แต่ water temp จะขึ้นไปก่อนและ oil temp จะขึ้นตาม แต่ oil temp ก็จะมีตัวแปรคือ เกรด และ คุณภาพของน้ำมันเครือ่งในขณะนั้นด้วย

อาการเองก็น่าจะแยกกัน

water temp ขึ้นเยอะ น่าจะมีผลกับท่อยาง ต่างๆ หม้อน้ำเอง ฝาสูบ มักจะโก่งเพราะเหล็กมันร้อนจนขยายตัวหนัก
oil temp ขึ้นเยอะ น้ำมันเครื่องหมดสภาพ+แรงดันตก ทำให้การหล่อลื่นไม่ดี ผล shaft ละลาย แหวนลูกสูบ-กระบอกสูบสึกหรอ ไปจนแกนเทอโบพัง

สงสัยต้องติด oil temp เพิ่มอีกซักตัวแฮะ

ความรู้ใหม่ 
มิน่าละ เกียร์ Accord V6 3.0 พังเร็ว ถ้าเจ้าของอัดหนักๆ
น้ำมันคงร้อนจนเสื่อมสภาพ นั่นเอง
บันทึกการเข้า

มาชักว่าวกันเถอะ  ว่าว สอง ป่าน มันดีนะ
smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #63 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 21:44:24 »

ตอนนี้ผมใช้หม้อน้ำมีเนียม หนา 55mm ชนิด fin ตั้ง ท่อน้ำเข้า-ออกอยู่แนวเดียวกัน พัดลมไฟฟ้า 2 ตัว ต่อผ่าน thermostat




เมื่อความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางแล้ว (เกจ์ความร้อนขึ้น = 3 ใน 4 ส่วน) พัดลมจึงจะทำงาน พอทำได้แป๊บเดียวก็หยุด (ความร้อนลดลงมาอยู่ตรงกึ่งกลาง = 2 ใน 4 ส่วน)

ปัญหาตอนนี้ที่เจอคือ ความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางไป พอพัดลมทำงานก็จะลงมาเหลือตรงกึ่งกลาง (โดยปกติที่เคยเห็น ส่วนใหญ่ความร้อนควรจะต่ำกว่ากึ่งกลาง = 1.5 ใน 4 ส่วน)

และ แอร์ไม่เย็น  ร้อนๆๆ ร้อนๆๆ ทั้งๆ ที่มีพัดลมเป่าแผงแอร์ด้านหน้า (วันแรกที่เอารถออกจากอู่นี่ฝ้าขึ้นกระจกเลยอ่ะครับ) เลยไม่รู้ว่ารถผม ปกติเหมือนคนอื่นๆ มั๊ยครับ มีวิธีแก้ยังไงบ้างอ่ะคับ งง งง
อาการครายๆของผมเลยครับ คือ วาล์วน้ำค้างครับ พอ หม้อน้ำระบายความร้อนได้ดี วิ่งยาวๆ เกจ์เลยตกครับ คราวนี้มันมีปัญหากับแอร์ ยิ่งเวลาจอดนานๆ น้ำในระบบมันจอร้อนเท่ากันทั้งระบบเลย รวมทั้งหม้อน้ำด้วย คราวนี้แผงคอล์ยร้อน ที่ติดกับหม้อน้ำเลยร้อนด้วย เลยทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไรเวลาจอดนาน  พอผมเปลี่ยนวาล์วน้ำ รู้สึกได้เลยว่า แอร์เย็นขึ้น เพราะว่า วาร์วน้ำมันจะกักน้ำร้อนเอาไว้ไม่ให้ออกไปที่หม้อน้ำมาก น้ำในหม้อน้ำเลยเย็นกว่าเดิมครับ และอุณหภูมิในเครื่องคงทีขึ้น

จากประสบกาณ์ ครับ
บันทึกการเข้า

Handyman
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,473


You are alway all my mine


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 22:06:36 »

นั้นนะซิแล้วทำไม เครื่องเวลาติดเครื่องมันต้องวอร์ม ด้วยหว่า พอจะมีคนฉลาดบอกได้หรือเปล่า อุอุ 


ภายในเครื่องยนต์ มันมีชิ้นส่วนหลายชิ้นประกอบเข้าด้วยกัน

จุดต่อ จุดหมุนต่างๆ มันจะมีระยะclearanceหรือช่องว่างอยู่ เพื่อให้หมุนได้คล่องและมีพื้นที่รองรับเมื่อวัสดุขยายตัวครับ

การอุ่นเครื่องก็เพื่อให้ชิ้นส่วนมันขยายตัวเต็มที่ก่อน(ระยะclearanceจะพอดี)

ไม่อุ่นเครื่อง คือระยะห่างหรือclearanceของชิ้นส่วนมีมากเกิน ซี้ซั้วซัดก็เครื่องจะสึกหรอเร็ว (แม้มีน้ำมันเครื่องอยู่ก็ตาม)

ถ้าพี่อยู่ไกล้ผมจะยกมือไหว้พี่งามๆ 1 ที่เลย

ขอบคุณพี่มากครับ อุอุ  ถูกใจ.. ใช่เลย..


เปลี่ยนเป็นทำแอร์ให้เย็นๆแล้วกันนะ อิอิ

AEผม ตอนนี้วางเครื่องใหม่อยู่ เสร็จแล้วจะเอาไปให้ทำแอร์ให้หน่อยครับ

อย่างอื่นมีเครื่องมือและทำเองได้หมด แต่แอร์นี่ไม่มีสายเติมน้ำยาครับ ฮ่าาาา  ไว้ว่างๆเจอกันครับเสี่ย
บันทึกการเข้า

++ รถยนต์เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แรงด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์ ++ http://www.facebook.com/handyman.aoud

รับซื้อรถมือสอง , รับจำนำรถ ,รับปรึกษาปัญหาของรถยนต์ ฟรี
ガレージ7 タカラショップ¥¥¥んーーーー
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,265


アンパンマン


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #65 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 22:14:05 »

นั้นนะซิแล้วทำไม เครื่องเวลาติดเครื่องมันต้องวอร์ม ด้วยหว่า พอจะมีคนฉลาดบอกได้หรือเปล่า อุอุ 


ภายในเครื่องยนต์ มันมีชิ้นส่วนหลายชิ้นประกอบเข้าด้วยกัน

จุดต่อ จุดหมุนต่างๆ มันจะมีระยะclearanceหรือช่องว่างอยู่ เพื่อให้หมุนได้คล่องและมีพื้นที่รองรับเมื่อวัสดุขยายตัวครับ

การอุ่นเครื่องก็เพื่อให้ชิ้นส่วนมันขยายตัวเต็มที่ก่อน(ระยะclearanceจะพอดี)

ไม่อุ่นเครื่อง คือระยะห่างหรือclearanceของชิ้นส่วนมีมากเกิน ซี้ซั้วซัดก็เครื่องจะสึกหรอเร็ว (แม้มีน้ำมันเครื่องอยู่ก็ตาม)

ถ้าพี่อยู่ไกล้ผมจะยกมือไหว้พี่งามๆ 1 ที่เลย

ขอบคุณพี่มากครับ อุอุ  ถูกใจ.. ใช่เลย..


เปลี่ยนเป็นทำแอร์ให้เย็นๆแล้วกันนะ อิอิ

AEผม ตอนนี้วางเครื่องใหม่อยู่ เสร็จแล้วจะเอาไปให้ทำแอร์ให้หน่อยครับ

อย่างอื่นมีเครื่องมือและทำเองได้หมด แต่แอร์นี่ไม่มีสายเติมน้ำยาครับ ฮ่าาาา  ไว้ว่างๆเจอกันครับเสี่ย

มาได้เลยครับพี่ ผมจองเลี้ยง ข้าวพี่เลย ห้ามไปทานที่ไหนมาก่อนนะครับ

ขอบคุณพี่มากครับ
บันทึกการเข้า

Handyman
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,473


You are alway all my mine


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #66 เมื่อ: 25 เมษายน 2011 22:18:30 »

ตอนนี้ผมใช้หม้อน้ำมีเนียม หนา 55mm ชนิด fin ตั้ง ท่อน้ำเข้า-ออกอยู่แนวเดียวกัน พัดลมไฟฟ้า 2 ตัว ต่อผ่าน thermostat




เมื่อความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางแล้ว (เกจ์ความร้อนขึ้น = 3 ใน 4 ส่วน) พัดลมจึงจะทำงาน พอทำได้แป๊บเดียวก็หยุด (ความร้อนลดลงมาอยู่ตรงกึ่งกลาง = 2 ใน 4 ส่วน)

ปัญหาตอนนี้ที่เจอคือ ความร้อนขึ้นเลยกึ่งกลางไป พอพัดลมทำงานก็จะลงมาเหลือตรงกึ่งกลาง (โดยปกติที่เคยเห็น ส่วนใหญ่ความร้อนควรจะต่ำกว่ากึ่งกลาง = 1.5 ใน 4 ส่วน)

และ แอร์ไม่เย็น  ร้อนๆๆ ร้อนๆๆ ทั้งๆ ที่มีพัดลมเป่าแผงแอร์ด้านหน้า (วันแรกที่เอารถออกจากอู่นี่ฝ้าขึ้นกระจกเลยอ่ะครับ) เลยไม่รู้ว่ารถผม ปกติเหมือนคนอื่นๆ มั๊ยครับ มีวิธีแก้ยังไงบ้างอ่ะคับ งง งง

เรื่องแอร์ไม่เย็นคงได้คำตอบกันแล้ว

ผมฝากเรื่องเกจวัดที่ติดมากะรถครับ รถรุ่นเราส่วนใหญ่อายุมากกว่า 10ปี เกจวัดความร้อนมันถูกใช้งานมานาน

มันเป็นแบบไม่ได้บอกค่าเป็นตัวเลข เราเลยไม่ขัดเจนว่ามันร้อนกี่องศา อีกทั้งsensor วัดอุณหภูมิของหลายคนน่าจะมีขี้ตะกรันจับซะหนาพอควร

การแสดงผลของเกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์อาจจะช้ากว่าความเป็นจริง

ประสบการณ์ตรง รถผมเคยฮีทควันท่วมฝากระโปรง แต่เกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์ยังอยู่ตรงกลางอยู่เลย พอน้ำแห้งหมดมันถึงวิ่งไปหาขีดแดง


ทุกวันนี้ รถทุกคันใส่เกจวัดแบบแสดงผลเป็นตัวเลข และตรวจสอบsensorทุกปีครับ

เกจวัดอุณหภูมิน้ำและน้ำมันเครื่อง ควรจะมีติดรถไว้นะ

ที่สำคัญ อุณหภูมิของทั้งสองตัว ไม่ควรร้อนเกิน 100C หากเกินควรหาทางแก้ไขครับ

บันทึกการเข้า

++ รถยนต์เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แรงด้วยพลังแห่งเวทย์มนต์ ++ http://www.facebook.com/handyman.aoud

รับซื้อรถมือสอง , รับจำนำรถ ,รับปรึกษาปัญหาของรถยนต์ ฟรี
Napp
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31



ดูรายละเอียด
« ตอบ #67 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 00:17:00 »

ตัวเองไม่ได้ใส่วาวล์น้ำนะ
รถผมมีวาลว์น้ำก๊าบ อ้อน

อาการครายๆของผมเลยครับ คือ วาล์วน้ำค้างครับ พอ หม้อน้ำระบายความร้อนได้ดี วิ่งยาวๆ เกจ์เลยตกครับ คราวนี้มันมีปัญหากับแอร์ ยิ่งเวลาจอดนานๆ น้ำในระบบมันจอร้อนเท่ากันทั้งระบบเลย รวมทั้งหม้อน้ำด้วย คราวนี้แผงคอล์ยร้อน ที่ติดกับหม้อน้ำเลยร้อนด้วย เลยทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไรเวลาจอดนาน  พอผมเปลี่ยนวาล์วน้ำ รู้สึกได้เลยว่า แอร์เย็นขึ้น เพราะว่า วาร์วน้ำมันจะกักน้ำร้อนเอาไว้ไม่ให้ออกไปที่หม้อน้ำมาก น้ำในหม้อน้ำเลยเย็นกว่าเดิมครับ และอุณหภูมิในเครื่องคงทีขึ้น

จากประสบกาณ์ ครับ
อาการเป็นอย่างที่พี่อธิบายเลยอ่ะครับ.... ไว้จะลองเช็ควาลว์น้ำอีกครั้งนึงครับ  สุดยอด

เรื่องแอร์ไม่เย็นคงได้คำตอบกันแล้ว

ผมฝากเรื่องเกจวัดที่ติดมากะรถครับ รถรุ่นเราส่วนใหญ่อายุมากกว่า 10ปี เกจวัดความร้อนมันถูกใช้งานมานาน

มันเป็นแบบไม่ได้บอกค่าเป็นตัวเลข เราเลยไม่ขัดเจนว่ามันร้อนกี่องศา อีกทั้งsensor วัดอุณหภูมิของหลายคนน่าจะมีขี้ตะกรันจับซะหนาพอควร

การแสดงผลของเกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์อาจจะช้ากว่าความเป็นจริง

ประสบการณ์ตรง รถผมเคยฮีทควันท่วมฝากระโปรง แต่เกจวัดความร้อนที่หน้าปัทม์ยังอยู่ตรงกลางอยู่เลย พอน้ำแห้งหมดมันถึงวิ่งไปหาขีดแดง


ทุกวันนี้ รถทุกคันใส่เกจวัดแบบแสดงผลเป็นตัวเลข และตรวจสอบsensorทุกปีครับ

เกจวัดอุณหภูมิน้ำและน้ำมันเครื่อง ควรจะมีติดรถไว้นะ

ที่สำคัญ อุณหภูมิของทั้งสองตัว ไม่ควรร้อนเกิน 100C หากเกินควรหาทางแก้ไขครับ
ขอบคุณคร้าบ...... รอติดเกจ์ 3 สหาย อยู่อ่ะครับ จะได้วัดทั้้งความร้อนหม้อน้ำ และ นมค. ไปด้วยทีเดียว
บันทึกการเข้า

VAGRANT
Traveling From Place to Place


6.9
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,263



ดูรายละเอียด
« ตอบ #68 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 00:57:04 »


อันนี้ไม่ใช่อุณหภูมิน้ำนะครับ เป็นอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง เห็นว่าเกี่ยวๆกันนิดหน่อย เลยเอามาลงให้ดู เป็นรายละเอียดจาก book service ของ GT-R ครับ



According to 2011 mantainace handbook of Nissan GT-R :

When oil temp stay below 110'C while driving    :  Change engine oil as per service manual guide book (abt 10,000 KM.)

When oil temp reach 110' - 130'C while driving  :  Change engine oil every 5,000 KM.

When oil temp exceeds 130'C while driving      :   Change engine oil immediately after stopping

ต้องให้รถที่มีทั้ง water temp และ oil temp ลองวัดดูว่า 2 อันนี้ มีผลต่อกันขนาดไหน แต่ถ้ารถไม่มี oil cooler ผมว่า มันน่าจะไล่ๆกัน แต่ water temp จะขึ้นไปก่อนและ oil temp จะขึ้นตาม แต่ oil temp ก็จะมีตัวแปรคือ เกรด และ คุณภาพของน้ำมันเครือ่งในขณะนั้นด้วย

อาการเองก็น่าจะแยกกัน

water temp ขึ้นเยอะ น่าจะมีผลกับท่อยาง ต่างๆ หม้อน้ำเอง ฝาสูบ มักจะโก่งเพราะเหล็กมันร้อนจนขยายตัวหนัก
oil temp ขึ้นเยอะ น้ำมันเครื่องหมดสภาพ+แรงดันตก ทำให้การหล่อลื่นไม่ดี ผล shaft ละลาย แหวนลูกสูบ-กระบอกสูบสึกหรอ ไปจนแกนเทอโบพัง

สงสัยต้องติด oil temp เพิ่มอีกซักตัวแฮะ

ขอบคุณคร้าาบบ คำนับ

ของผมตอนนี้เท่าที่เคยสังเกตุแว๊ปๆนะไม่กล้ามองนาน ความร้อนน้ำมันเครื่องขึ้น แต่แรงดันน้ำมันเครื่องไม่ตก แต่ก็ไม่กล้าซัดต่อ กลัวเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองหาวัดอุณหภูมิน้ำติดแยกอีกซักอันด้วยดีกว่า
บันทึกการเข้า

4AGE16v เก่าแต่แรงกำลังดี
รสนิยมส่วนบุคคลกรุณาโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ
GhOST
นักแข่งมืออาชีพอันดับสอง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 928



ดูรายละเอียด
« ตอบ #69 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 01:47:23 »

ไม่รู้ว่าทุกคนเป็นแบบผมหรือป่าว หน้าปัดวัดรอบวัดความเร็วตั้งแต่ตอนติดรถมาจนถึงทุกวันนี้ของผมยังใช้งานได้ดีอยู่

เคยสายรัดท่อน้ำเข้าหม้อต้มแก๊ส มันคลายตัวแล้วน้ำซึมออกเรื่อยๆ ระยะทางจากบ้านมาเรียนเกือบ 20 กิโลเมตรแล้วมันก็มีเสียงดัง ตี๊ดดดดด ยาวๆ

อาการความร้อนขึ้นคับแต่ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวขับรถก็เปิดเพลงเลยลองปิดเพลง เอ๊! ยังมีเสียงอยู่ เลยจอดข้างทางแต่ยังไม่ได้ดับเครื่อง

เพราะไม่รู้ว่าเสียงอะไร นั่งอยู่หลังพวงมาลัยมองรอดไปความร้อนกำลังขึ้นนี้หว่า!!! เลยดับเครื่องแต่เสียง ตี๊ดดดดด ยังดัง(บิดกุณแจ ON) อยู่เปิดฝากระโปรง

เจอตัวการแล้ว เหล็กรัดท่อน้ำเข้าหม้อต้มแก๊สมันคลาย น้ำเลยซึงออกแล้วก็นั่งรอจนกว่าความร้อนจะลงแล้วค่อยๆเปิดจุกน้ำหม้อน้ำแล้วกรอกน้ำ

ไปเรื่อยๆจนความร้อนลดลงมาเรื่อยๆ แล้วเสียง ตี๊ดดดดดดด มันก็หายไปเมื่อระดับความร้อนล่วงมาจากตัว H สีแดงประมาณ 4 ขีด เลยรู้ว่ามัน

คือเสียงเตือนว่าความร้อนกำลังขึ้นถึงจุดอันตราย เคยลองถอดปลั๊กพัดลมหม้อน้ำแล้วปล่อยให้ความร้อนขึ้น

มันดังจริงๆด้วย(เสียบปลั๊กกลับแทบไม่ทัน) ^^" เลยอยากถามว่าไมค์เดิมๆติดรถมันมีเสียงเตือนแบบนี้เป็นปกติหรือป่าวคับ

ขอบคุณมากคับที่ทนอ่านมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 เมษายน 2011 01:50:32 โดย GhOST » บันทึกการเข้า
smilegames
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6,978



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #70 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 08:54:47 »

ผมก็เคยติดเกจ์วัดหลายแบบแล้ว แต่สุดท้าย มันเยอะไปหมด มองก็ลำบาก  ทุกวันนี้ลงตัวที่ ODB I  ครับ บอกได้หลายอย่าง และเที่ยงตรงดี อย่างเกจ์ความร้อนที่ติดกัน ผมก็เคยติดที่ท่อยางบน ผมก็ว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไรแต่ก็ดีกว่าเกจ์ติดรถครับ แต่ ODB I สะดวกกว่า แถมถูกกว่าอีก ดูได้มากกว่าด้วย ยังศึกษาได้ไม่หมดเลย
บันทึกการเข้า

offza fte
นักแข่งมืออาชีพอาวุโส
********
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,201


4e-fte


ดูรายละเอียด
« ตอบ #71 เมื่อ: 26 เมษายน 2011 10:29:22 »

เคยทำ Project เกี่ยวกับ Heat Exchanger อยู่ ไม่กล้าเอามาลง กลัวผิด 555
แต่เท่าที่พอสรุปได้
เย็นมากไป (มากกว่าค่าที่ Design engine/ Oil spec) การสึกหรอสูง (ผลมาจาก Thermal expainsion/ clearance/ Interference)
ร้อนเกินไป ทำให้สารหล่อลื่นเสียคุณสมบัติเร็ว

ผมว่าการที่จะเปลี่ยน หรือปรับปรุงระบบระบายความร้อนต่าง ๆ นะ ก่อนอื่นต้องมองเรื่องการใช้งานและประสิทธิภาพของมันว่าเพียงพอหรือไม่นะ มันคำนวณได้หมด และสุดท้ายพอคำนวณได้ค่าทุกอย่างหมด แก้ไขปรับปรุงไปหมด ต้องไปปรับปรุงการคำนวณผล ECU ใหม่อีกอ่ะ ไปล่ะ เดี๋ยว Chem. Eng มาเล่นเอา อิ อิ

เย็นเกินไปก็มีผลกระทบทั้งระบบหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

www.doraemon-project.com

www.4efteclub.com

ไสบาบา กล่าวเอาไว้ว่า "วิธีการรับมือเกรียนนั้นมีอยู่สองวิธี นิ่งเฉยซะ หรือเกรียนกลับให้ยิ่งกว่าที่เค้าเกรียนมาจนมันเลิกเกรียนไปเอง"
phon_17
มือใหม่หัดขับ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


ดูรายละเอียด
« ตอบ #72 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2015 14:49:11 »

หม้อน้ำมิเนียม 1 ช่องก็มีครับ ดีตรงไม่ค่อยมีสนิม ไม่ค่อยตันเท่าไร เอาป่าวครับขายให้ถูกๆ กองอยู่เกะกะ พอดีใส่ของซิ่งไปหมดแล้ว

ผมก็ไม่รู้ว่าอันไหนมันระบายได้ดีกว่ากัน แต่ตามหลักแล้ว เหล็กน่าจะอมความร้อนดีกว่าพวกมิเนียม(คือเย็นก็เย็นกว่า ร้อนก็ร้อนกว่า) ทำให้มันคายความร้อนได้ช้ากว่าละมั้ง

ต้องรอผู้รู้มาอธิบาย
บันทึกการเข้า
หน้า:  «  1 2 3 [4]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!