ก็สัตว์ประหลาดตัวไหนเอา ปตท ไปขายล่ะครับ .. ชื่อคุ้น ๆ ทุกคนแหละ
มันไม่น่าจะเกี่ยวกับ ปตท นะ เรือ่งภาษีสรรพสามิตน้ำมัน น่าจะกำหนดโดยกระทรวงพลังงานครับ
เอาเฉพาะเรื่องน้ำมันนะครับ เรื่องอื่นๆก็อย่าไปพูดถึงมัน แล้วก็มองความจริง อย่าไปมองว่า คนนี้เราเชียร์ คนนี้พวกเรา ถ้าคิดแบบนั้นประเทศก็ฉิบหายหมดละครับ
ใช่ครับ พูดถูก ผมไม่สนหรอกว่ารัฐบาลไหน พรรคไหน ผมมองภาพรวมว่าสิ่งที่ทำแต่ละอย่าง ทำแ้้ล้ว ใช้เหตุผลอะไร และผลได้ ผลเสียเป็นยังไง โดยต้องมองเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ได้ทำเพราะเพียงเพื่อ จะต้องทำเพราะเคยพูดไปแล้วตอนหาเสียง (จะบอกว่าเป็นเทคนิคในการหาเสียงก็ไม่ได้ อิอิ มีคนเอาไปใช้ก่อนแล้ว)
ถ้าเอาเฉพาะเรื่องน้ำมัน ผมไม่เห็นด้วยที่จะลดราคาด้วยการยกเลิกการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แล้วเรื่องราคาน้ำมันเนี๊ยะ ที่จริงควรปล่อยให้ลอยตัวทุกประเภทด้วยซ้ำ มันจะได้สะท้อนต้นทุนของจริง อุ้มอันโน้น เอามาชดเชยอันนี้ วุ่นวายไปหมด คนใช้รถก็ไม่ประหยัดเสียที บางคนออกรถใหม่ก็ออกกระบะดีเซลเพราะเห็นน้ำมันราคาถูกกว่า ซื้อมาก็เอามาขับคนเดียวไปทำงาน นี่มันใช้รถผิดประเภทชัดๆ สรุปว่าซื้อกระบะดีเซลมาใช้เพราะน้ำมันราคาถูก ซึ่งตามจริงแล้ว ทั่วโลก ราคาน้ำมันดีเซลต้องแพงกว่าเบนซินด้วยซ้ำ แล้วเค้าจะใช้ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ๆ เป็นส่วนมาก ก็คงจะมีบ้านเรา กับประเทศเพื่อนบ้านเรานี่แหละ ที่แปลกจากทั่วโลกเค้ากัน
แต่...... รับรองว่าไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำหรอกครับ เพราะมันเหมือนฆ่าตัวเองชัดๆ
ลอยตัวทั้งหมด( free float ) ไม่ได้ครับ ตัวอย่างชัดๆคือ ค่าเงินบาทปี 40 ถ้าลอยตัวน้ำมันทันที บริษัท logistic บริษัทขนส่งทั้งบก น้ำ อากาศ ระบบ infrastructure หรือ ระบบอำนวยความสดวกขั้นพื้นฐาน จะเจ๊งย่อยยับ ราคาสินค้า อาหารต่างๆจะแพงขึ้นในทันที เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนัก( cost push inflation )
เห็นข้อเสียหรือยังครับ ถ้าลอยตัวน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักของทุกๆอย่าง พูดเอาสนุกๆนะได้ แต่ทำจริงๆไม่ได้ครับ ถ้าจะลอย ยังไงก็ต้องเป็น managed float อยู่ดี คือจะมีองค์การควบคุมราคาซ้อนอีกชั้น
เรือ่งการใช้รถนั้น ต้องให้การศึกษาที่ตัวคนครับ ระบบไม่ได้ผิด แต่คนเอาไปใช้ผิดประเภทเอง เพราะยังไม่มีความเข้าใจครับ
จะพิมเยอะไหมปะเนี่ยเรา
อันนี้ที่ท่านประธานว่า ก็ถูกและก็เข้าใจตามนั้นครับ ประเทศเราหน่ะมันกลับหัวกลับหางกับเรื่องเชื้อเพลิงมานานมากแล้วหลายสิบปี(เชื้อเพลิงที่ต้องถูกกว่ากลับแพง ที่แพงกลับถูก) ก็รู้และก็เข้าใจว่ามากลับลำอีตอนนี้คงลำบาก และคงทำได้ยากมาก จนถึงทำไม่ได้ ก็คงต้องทำใจไปเนอะ..... แต่ที่จริงความคิดผมก็ไม่ถึงขนาดให้ลอยตัวแบบราคาจริง 100% หรอกครับ เอาแค่ว่า น้ำมันดีเซล ควรจะแพงกว่า เบนซิน (ตามหลักการผลิตที่ได้ คือน้ำมันดิบ 1 ส่วน จะกลั่นได้ เบนซิน มากกว่า ดีเซล)
ถ้าเป็นอย่างนี้ได้จริง คนใช้รถ หรือคนที่จะซื้อรถใหม่ ก็ต้องพิจารณาแล้วหล่ะครับว่า เราเหมาะกับรถอะไร เพราะคนที่ใช้รถเยอะๆ หรือใช้รถเป็นประำจำในชีวิตประจำวันทุกๆวัน ผมมั่นใจว่า เค้าต้องคิดเรื่องค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงเป็นหลัก ว่าใช้อะไรที่ทำให้เค้าต้องจ่ายต่อเดือนประหยัดกว่ากัน ลองสมมุติว่า LPG คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรแพงกว่าเบนซินซิ ผมว่่าไม่มีใครติด LPG แน่คุณว่่าจริงไหมครับ ที่เค้าติดกันเพราะมัันถูกกว่าไงครับ คนพวกนี้ถึงต้องดินรนหาทางหนีเพื่อตัวเอง
ถ้าดีเซลแพงกว่าเบนซิน ดูซิ ใครจะซื้อรถกระบะดีเซลมาขับทำงานกันโดยปีๆ นึงไม่เคยใช้กระบะขนอะไรเลยด้วยซ้ำ คงยกเว้น ชาวไร่ ชาวสวน หรือธุรกิจขนส่ง ที่ต้องการใช้รถประเภทนี้จริง ซึ่งผมว่าเหมาะสมครับ
ดังนั้นผมก็เลยไม่รุ้ว่า ตกลงระบบโครงสร้างเชื้อเพลิงผิด หรือคนใช้รถผิดกันแน่ หรือว่่าอะไรผิดมาก่อนกัน ก็เลยต้องผิดไปตามๆ กัน