กระทู้นี้ผมว่าไม่แตกแยกนะคับ เราคุยกันเรื่องกลไกน้ำมันกัน ถ้าไม่มีเรื่องกีฬาสีหรือพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง เราแสดงความเห็นกันได้
ไม่แตกแยก แต่แค่คิดต่างกันเท่านั้นคับ ผมว่าเรื่องราวในกระทู้ยังคงดำเนินไปอยู่ในกรอบคับ อาจจะมีบุดด้าเบลสบ้าง(เอาเขียวเป็นกรรมการอิอิ)
อย่างที่ผมบอกคับว่าส่วนตัวผมเองเคยเจอมาแล้วน้ำมันแพงกว่านี้ ซึ่งหลายท่านก้อเจอมาเหมือนกัน แล้วเราก้ออยู่รอดมาได้คับ ถามว่าเราลำบากมั้ย
ตอนไม่มีการลดน้ำมัน ก้อไม่ลำบากมาก แต่ก้อไม่ได้สบายตัว แล้วถ้าการยกเลิกเงินเข้ากองทุนน้ำมันมัน"ยกเลิก"ล่ะคับ แล้วทีนี้คนที่มีเงินเหลือจาก
การยกเลิกเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เอาเงินไป"ผ่อน"อะไรซักอย่างนึง อยู่ดีๆมาวันนึง รัฐท่านเก็บเงินเข้ากองทุนเหมือนเดิม"ตูมมมม"คนเป็นหนี้เพิ่มขึ้นทันตา
ช่วงก่อนที่ฟองสบู่แตก ผมไปส่งพี่ชายทำงานที่อมตะนคร รถป้ายแดงเกลือ่น พอฟองสบู่แตก รถไปอยู่ตามเต้นท์เพียบ เป็นหนี้เน่า ผมกลัวว่าปัญหาแบบนี้
จะกลับมาอีกครั้งน่ะคับ(ไม่ได้เข้าเรื่องว่าใครเป็นคนทำนะคับ แค่ไม่อยากให้เหตุการณ์มันซ้ำรอย ฉะนั้นหาเหตผลในการป้องกันกันคับ ผมไม่ได้ต้องการคนที่เคยทำให้เกิดปัญหา
ด้วยความเคารพ) ผมยังเห็นสอดคล้องกับท่านประธานอธิคับ คือการอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ลดการนำเข้าคับ
ผมก็หวังอย่างนั้นแหละน้า ว่าอย่าให้แตกแยกเลย แต่ก็คงต้องขอให้คนที่เน้นเอามัน หยุดยั่วยุด้วยครับ
เห็นด้วยกับน้าโอและท่านประธานอธิครับ เรื่องลดการนำเข้า หรือพลังงานทดแทน แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำได้
เนื่องจากสินค้าเกษตรเพื่อพลังงาน พวกอ้อย มันสำปะหลัง ฯลฯ นั้น ต้นทุนมันสูง และมีค่าส่วนแบ่งต่าง ๆ มากมาย
อย่างอ้อยก็ 70/30 ชาวไร่ได้ 70 โรง..เซนเซอร์..บอ้อยได้ 30 ในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้นทุกปี ปุ๋ยก็แพง แรงงานหายาก (ไปทำโรงงานกันหมดครับ)
ผมว่าทางที่ดี ถึงแม้ราคาน้ำมันจะลดลงมาก แต่พวกเราควรช่วยกันประหยัดการใช้ น่าจะเป็นอีกทางที่ลดการนำเข้าได้ครับ ตัวผมเองก็ยังจะใช้โซฮอลต่อไป
แม้จะมีส่วนต่างราคาแคบลงมาก็ตาม