ช่วยฟันธงให้ทีครับว่าเอาไงดี

ช่วยตอบในฐานะคนพึ่งติดและหาอ่านข้อมูลมาได้กระท่อนกระแท่น มีดังนี้

การติด LPG โดยสรุปก็คือมันเอา LPG ไปเผาใหม้แทนน้ำมัน มันเลยต้องมี ถัง LPG!

1. ถัง LPG ติดตั้งที่ท้ายรถด้านใน
- น้ำหนักมีหลายขนาด แต่แนะนำแค่ 58 กิโล ก็พอดีแล้ว อย่าเอาใหญ่กว่านี้เดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักกับการควบคุมขณะขับขี่
- ถัง LPG ช่างเขาอาจจะทำขาตั้งรองรับนิดหนึ่งเพื่อความมั่นคงไม่ใช่ขันน๊อตยึดถังกับตัวรถหรือขาตั้งง๊องแง๊ง ต้องมีความมั่นคง
- ขณะติดตั้งถังติดกับตัวรถจำเป็นต้องเจาะตัวรถเพื่อยึดน๊อตกับถังแก๊ส
กับเจาะรูเพื่อติดตั้งท่อหัวเติมแก๊ส(หัวเติมติดไว้ที่ใต้ท้องรถเวลาเติมจะได้สะดวก)
และเจาะรูส่งท่อแก๊สไปที่เครื่องยนต์ด้านหน้า ซึ่งรูที่เจาะจะต้องทากันสนิมและมีท่อยางหุ้มกับการขูดขีดให้เราด้วย
- สำหรับถัง LPG ก็มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบธรรมดาจะมีวาล์วอยู่ 2 ตัวคือวาล์วเติมแก๊สกับวาล์วส่งแก๊สไปเครื่องยนต์
เวลาเติมแก๊สต้องเปิดท้ายลงมาหมุนเปิดวาล์วเติมแก๊สและปิดวาล์วส่งแก๊ส เติมเสร็จต้องปิดวาล์วเติมแก๊สและเปิดวาล์วส่งแก๊ส
สรุปคือ มือล้วนๆ ถังแบบที่ 2 คือถังแบบ มัลติวาล์วแบบนี้จะปิดเปิดแบบอัตโนมัติ ป้องกันแก๊สรั่วต่างๆ ได้ดีกว่า(แนะนำตัวนี้)

จากนั้นช่างจะต้องเดินสายเพื่อส่ง LPG ไปที่เครื่องยนต์ โดยใช้ท่อทองแดงหนาหุ้มฉนวนหรือยางกันกระแทกเป็นท่อของ LPG
เดินจากตัวถังแก๊สลอดใต้ท้องรถไปตามช่องหลืบใต้ท้อง ต้องดูให้ดีว่าไม่เดินมั่วๆ เวลากระแทกลูกระนาดแล้วไม่ขูดท่อแก๊ส
สรุป คือท่อแก๊สจะต้องอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย

ที่นี้แก๊สที่ส่งมานั้นมันเป็นของเหลว(ผมไม่รู้ว่าถ้าเป็นแบบหัวฉีดเขาจะส่งไปที่หัวฉีดเลยรึเปล่าเพราะไม่ได้ศึกษา)
แต่ถ้ามันไม่ใช่หัวฉีด มันจะเป็นต้องทำให้ LPG เหลวนั้นกลายเป็นก๊าซก่อน เพื่อที่จะส่งก๊าซ LPG นั้นไปที่ห้องเผาใหม้

ทีนี้การที่จะทำให้ LPG เหลว กลายเป็น ก๊าซ จำเป็นต้องให้ความร้อนเพื่อให้มันเปลี่ยนสถานะ
คนคิดก็แสนฉลาดเพราะรู้ว่ารถเรามีน้ำระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ซึ่งเป็นน้ำร้อน
็เอาน้ำร้อนนี่แหล่ะ มาถ่ายเทความร้อนกับ LPG เหลว ให้มันกลายเป็นก๊าซ
ที่นี้ อุปกรณ์ทำให้ LPG เหลว กลายเป็น ก๊าซ เราเรียกทั่วๆ ไปว่า หม้อต้ม!

2. หม้อต้ม มีหลากหลายยี่ห้อมาก..
- ทำหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างน้ำระบายความร้อน กับ LPG เหลว เพื่อให้ LPG กลายเป็นก๊าซ
- หม้อต้มมีหลายยี่ห้อมาก แต่ที่ปรับแต่งง่ายๆ จะมาจากอิตาลี ที่นิยมใช้ก็ Tamasetto, ... (ผมใช้อันนี้อันอื่นจำไม่ได้)
- ตัวหม้อต้มมีท่อน้ำเข้า-ออก ท่อแก๊สเข้า-ออก มีวาล์วหลายตัวเพื่อปรับแต่งเพื่อให้ได้ก๊าซ LPG กับอากาศในปริมาณที่เหมาะสม

พอได้ LPG ที่เป็นก๊าซแล้ว เราก็จะเอาก๊าซ LPG ส่งไปห้องเผาใหม้ีที่มีหัวเทียนจุดระเบิด
ตำแหน่งทีส่งก๊าซ LPG เข้าไปนั้นคือ ส่งผสมไปท่ออากาศหลังกรองและหน้าวาล์วปีำกผีเสื้อ
ช่างเขาจะเจอะท่อกรองอากาศเพื่อเสียบท่อก๊าซ LPG เข้าไป
ส่งไปในท่อดูดอากาศ เพื่อให้ก๊าซ LPG ผสมกับอากาศและไปเผาใหม้ในห้องเครื่อง

ที่นี้การส่งก๊าซ LPG เข้าไปในท่อส่งอากาศนั้นมันต้องมีสัดส่วนระหว่างก๊าซ LPG กับอากาศ(ออกซิเจน)
ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ดังนั้นจึงเป็นที่มาของระบบการส่งจ่าย 2 ระบบใหญ่ๆ คือ
1. แบบสัดส่วนก๊าซ LPG กับอากาศ คงที่ แบบนี้เราเรียกว่า Fixed mix
ช่างจะจูนให้เราในอัตราส่วนคงที่(ณ วันที่จูน) ถ้าเราใช้ไปๆๆๆ กรองสกปรกก็จะทำให้อัตราส่วนเปลี่ยนไปแล้ว
ก็จะมีผลทำให้สัดส่วน LPG กับ อากาศไม่เหมาะสม มีปัญหาเครื่องดับ เปลืองน้ำมัน... ตามมา
ดังนั้นต้องหมั่นเป่ากรองอากาศเพื่อให้อัตราส่วนมันคงที่เหมาะสม และจะได้ไม่มีปัญหา
หรือคอยสังเกตอาการของรถแล้วไปรับจูน (จูนเองก็ได้นะผมว่า)
2. แบบสัดส่วนแปรผันตามแรงตีน(ที่เหยียบ) มันจำเป็นต้องมีตัวเซนเซอร์ที่ใช้ตรวจวัดออกซิเจนเพื่อจะได้ส่งคำสั่ง
มาปรับปริมาณ LPG ส่งจ่ายเข้าไปกับอากาศให้เหมาะสม แบบนี้เราเรียกสั้นๆ ว่า Lamda

ทีนี้มันก็แล้วแต่ละว่าเราจะเลือกอะไร โชคดีอย่างคือ 4a fe มันรักกันกับ LPG มาตั้งแต่ชาติที่แล้ว
fixed mix ถ้าจูนดีๆ แล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ถ้าหากจะเอาแปรผันตามแรงเหยียบก็ แลมด้าใส่เพิ่มเข้าไป
ราคาก็จะเพิ่มเข้ามาอีก 2-3 พัน ถ้าติดตั้งไม่ีดีก็จะมีปัญหาเข้ามาอีก เพราะจะเห็นว่าระบบมันมีความซับซ้อนมากขึ้นแล้ว
แต่ถ้าติดตั้งแล้วไม่มีปัญหาก็จบเหมือนกัน เร่งเท่าไหร่ก็จ่าย LPG เข้าไปผสมกับอากาศตามเหมาะสม
แต่ถ้า Fixed Mix มันส่ง LPG เข้าไปในอัตราที่คงที่ ถ้าเราเร่งรอบสูง เหยียบกระจุยกระจาย
ก็อาจจะทำให้ LPG มันน้อยไปได้(สัดส่วนมันไม่ได้)
แต่ติดแลมด้าแล้วประหยัดกว่ามากไหม อันนี้เท่าๆ ที่อ่านมาแล้วประหยัดกว่ากันไม่เท่าไหร่

ต่อไป... จะเห็นว่าเราส่ง LPG ไปผสมกับอากาศเข้าห้องเผาใหม้แล้ว ที่นี้น้ำมันมันก็ไม่มีความจำเป็น
ดังนั้นเรา่จำเป็นจะต้องตัดระบบการส่งจ่ายน้ำมันไม่ให้ส่งไปหัวฉีดที่ห้องเผาใหม้
จะตัดระบบส่งน้ำมันก็ไปดูว่ามันส่งมายังไง
สรุปคือมันมีปั๊ม ช่างก็จะัตัดการทำงานของปั๊ม หรือ ตัดการทำงานของหัวฉีด(ของผมตัดการทำงานของหัวฉีด)(อันนี้ลึกๆ ไม่รู้)
ถ้าไม่ตัดหัวฉีด น้ำมันมันจะถูกส่งไปเผาใหม้ด้วย น้ำมันก็เผา แก๊สก็เผา ...ไม่ดีๆ

ที่นี้เราจะตัดการทำงานของหัวฉีดหรือระบบยังไง ... มันก็มีอีก 2 ระบบ คือ
1. ตัดแบบ manual คือ กดปุ่มปิดเปิดเอง
2. ตัด auto หรือเรียกสั้นๆ ตามช่างเค้าว่า auto จริงๆ มันก็ไม่ใช่ auto แบบทำอะไรไม่ได้
กล่าวคือ มันจะมี 3 ระบบอยู่ในนั้น เราเลือกกดได้ว่าจะใช้อะไร คือ น้ำมันอย่างเดียว, LPG อย่างเดียว และ
แบบ auto คือ ตอนสตาร์สใช้น้ำมันพอเหยียบแล้วรอบถึงที่ตั้งไว้ก็ให้เปลี่ยนเป็น LPG ซึ่งมัน auto ก็ตรงนี้ละครับ
พอรอบมันถึง มันก็จะเปิดถังแก๊สให้ LPG ส่งมาที่หม้อต้มและตัดหัวฉีดน้ำมัน แล้วเราก็เหยียบไปตามทาง

ข้อมูลส่วนตัว..
ผมใช้ 4a fe auto ติดถัง 58 กิโล มัลติวาล์ว fixed mix ขับขี่ทั่วไปไม่มีปัญหาอะไรเลย ที่ 130-140 ก็ยังสบายๆ (รู้สึกว่าจะดีกว่าน้ำมันด้วยซ้ำที่ความเร็วสูงๆ ไม่รู้ทำไม) วิ่งไปแล้วหลายร้อยกิโล ตกกิโลละเกือบๆ บาท โง่อยู่ตั้งนาน...อ่านมาเยอะมาก ว่า "รู้งี้เปลี่ยนนานแล้ว โง่อยู่ตั้งนาน" ..วันนี้ผมก็มายืนยันคำนี้อีกคน..

*** ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมไม่ยืนยันความถูกต้องนะครับ
เป็นความเข้าใจของผมเอง แนะนำหรือเพิ่มเติมได้
เพราะใน แก๊สไทย มันเยอะไปหมด อยากเ่ขียนเล่าให้ฟัง
เพราะตอนที่ผมหาอ่าน แบบประมาณว่าผมไม่รู้อะไรเลย..
ไปหาอ่านมันก็จะงงๆ เพราะมันเยอะไปหมด จับอะไรได้กระท่อนกระแท่น
ตอนนี้ก็พอจับหลักได้ประมาณนี้

ข้อมูลอาจจะไม่ครบเพราะผมสนใจแต่ที่ผมติด หรือถ้าอันอื่นผิดก็บอกให้แก้ไขได้ครับ

ในส่วนของการหลอกหัวฉีดผมไม่ทราบหลักการ.. ว่าใช้อะไรหลอก หลอกทำไม...
เขียนแนะนำต่อได้นะครับ ถ้ามันดีก็จะได้ช่วยๆ กันเก็บไว้ในคลังกระทู้(มีไหมหว่า...)

เขียนยาว เหนื่อยวุ้ย
เอวัง ด้วยประการฉะนี้

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ช่วยฟันธงให้ทีครับว่าเอาไงดี (อ่าน 6234 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้