เมื่อข้อเสนอส่วนลดสมาร์ทโฟนมากถึง 50% ที่ยั่วยวนใจ ทำให้มีผู้่ที่ต้องการได้รับสิทธิ์ซื้อเครื่องในส่วนลดดังกล่าว มาเข้าแถวซื้อเป็นคิวแรกเมื่อ 21.00น.
(กลุ่มคิว 200 คนแรกที่มาต่อคิว เมื่อเวลา 17.00น. ของวันที่ 2 กันยายน)
จากบทความที่แล้วที่ได้พูดถึงการจัดงานที่ทาง TrueMove H ที่จัดแคมเปญซื้อ 1 แถม 1 กันไปจนเกือบจะมีปัญหา และได้ฝากเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปยังงานของ ดีแทคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 3-4 กันยายนนี้
เมื่อข้อเสนอส่วนลดสมาร์ทโฟนมากถึง 50% ที่ยั่วยวนใจ ทำให้มีผู้่ที่ต้องการได้รับสิทธิ์ซื้อเครื่องในส่วนลดดังกล่าว มาเข้าแถวซื้อเป็นคิวแรกเมื่อ 21.00น. ของคืนวันพฤหัสบดีที่ 1 จนเลยไปครบ 200 คนเมื่อเวลา 10.00น. ของวันศุกร์ที่ 2 กันยายน ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ทางดีแทคกำหนดรับบัตรคิวในวันที่ 3 กันยายน เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป แม้จะรู้ว่าผู้ที่ต่อคิวลำดับที่ 101 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิ์ซื้อเครื่องในวันที่ 4 กันยายนแล้วก็ตาม
(กลุ่มคนหลัง 200 คนแรก)
แต่แล้วผู้ที่ได้ลำดับคิวหลังจากลำดับที่ 201 เป็นต้นไป ไม่ยอมรับการต่อคิวที่เกิดขึ้นจากคนที่มาถึงคนแรก โดยให้เหตุผลต่างๆ นานา ว่าเป็นคิวที่ทางดีแทคไม่ได้กำหนดขึ้น รวมถึงอ้างอิงว่าให้มีการรับบัตรคิวในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน เวลา 10.00น. เป็นต้นไป เพื่อที่ต้องการให้ทางดีแทค จัดคิวใหม่เพื่อให้ตนเองได้มีสิทธิ์อยู่ใน 200 คนแรก
ตามหลักสากลในทุกๆ ประเทศที่จะมีการเปิดตัวโปรดักส์ใหม่อย่าง iPhone หรือสินค้าลดราคา ก็มักจะมีผู้ที่สนใจ เข้าคิวล่วงหน้าก่อนที่สินค้าหรือกิจกรรมส่วนลดจะเริ่นขึ้น บางทีมีการเข้าคิวซื้อล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ก็มี อย่าง iPhone 4 ที่สหรัฐอเมริกา หรือแม้กระทั่งการต่อคิวเพื่อซื้อ "Krispy Kreme" ในประเทศไทยทีมีการเข้าคิวล่วงหน้า 1 วันก่อนวันเปิดร้านจริง เพื่อรับสิทธิ์อร่อยฟรี 1 ปี
ทุกอย่้างที่เกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างความน่าสนใจของงานเปิดตัวสินค้าใหม่ หรืองานอีเวนท์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกประเทศทั่วโลก
(คิวใหม่ที่สร้างกันเอง)
เหตุการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น ในช่วง 19.00น. เป็นต้นไป เมื่อทางเจ้าหน้าที่ของสยามพารากอน ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณด้านข้างของห้างด้านวัดปทุมวนาราม ทำการย้ายไปอยู่ในบริเวณหน้าห้าง เพื่อทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อทำการจัดบริเวณรองรับผู้ได้สิทธิ์ซื้อเครื่อง ลด 50% แต่ยิ่งทำให้ผู้ที่เป็น 200 คนแรก เกิดความกังวลใจที่เกรงว่าจะเกิดการ "มั่ว" คิวที่ได้ต่อไว้ กับกลุ่มคนที่เพิ่งมาทีหลัง โดยกลุ่มคนเหล่านี้บางส่วนหวังว่า คนที่อยู่ใน 200 คนแรก จะไม่ผ่านเรื่องคุณสมบัติของดีแทค ที่ได้กำหนดไว้ คือ ยังไม่ได้ลงทะเบียนในระบบเติมเงิน หรือ แม้กระทั่งหวังไว้ว่าจะมีการจัดคิวใหม่โดยทางดีแทค
กลุ่มคิว 200 คนแรกที่ทำการต่อไว้ มีแกนนำที่คอยดูแลเรื่องการเช็คชื่อ และคอยตรวจสอบว่าผู้ที่เข้าคิวได้อยู่ในคิวตลอดเวลาหรือไม่ ถือว่าเป็นการดูแลกันเอง โดยที่ถือหลักการยุติธรรมที่ใครไม่อยู่เกิน 15 นาที หรือมีการสลับตัว ลงชื่อทิ้งไว้ จะตัดรายชื่อออกทันที และทำการเลื่อนลำดับขึ้นมาแทนที่
ยิ่งดึกขึ้น ความเครียดกับผู้ที่อยู่บริเวณหน้าห้างสยามพารากอน็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ความพยายามในการจัดระเบียบของการต่อลำดับคิวเป็นไปด้วยความลำบาก หลายๆ ครั้งมีการกระทบกระทั่งระหว่าง คิว 200 คนแรก กับกลุ่ม 200 คิวหลัง แต่โชคดีเป็นเพียงแค่การโห่เท่านั้น
เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของสยามพารากอน ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้เพิ่มรั้วเหล็กให้แน่นหนามากขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มคนสร้างสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
แต่ระหว่างนั้น ก็มีเสียงต่อโกนต่อว่า ปลุดระดมมวลชน โดยใช้คำพูดที่ดูรุนแรง ถึงขนาดที่ว่า "หากกูไม่ได้ซื้อ ดีแทคก็ราบแน่"
เวลาล่วงเลยถึงเช้าวันที่ 3 กันยายน ได้มีคนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหตุการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ทางผู้บริหารดีแทคเองได้ประกาศว่า กลุ่มคนที่มาถึง 100 คนแรกที่มาต่อแถวนั้น ถือว่าได้รับสิทธิ์ซื้อเครื่องส่วนลด 50% โดยถือหลัการ "first come first serve" (ใครมาก่อนได้ก่อน) สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนกลุ่มที่มาใหม่ และกลุ่มคนที่มาหลัง 200 คนแรกเป็นอย่่างมาก ขึ้นขนาดมีการโห่ไล่ รวมถึงการขว้างปาสิ่งของใส่ผู้บริเวณ และเขย่ารั้วเหล็ก คล้ายๆ กับจะพังเข้าไปในบริเวณห้าง
ผู้บริหารดีแทคได้ยื่นข้อเสนอใหม่เป็น 1,000 เครื่องรับส่วนลด 10% และส่วนลดเงินสดในการซื้อเครื่องอีก 2,000 บาท ทางกลุ่มคนดังกล่าวก็ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดยื่นคำขาดให้เป็นส่วนลด 50% เท่านั้น
(ภาพลงทะเบียนเพื่อซื้อเครื่องลด 50%)
เมื่อมีกลุ่มคนที่มาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงกระทั่งการยุยงจากคนที่สร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง ทางดีแทคจึงต้องยอมรับเงื่อนไขส่วนลด 50% กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นจำนวน 1,100 เครื่อง ทุกคนต่างจึงพอใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สะท้อนถึงความไร้กฎ กติกาของสังคม รวมถึงการใช้กฎหมู่ เพื่อต่อรองให้ได้สิ่งที่ต้นเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ความยุติธรรม รวมถึงครรลองของวัฒนธรรมที่คนหมู่มากพึงปฎิบัติมาอย่างช้านาน
ทางดีแทคเองก็พลาดหลายเรื่องเช่นกัน เช่น การประเมินเหตุการณ์การต่อคิวที่ประมาณเกินไป ไม่มีแผนการรองรับเรื่องที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการติดขัดของการดำเนินงาน แต่ทุกอย่างก็ถูกคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่พูดตรงๆ หากไม่พร้อม ก้ไม่ควรคิดจะจัดงานแบบนี้อีกเลย
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นอุทธาหรณ์ให้กับหลายๆ บริษัทที่คิดจะทำแคมเปญในลักษณะดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่ามันคุ้มค่า หรือได้รับผลตอบแทนที่ดีหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะได้ผลมากๆ กับกลยุทธ์ทางการตลาดมากก็ตาม ซึ่งมองในมุมมองผู้บริโภค ถือว่าเป็นผลดี
เพราะหลายๆ คนยึดถือ "กฎกู ตัวกู" โดยไม่สนใจกับกฎกติกาของสังคม หรือความยุติธรรม ความถูกต้อง รวมถึงมีจิตสำนึกที่ดี ก็คงไม่มีบริษัท ห้างร้านไหน กล้าจัดแคมเปญแบบนี้อีกแน่นอน เพราะมันมีแต่ "เสียกับเสีย" เท่านั้น อย่างเคสนี้ดีแทคต้องจ่ายเงินส่วนลดค่าเครื่องเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้เพียงไม่เกิน 3 ล้านบาท
นี่ล่ะครับ ได้ไม่คุ้มเสีย... แถมเละเทะ ให้คนเค้าไปด่า สนุกปากไปตลอด
เพิ่มเติมคลิปช่วงกำลังปล่อยคนเข้าไปซื้อ และความชลมุนวุ่นวาย ของคุณ @aum2u
ที่มา :
http://www.it24hrs.com/2011/dtac3gexpo-mob-2/