บุหรี่ บุหรี่ บุหรี่

ตอนนี้ฟาร์เลิกบุหรี่แล้วว่ะ ไม่ได้ตั้งใจเลิก อยู่ๆก็ขี้เกียจดูดไปเอง
แต่ตอนนี้มีอาการ ไอ เหมือนมีไรติดคอตลอดเวลา มีอาการจุกเสียด แน่นเฟ้อตลอด
มีแก๊สในกระเพาะ มึน งง คลื่นไส้ ง่ายๆ เมารถง่าย เลือดจาง ความดันต่ำ แต่ไม่มีความอยากบุหรี่เลยนะ

ลองอ่านนี่กันดูเผื่อจะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆคนบ้างนะ

1. เมื่อไหร่จึงถือว่าเลิกบุหรี่ได้แล้ว ?
โดยทั่วไป ถือว่าถ้าหยุดสูบบุหรี่ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี ถือว่าเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ

2. เมื่อมีอาการอยากสูบบุหรี่ จะทำอย่างไรดี ?
คุณต้องตั้งสติให้มั่นคง ลองวิธีต่อไปนี้ อาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น
• ถ่วงเวลาให้นานที่สุด (อาจดูเข็มนาฬิกาที่เคลื่อนไป ยืดเวลาอยากสูบบุหรี่)
• หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ (อาจกำหนดลมหายใจเข้า – ออก)
• ดื่มน้ำอุ่นๆ แทน
• หางานอย่างอื่นทำหรือเปลี่ยนอิริยาบท เช่น จากนั่งเปลี่ยนเป็นยืน เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากบุหรี่

3. เลิกบุหรี่แล้ว ร่างกายจะกลับมาปกติเหมือนเดิมหรือไม่ หลังจากคุณหยุดสูบบุหรี่มวนสุดท้าย ?
เพียง 20 นาที จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพต่อเนื่องในร่างกายของคุณ 20 นาที หลังหยุดสูบบุหรี่ ความดันโลหิตจะเริ่มลดลง อุณหภูมิของมือและเท้าเริ่มสูงขึ้นกลับสู่ปกติ 8 ชั่วโมง หลังหยุดสูบบุหรี่ ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดต่ำลง ระดับออกซิเจนในเลือดสูงขึ้น และกลับสู่ระดับปกติ 24 ชั่วโมง หลังหยุดสูบบุหรี่ ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลันลดลง 48 ชั่วโมง หลังหยุดสูบบุหรี่ ปลายประสาทเริ่มเจริญเติบโตใหม่อีกครั้ง 2 สัปดาห์ – 3 เดือน หลังหยุดสูบบุหรี่ การไหลเวียนของโลหิตเริ่มดีขึ้น การทำหน้าที่ของปอดดีขึ้น 30% 1 – 9 เดือน หลังหยุดสูบบุหรี่ อาการไอ ภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบ เมื่อยล้า และระบบทางเดินหายใจขัดลดลง มีการเกิดขึ้นใหม่ของขนปัดในเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดของปอดเพิ่มขึ้น

4. ทำไมหยุดสูบบุหรี่แล้วท้องผูก เกี่ยวกันหรือเปล่า ?
นิโคตินในบุหรี่กระตุ้นให้มีการหลั่งสารสื่อประสาท ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้ เมื่อคุณหยุดบุหรี่ นิโคตินที่จะไปกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหวลดลง ทำให้คุณถ่ายยากขึ้นในช่วงแรก อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกคน ถ้าคุณออกกำลังกาย รับประทานผัก และดื่มน้ำมากๆ การขับถ่ายของคุณจะดีขึ้น

5. หยุดสูบบุหรี่แล้วอ้วนขึ้น เป็นเพราะอะไร ?
นิโคตินในบุหรี่ไปกระตุ้นศูนย์อิ่มในสมองทำให้ไม่รู้สึกหิว และมีผลต่อการเผาผลาญอาหารของร่างกาย เมื่อคุณเลิกบุหรี่ต่อมรับรสทำงานดีขึ้น ร่างกายทำงานเป็นปกติ จึงทำให้รับประทานอาหารได้รสชาติและอร่อยขึ้น น้ำหนักตัวจึงอาจสูงขึ้นได้ คุณสามารถแก้ไขได้โดยออกกำลังกาย รับประทาน ผักผลไม้ ลดอาหารแป้ง อาหารรสหวานและไขมันน้อยลง ในเดือนแรกขอให้ตั้งเป้าหมายที่เลิกบุหรี่ให้ได้ก่อน ปัญหาไขมัน น้ำหนักส่วนเกิน คุณจัดการแก้ไขภายหลัง 1 เดือนได้

6. ทำไมสูบบุหรี่แล้วมีสมาธิการทำงานดี เมื่อหยุดสูบสมองจะตื้อๆ คิดไม่ค่อยออก ?
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะนิโคตินในบุหรี่ในกระตุ้นสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวกับสมาธิและความจำ จึงทำให้ รู้สึกปลอดโปร่ง และมีสมาธิ เมื่อคุณหยุดสูบบุหรี่ สมองส่วนหน้าไม่ได้รับการกระตุ้นจากนิโคติน จึงทำให้คุณรู้สึกว่าสมองตื้อๆ คิดไม่ค่อยออก อาการเหล่านี้จะเป็นในช่วงแรกๆ ที่หยุดสูบบุหรี่เท่านั้น เมื่อร่างกายคุณปรับตัวแล้ว ทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด

7. หยุดสูบบุหรี่แล้ว ถ้ามีอาการอยากบุหรี่เป็นบางครั้ง จะสูบสักมวนเป็นครั้งคราวได้หรือไม่ ?
อย่าสูบบุหรี่เลยแม้แต่อึกเดียวหรือมวนเดียว ถ้าคุณหยุดสูบได้แล้ว เพราะถ้าคุณเริ่มสูบอึกแรกหรือมวนแรก จะมีมวนที่ 2 ที่ 3 ตามมาอีก อย่าให้ความตั้งใจและเวลาที่คุณหยุดสูบบุหรี่ตั้งแต่แรกเสียเปล่าด้วยความคิดที่ว่า “อึกเดียวคงไม่เป็นไร”

8. ทำไมจึงควรงดเหล้า เมื่อต้องการเลิกบุหรี่ ?
เพราะแอลกอฮอล์ในเหล้าจะไปกระตุ้นสมองส่วนที่ควบคุมความคิดที่มีเหตุผล ทำให้ขาดความยั้งคิดและสติในการเตือนตนเอง และมีความเคยชินของคนที่ดื่มเหล้าแล้วมักสูบบุหรี่ไปด้วย เมื่อเลิกสูบบุหรี่แต่ยังดื่มเหล้าอาจกระตุ้นให้อยากสูบบุหรี่ขึ้นได้

9. เคยได้ยินมาว่า คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นโรคกระเพาะอาหารสูงกว่าคนที่ไม่สูบ เป็นความจริงหรือเปล่า ?
เป็นความจริง เพราะนิโคตินในบุหรี่กระตุ้นสารสื่อประสาทที่มีผลต่อการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้มีกรดหลั่งเพิ่มมากขึ้น

10. ถ้าบุหรี่มีอันตราย ทำไมไม่ปิดโรงงานยาสูบไปเลย ?
บุหรี่มีอันตราย เป็นสิ่งเสพย์ติด และทำลายสุขภาพของผู้สูบ ผู้ใกล้ชิดที่ได้รับควันและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งบุหรี่ยังเป็นสาเหตุของอัคคีภัยอีกด้วย ถ้ามีการปิดโรงงานยาสูบ ผู้ติดบุหรี่ที่ยังไม่ได้เลิกหรือผู้ที่ยังเลิกไม่ได้ จะหันไปสูบบุหรี่นำเข้าจากต่างประเทศแทน ทำให้สูญเสียเงินตราออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะถ้าไม่มีคนสูบบุหรี่ ก็น่าจะไม่มีการผลิตบุหรี่อีกต่อไป

11. เลิกบุหรี่แล้วหันมาใช้ยานัตถ์แทน จะดีหรือไม่ ?
ไม่ดีแน่ๆ เพราะในยานัตถ์มีนิโคตินผสมอยู่ด้วย การสูดยานัตถ์ทำให้คุณได้นิโคตินเข้าไปในโพรงจมูกโดยตรง มีโอกาสเกิดมะเร็งโพรงจมูกได้

12. เคี้ยวหมาก แทนการสูบบุหรี่ได้หรือไม่ มีผลเสียหรือเปล่า ?
หมากที่คนสมัยก่อนนำมาเคี้ยวกันเป็นประจำนั้น มีใบยาสูบรวมอยู่ด้วย นั่นหมายความว่า เมื่อเคี้ยวหมาก คุณจะได้รับสารนิโคตินและสารอื่นๆ ที่อยู่ในใบยาสูบ ซึ่งจะระคายเคืองบริเวณเยื่อบุช่องปาก ปูนแดงที่เป็นส่วนประกอบในหมากอาจทำให้เกิดแผลในปาก ซึ่งจะทำให้ยาสูบดูดซึมได้มากขึ้น จึงมีโอกาสเป็นมะเร็งช่องปากสูงขึ้น

13. เมื่อเลิกบุหรี่ จำเป็นต้องหยุดดื่มชา/กาแฟ หรือไม่ ?
โดยความเป็นจริงแล้ว ชาและกาแฟ มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย ซึ่งคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเลิกสูบบุหรี่ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดดื่มชา/กาแฟ ก็ได้ แต่ถ้าการดื่มชา/กาแฟทุกครั้ง คุณมักสูบบุหรี่ไปด้วยจนเกิดความเคยชิน ดังนั้น เมื่อเลิกบุหรี่ ก็ควรหยุดดื่มชา/กาแฟด้วยในระยะแรกเพื่อลดตัวกระตุ้น เมื่อคุณควบคุมตัวเองได้ดีแล้ว คุณสามารถดื่มชา/กาแฟได้เหมือนปกติ

14. ถ้าหยุดบุหรี่แล้วทนความอยากบุหรี่ไม่ไหวจริงๆ ต้องกลับไปสูบใหม่ จะทำอย่างไรดี ?
การที่คุณกลับไปสูบบุหรี่อีก ไม่ได้หมายความว่าในชีวิตของคุณจะเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ มีหลายคนต้องใช้ความพยายามเลิกบุหรี่หลายครั้งจึงจะสำเร็จ มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่จะเลิกไม่ได้ในครั้งเดียว เพราะนิโคตินในบุหรี่มีฤทธิ์เสพย์ติด แต่คนส่วนใหญ่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ด้วยตนเอง และเรารู้ว่า คุณก็เลิก (บุหรี่) ได้ ด้วยตนเองเหมือนกัน

15. ที่บอกว่าบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง ไอเรื้อรัง หลอดลมอักเสบนั้นพอจะเข้าใจเพราะสูบบุหรี่เข้าปอด แต่ที่บอกว่าบุหรี่ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมนั้นเกี่ยวกันอย่างไร?
จากผลการวิจัยในผู้ที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พบว่า ลักษณะที่เหมือนกันข้อหนึ่งคือ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สูบบุหรี่ โดยเฉพาะผู้ที่สูบจัด การวิจัยพบว่า สาเหตุที่สมรรถภาพทางเพศเสื่อมเกิดจากเส้นเลือดและเส้นประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเสื่อม ในผู้ที่สูบบุหรี่ยังพบตัวอสุจิที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติมากกว่าในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รวมทั้งจำนวนอสุจิลดลงด้วย ในขณะเดียวกันการเจ็บป่วยของผู้ที่สูบบุหรี่ก็ทำให้เสื่อมสรรถภาพทางเพศบ่อย เพราะโรคที่เกิดล้วนเป็นโรคเรื้อรัง ทำให้เหนื่อยหอบรักษาไม่หาย เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคมะเร็งของอวัยวะต่างๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีความกังวลกับโรคที่เป็น และมีผู้ป่วยหลายรายที่เกิดอาการหอบขณะมีเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดความกลัวไม่กล้าที่จะมีเพศสัมพันธ์อีก

	ผู้เขียน	หัวข้อ: บุหรี่ บุหรี่ บุหรี่ (อ่าน 9277 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้