เป็นเรื่องของเกียร์ลิมิเต็ดสลิปครับ ผิดพลาดประการใดแนะนำด้วยครับโดยปกติรถยนต์ทั่วไปจะมีชุดเฟืองท้ายเฉลื่ยแรงไปให้เพลาซ้าย-ขวาแยกกัน เพราะเวลาที่รถเลี้ยว ล้อซ้าย-ขวาจะมีระยะทางวิ่งไม่เท่ากัน
ดังนั้นถ้าทำให้เพลาซ้าย-ขวาหมุนเท่ากันจะทำให้มีการลื่นไถลที่ ยางได้และจะทำให้รถเลี้ยวเป็นวงกว้าง
แต่ถ้าล้อข้างใดข้างหนึ่งเกิดหมุนฟรีจะทำให้ล้อที่มี ความฝืดมาก ไม่หมุน เช่น
กรณีที่ล้อตกหล่มข้างเดียวหรือเลี้ยวโค้งแรงๆนํ้าหนั กรถจะถูกถ่ ายไปข้างเดียว ซึ่งจะทำให้การส่งกำลังไปพื้นถนนไม่ดีเท่าที่ควร
L.S.D. (Limited slip differential) จึงมีความจำเป็นขึ้นมาในกรณีที่กล่าวมา โดยที่ชุดL.S.D จะทำหน้าที่เหมือนDifferential
ทั่วไปคือการเฉลื่ยกำลังแบ่งส่งไปให้เพลาข้างซ้าย-ขวาในสภาพการ ใช้งานปกติ ในขณะที่มีแรงกระชากเครื่องแรงหมุนจากเครื่องไม่รุนแรง
แต่เมื่อความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันมากและมีแรงกระชากที่รุนแรง ชุดคลัตซ์ที่อยู่ภายใน Differential จะถูกกดให้
ชุดเฟืองดอกจอกล็อค ทำให้ความเร็วของเพลาข้างซ้าย-ขวาต่างกันน้อยลง ซึ่งการที่คลัตช์จะจับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแรง
ของการกระชากคือ ยิ่งกระชากแรง (เร่งเครื่องมาก) คลัตช์ยิ่งจับแรง
L.S.D. แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
- 1 WAY นิยมใช้กับรถทุกประเภท
สามารถบังคับได้ง่าย เหมาะกับมือใหม่และการใช้งานบนท้องถนน L.S.D แบบนี้คลัตช์จะจับเฉพาะตอนเร่งเครื่อง
- 1.5 WAY เหมาะกับรถขับเคลื่อนล้อหน้า
โดยที่ L.S.D ชนิดนี้ คลัตช์จะจับตอนเร่งและเมื่อถอนคันเร่งจะจับแค่เพียงค รึ่งเดียว ทำให้ออกจากโค้งได้เร็ว
ซึ่งเหมาะกับการแข่งขัน เช่น จิมคาน่า ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน
- 2 WAY เหมาะกับแข่งขัน
นิยมใช้กับรถขับเคลื่อนล้อหลัง และ ขับเคลื่อน 4ล้อ L.S.D. ชนิดนี้ จะจับทั้งตอนเร่งและถอนคันเร่ง
ทำให้ควบคุมรถในการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
วิธีดูง่ายๆนะครับดูที่รูเสียบแกนเพลาขับถ้ามองทะลุผ่านคือเกียร์ LSD ครับ แต่ถ้ามีแกนเหล็กขวางคือไม่ใช่ LSD
หรือยกล้อลอย สตาร์ทเครื่องเข้าเกียร์ถ้าล้อหมุนทางเดียวกันแสดงว่ามี LSD ครับ