plew_ch
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 19:22:59 » |
|
การทำบุญแค่เรารักษาศีลให้ได้ให้ครบ แล้วก็หมั่นสวดมนต์ แค่นี้ก็ได้บุญมากกว่าเราไปถวายอะไรต่อมิอะไรที่วัดแล้วครับ
บุญที่เกิดจากการให้ทานนั้น ให้ผลน้อยกว่าบุญที่เกิดจากการภาวนาครับ และบุญอันสูงสุดคือการเจริญวิปัสนากรรมฐานครับและก่อนที่เราจะเจริญวิปัสนากรรมฐานได้
เราย่อมต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อนครับ ทำเองอยู่กับบ้านก็ได้ทำทุกวัน ได้บุญมากกว่าไปวัดแน่นอนครับ
ไม่เชื่อลองสังเกตุพระที่อยู่สิครับ ท่านไม่ได้ยึดติดท่านแค่ทำจิตใจให้สงบครับ
สาธุ มันเป็นเช่นนั้นจริง พระเจ้าข้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
silent
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 20:10:52 » |
|
ไหว้ไม่ลง มันไม่ใช่พระ แต่ อาศัย ผ้าเหลือง หากิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Handyman
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 20:50:22 » |
|
ใครมีช่องทาง ช่วยส่งคลิปนี้ให้สถานีโทรทัศน์ที ท่านจะได้อยู่คนเดียวสมใจอยาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jedee
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 21:05:34 » |
|
การทำบุญแค่เรารักษาศีลให้ได้ให้ครบ แล้วก็หมั่นสวดมนต์ แค่นี้ก็ได้บุญมากกว่าเราไปถวายอะไรต่อมิอะไรที่วัดแล้วครับ
บุญที่เกิดจากการให้ทานนั้น ให้ผลน้อยกว่าบุญที่เกิดจากการภาวนาครับ และบุญอันสูงสุดคือการเจริญวิปัสนากรรมฐานครับและก่อนที่เราจะเจริญวิปัสนากรรมฐานได้
เราย่อมต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อนครับ ทำเองอยู่กับบ้านก็ได้ทำทุกวัน ได้บุญมากกว่าไปวัดแน่นอนครับ
ไม่เชื่อลองสังเกตุพระที่อยู่สิครับ ท่านไม่ได้ยึดติดท่านแค่ทำจิตใจให้สงบครับ
มีคนนี้ล่ะที่ถูกตรงตามธรรม บุญแปลว่าเบา หมายถึงทาน สูงขึ้นมาหน่อยก็คือศีล สูงสุดคือภาวนาครับ ผมเองก็ทนดูจนจบ แถมโดนลูกชายตำหนิอีก แต่ก็ทนดูจนจบ เพือตามดู ว่าเขาต้องการอะไรแน่ บอกตรงๆ กล้ำกลืนทนดูจริงๆ ที่อยากจะสื่อก็คือ อยากจะถามกลับไปว่า ศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ด ท่านขาดท่านพร่องหรือไม่ แต่ที่เห็นประจักษ์คงบอกได้ว่า ขันติบารมียังไม่ถึงขั้น แม้สำรวมก็ยังไม่มี ผมเคยเห็นพระที่ดุๆ แต่ไม่ใช่แนวนี้ ให้เราพิจารณาเองว่าเป็นมิจฉาทิฐิ หรือสัมมาทิฐิ เลยทนดูเข้าไปตามดูลึกๆอีก ดูเหมือนว่าจะถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ผลของคำพิพากษากลับกลายเป็นว่าพระเกษมเป็นฝ่ายชนะคดี ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพราะดูแค่ผ่านๆ ยังมีอีก คนใกล้ตาย คนตาย ที่ถูกจัดการงานศพอย่างง่ายๆ ผมก็ดูแล้วปลงอสุภะไปด้วย แต่ที่สังเกตุในวีดีโอหลายๆชุด ได้อ้างพระไตรปฏกเสมอ ตกลงจะสื่ออะไรกันแน่ ถามว่าการกระทำเยี่ยงนี้ สมควรหรือไม่ ผมว่าไม่สมควรนะ คุณจะอยากดังหรือไม่ ก็ไม่ควรทำเยี่ยงนี้ หรือที่อ้างว่าอยากอยู่คนเดียว ก็ไม่สมควรทำเยี่ยงนี้เช่นกันการอยากดังคงต้องประกาศให้โลกรู้เหมือนเช่นที่ทำ แต่การประกาศว่าอยากอยู่คนเดียวไม่เห็นต้องประกาศเลย แค่เดินเข้าป่าปริกวิเวกก็จบแล้ว คนเขาไม่ศรัทธาไม่ใส่บาตร ก็จะมีบังบดหรือเทวดามาใส่บาตรเองล่ะ แล้วที่หนักกว่านั้น ตอนที่แสดงท่าเหมือนสื่อกับวิญญาณผู้ตายได้ ตรงนี้น่าจะขาดศีลไปแล้ว ถือว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม ได้แก่ 1.ฌาน 2.วิโมกข์ 3.สมาธิ 4.สมาบัติ 5.ญาณทัสสนะ 6.มัคคภาวนา 7.การทำให้แจ้งซึ่งผล 8.การละกิเลส 9.ความเปิดจิต 10.ความยินดีในเรือนร่างอันเปล่า ที่ไม่มีในตน ต้องอาบัติปาราชิก ถึงแม้ท่านจะเห็นหรือไม่ ก็ไม่สมควรแสดงเช่นนั้น ที่ร้ายแรงกว่านั้น ทุบทำลายองค์พระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านอ้างคำสอน แต่การกระทำกลับตรงข้ามกัน เป็นการทำลายสมมติบัญญัติของสังคมไทย ถือเป็นภัยร้ายแรงแก่พุทธศาสนา เท่าที่ดูผมว่ายังขัดแย้งกันอยู่ในตัวเอง ทั้งการกระทำ ทั้งคำสอน ทั้งคำพูดหยาบคาย ที่หลายคนรับไม่ได้ ผมเองก็เช่นกัน แต่ก็ต้องทนดูจนจบ แม้อยากจะอาเจียนก็ตาม เสียดายที่ไม่ได้อยู่จังหวัดผม อาจารย์ของผม โดนหนักกว่านี้อีกหลายเท่า ท่านก็ยังมีขันติ มีอุเบกขา แต่คนที่ว่าท่านใส่ร้ายท่านก็แพ้ภัยตัวเองตายห่าไปก่อนวัยอันควรหมดแล้วครับ พระแท้ดูที่การกระทำ แล้วก็คำสอนที่ถูกตรงตามธรรมครับ ผมคงตอบไม่ได้ว่าท่านอยากดัง หรืออยากอยู่คนเดียวดังที่ได้แสดงกิริยาหยาบคายประกาศไว้ แต่ไม่ว่าจะอยากดัง หรืออยากอยู่คนเดียว ซึ่งมีความอยากขึ้นต้น ล้วนเป็นกิเลสทั้งสิ้นครับ พระอริยะท่าน ไม่มีความอยากหลงเหลืออยู่ ดูเหมือนว่าน่าจะใช่ แต่ไม่ใช่ครับ สำหรับความเห็นส่วนตัวของผมเอง ถือว่าท่านเป็นแค่คนห่มเหลืองเท่านั้นครับ ขาดจากความเป็นพระเพราะแพ้ภัยตัวเอง ไม่ว่าจะโทสะ โมหะ ความหลงผิด ตลอดจนโมโหโทโส ที่แสดงอากับกิริยาเยี่ยงนั้น แถมด้วยถ้อยคำพลุดสวาสที่พลังพูลออกมาจากปาก แล้วก็วนไปวนมาเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง อวดอุตตริมนุสสธรรม จงใจแสดงตนว่าสื่อกับวิญญาณของผู้ตายได้ อาจารย์ของผมหลายองค์ทั้งที่ละขัณธ์ไปแล้วและยังเจริญสติอยู่ ท่านก็เห็นแต่ท่านไม่ให้เข้าไปยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ ผมเองก็เคยเห็น แต่ก็เชื่อครูอาจารย์ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ไม่ไปยึดติด อยู่กับปัจจุบัน อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่ควรเอามาเอ่ยถึงกล่าวถึง คนตายก็เป็นอดึตเช่นกัน อนาคตยังมาไม่ถึงก็ไม่สมควรกล่าวถึงเช่นกัน อาจารย์สอนให้อยู่กับปัจจุบันเสมอ เขาขาดจากการเป็นพระไปนานแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tobizaru_x
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 21:31:01 » |
|
การทำบุญแค่เรารักษาศีลให้ได้ให้ครบ แล้วก็หมั่นสวดมนต์ แค่นี้ก็ได้บุญมากกว่าเราไปถวายอะไรต่อมิอะไรที่วัดแล้วครับ
บุญที่เกิดจากการให้ทานนั้น ให้ผลน้อยกว่าบุญที่เกิดจากการภาวนาครับ และบุญอันสูงสุดคือการเจริญวิปัสนากรรมฐานครับและก่อนที่เราจะเจริญวิปัสนากรรมฐานได้
เราย่อมต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อนครับ ทำเองอยู่กับบ้านก็ได้ทำทุกวัน ได้บุญมากกว่าไปวัดแน่นอนครับ
ไม่เชื่อลองสังเกตุพระที่อยู่สิครับ ท่านไม่ได้ยึดติดท่านแค่ทำจิตใจให้สงบครับ
มีคนนี้ล่ะที่ถูกตรงตามธรรม บุญแปลว่าเบา หมายถึงทาน สูงขึ้นมาหน่อยก็คือศีล สูงสุดคือภาวนาครับ ผมเองก็ทนดูจนจบ แถมโดนลูกชายตำหนิอีก แต่ก็ทนดูจนจบ เพือตามดู ว่าเขาต้องการอะไรแน่ บอกตรงๆ กล้ำกลืนทนดูจริงๆ ที่อยากจะสื่อก็คือ อยากจะถามกลับไปว่า ศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ด ท่านขาดท่านพร่องหรือไม่ แต่ที่เห็นประจักษ์คงบอกได้ว่า ขันติบารมียังไม่ถึงขั้น แม้สำรวมก็ยังไม่มี ผมเคยเห็นพระที่ดุๆ แต่ไม่ใช่แนวนี้ ให้เราพิจารณาเองว่าเป็นมิจฉาทิฐิ หรือสัมมาทิฐิ เลยทนดูเข้าไปตามดูลึกๆอีก ดูเหมือนว่าจะถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ผลของคำพิพากษากลับกลายเป็นว่าพระเกษมเป็นฝ่ายชนะคดี ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพราะดูแค่ผ่านๆ ยังมีอีก คนใกล้ตาย คนตาย ที่ถูกจัดการงานศพอย่างง่ายๆ ผมก็ดูแล้วปลงอสุภะไปด้วย แต่ที่สังเกตุในวีดีโอหลายๆชุด ได้อ้างพระไตรปฏกเสมอ ตกลงจะสื่ออะไรกันแน่ ถามว่าการกระทำเยี่ยงนี้ สมควรหรือไม่ ผมว่าไม่สมควรนะ คุณจะอยากดังหรือไม่ ก็ไม่ควรทำเยี่ยงนี้ หรือที่อ้างว่าอยากอยู่คนเดียว ก็ไม่สมควรทำเยี่ยงนี้เช่นกันการอยากดังคงต้องประกาศให้โลกรู้เหมือนเช่นที่ทำ แต่การประกาศว่าอยากอยู่คนเดียวไม่เห็นต้องประกาศเลย แค่เดินเข้าป่าปริกวิเวกก็จบแล้ว คนเขาไม่ศรัทธาไม่ใส่บาตร ก็จะมีบังบดหรือเทวดามาใส่บาตรเองล่ะ แล้วที่หนักกว่านั้น ตอนที่แสดงท่าเหมือนสื่อกับวิญญาณผู้ตายได้ ตรงนี้น่าจะขาดศีลไปแล้ว ถือว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม ได้แก่ 1.ฌาน 2.วิโมกข์ 3.สมาธิ 4.สมาบัติ 5.ญาณทัสสนะ 6.มัคคภาวนา 7.การทำให้แจ้งซึ่งผล 8.การละกิเลส 9.ความเปิดจิต 10.ความยินดีในเรือนร่างอันเปล่า ที่ไม่มีในตน ต้องอาบัติปาราชิก ถึงแม้ท่านจะเห็นหรือไม่ ก็ไม่สมควรแสดงเช่นนั้น ที่ร้ายแรงกว่านั้น ทุบทำลายองค์พระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านอ้างคำสอน แต่การกระทำกลับตรงข้ามกัน เป็นการทำลายสมมติบัญญัติของสังคมไทย ถือเป็นภัยร้ายแรงแก่พุทธศาสนา เท่าที่ดูผมว่ายังขัดแย้งกันอยู่ในตัวเอง ทั้งการกระทำ ทั้งคำสอน ทั้งคำพูดหยาบคาย ที่หลายคนรับไม่ได้ ผมเองก็เช่นกัน แต่ก็ต้องทนดูจนจบ แม้อยากจะอาเจียนก็ตาม เสียดายที่ไม่ได้อยู่จังหวัดผม อาจารย์ของผม โดนหนักกว่านี้อีกหลายเท่า ท่านก็ยังมีขันติ มีอุเบกขา แต่คนที่ว่าท่านใส่ร้ายท่านก็แพ้ภัยตัวเองตายห่าไปก่อนวัยอันควรหมดแล้วครับ พระแท้ดูที่การกระทำ แล้วก็คำสอนที่ถูกตรงตามธรรมครับ ผมคงตอบไม่ได้ว่าท่านอยากดัง หรืออยากอยู่คนเดียวดังที่ได้แสดงกิริยาหยาบคายประกาศไว้ แต่ไม่ว่าจะอยากดัง หรืออยากอยู่คนเดียว ซึ่งมีความอยากขึ้นต้น ล้วนเป็นกิเลสทั้งสิ้นครับ พระอริยะท่าน ไม่มีความอยากหลงเหลืออยู่ ดูเหมือนว่าน่าจะใช่ แต่ไม่ใช่ครับ สำหรับความเห็นส่วนตัวของผมเอง ถือว่าท่านเป็นแค่คนห่มเหลืองเท่านั้นครับ ขาดจากความเป็นพระเพราะแพ้ภัยตัวเอง ไม่ว่าจะโทสะ โมหะ ความหลงผิด ตลอดจนโมโหโทโส ที่แสดงอากับกิริยาเยี่ยงนั้น แถมด้วยถ้อยคำพลุดสวาสที่พลังพูลออกมาจากปาก แล้วก็วนไปวนมาเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง อวดอุตตริมนุสสธรรม จงใจแสดงตนว่าสื่อกับวิญญาณของผู้ตายได้ อาจารย์ของผมหลายองค์ทั้งที่ละขัณธ์ไปแล้วและยังเจริญสติอยู่ ท่านก็เห็นแต่ท่านไม่ให้เข้าไปยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ ผมเองก็เคยเห็น แต่ก็เชื่อครูอาจารย์ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ไม่ไปยึดติด อยู่กับปัจจุบัน อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่ควรเอามาเอ่ยถึงกล่าวถึง คนตายก็เป็นอดึตเช่นกัน อนาคตยังมาไม่ถึงก็ไม่สมควรกล่าวถึงเช่นกัน อาจารย์สอนให้อยู่กับปัจจุบันเสมอ เขาขาดจากการเป็นพระไปนานแล้วครับ ถูกต้องครับ พระพุทธเจ้าไม่เคยวิจารณ์ คนที่ไม่ดี แต่ท่านบอกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีได้ดีทำชั่วก็จะได้ผลของกรรมนั้นๆยังไม่พอจะได้สะเก็ดของกรรมที่ทำไม่ดีนั้นๆด้วยครับ มีหลายๆเคสที่เป็นมารศาสนา แล้วต้องพังพินาศเพราะแพ้ภัยตัวเอง เอาตั้งแต่พระพุทธกาลเลยครับ พระเทวทัต สมัยนี้ถ้ายังจำกันได้ ก็จะเป็นเปรตกู้(เปรตอาจารย์กู้) ลองคอยดูละกันครับ เรื่องดีๆจะไม่ค่อยดัง แต่เรื่องไม่ดีเดี๋ยวก็ดังครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อากังฟู
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 22:01:56 » |
|
พระดี ๆ มีเยอะครับ ไอ้พวกนี้มันมารศาสนา ชิงสุนัขเกิด ชัด ๆ สาดดดเอ๊ยยย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รู้อะไรไม่สู้ รู้..ไปหมด
|
|
|
tobizaru_x
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 22:03:40 » |
|
ถ้าดูแล้วไม่เกิดอาการยินดีหรือยินร้ายล่ะครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
plew_ch
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 22:14:49 » |
|
ข่าวช่อง9กำลังออก ตอนนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
chaiyasita
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 22:45:17 » |
|
ขออนุญาต ให้พวกเราได้อ่าน พุทธวจน อย่าเชื่อสิ่งใดๆ และขอจงอ่านด้วยตนเอง และพิจารณาด้วยตนเอง พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๓๓/๗๕๔ ข้อที่ ๒๓๑ ๓. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารี ผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๓ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมสงเคราะห์เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลาย ด้วยครุภัณฑ์ ครุบริขาร ของสงฆ์ คือ อาราม พื้นที่อารามวิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ฟูก หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กะถางโลหะ กะทะโลหะมีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกะต่าย หญ้าปล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียวเครื่องไม้ เครื่องดิน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๔ มีปรากฏอยู่ในโลก ๕. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริงนี้จัดเป็นยอดมหาโจร ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะภิกษุนั้น ฉันก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ด้วยอาการแห่งคนขโมย. นิคมคาถา ภิกษุใด ประกาศตนอันมีอยู่โดยการอื่น ด้วยอาการอย่างอื่น โภชนะนั้นอันภิกษุนั้น ฉันแล้ว ด้วยอาการแห่งคนขโมย ดุจพรานนกลวงจับนก ฉะนั้นภิกษุผู้เลวทรามเป็นอันมาก มีผ้ากาสาวะพันคอ มีธรรมทราม ไม่สำรวมแล้วภิกษุผู้เลวทรามเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงซึ่งนรก เพราะกรรมทั้งหลายที่เลวทราม ภิกษุผู้ทุศีล ผู้ไม่สำรวมแล้วบริโภคก้อนเหล็กแดงดังเปลวไฟ ประเสริฐกว่า การฉันก้อนข้าวของชาวรัฐ จะประเสริฐอะไร. อ้างอิง : http://www.etipitaka.com/read?keywords=%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A5+%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B8&language=thai&number=333&volume=1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
plew_ch
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 21 กันยายน 2011 23:17:28 » |
|
ขออนุญาต ให้พวกเราได้อ่าน พุทธวจน อย่าเชื่อสิ่งใดๆ และขอจงอ่านด้วยตนเอง และพิจารณาด้วยตนเอง พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๓๓/๗๕๔ ข้อที่ ๒๓๑ ๓. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารี ผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๓ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมสงเคราะห์เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลาย ด้วยครุภัณฑ์ ครุบริขาร ของสงฆ์ คือ อาราม พื้นที่อารามวิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ฟูก หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กะถางโลหะ กะทะโลหะมีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกะต่าย หญ้าปล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียวเครื่องไม้ เครื่องดิน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๔ มีปรากฏอยู่ในโลก ๕. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริงนี้จัดเป็นยอดมหาโจร ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะภิกษุนั้น ฉันก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ด้วยอาการแห่งคนขโมย. นิคมคาถา ภิกษุใด ประกาศตนอันมีอยู่โดยการอื่น ด้วยอาการอย่างอื่น โภชนะนั้นอันภิกษุนั้น ฉันแล้ว ด้วยอาการแห่งคนขโมย ดุจพรานนกลวงจับนก ฉะนั้นภิกษุผู้เลวทรามเป็นอันมาก มีผ้ากาสาวะพันคอ มีธรรมทราม ไม่สำรวมแล้วภิกษุผู้เลวทรามเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงซึ่งนรก เพราะกรรมทั้งหลายที่เลวทราม ภิกษุผู้ทุศีล ผู้ไม่สำรวมแล้วบริโภคก้อนเหล็กแดงดังเปลวไฟ ประเสริฐกว่า การฉันก้อนข้าวของชาวรัฐ จะประเสริฐอะไร. อ้างอิง : http://www.etipitaka.com/read?keywords=%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A5+%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B8&language=thai&number=333&volume=1สาธุ พุทธวจน ได้แบ่งบานแล้ว ณ บัดนี้ http://www.samyaek.com/ เวปของวัด มีเหมือนกัน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 กันยายน 2011 23:22:50 โดย plew_ch »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกเจ้าแม่
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 01:55:41 » |
|
นั้นหรอวะ สมณเพศของมิง กูบวช 15 วัน กุว่า กุยังทำได้ดีกว่า..คุณ..เยอะว่ะ ..... ทำดีไม่ได้ ก็อย่าทำเลวไม่ได้หรือไงวะ
บอกตามตรง เจอละกุจะหวดให้หายห้าวเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mart AE100 ™
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 04:17:29 » |
|
ใครมีช่องทาง ช่วยส่งคลิปนี้ให้สถานีโทรทัศน์ที ท่านจะได้อยู่คนเดียวสมใจอยาก
ส่งไป"เรื่องจริงผ่านจอ"เลยมั้ยครับ ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BIG 92
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 04:37:50 » |
|
พระสมัยนี้... ดื่มเหล้า,เค้านารี,ดูหนังโป๊,เสพยาบ้า,เอาตุ๊ด,เอาตูด ฯลฯ เสื่อม !
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jedee
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 07:09:25 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 กันยายน 2011 05:25:19 โดย jedee »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TAOTAO-TZ#056-
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 08:57:53 » |
|
การทำบุญแค่เรารักษาศีลให้ได้ให้ครบ แล้วก็หมั่นสวดมนต์ แค่นี้ก็ได้บุญมากกว่าเราไปถวายอะไรต่อมิอะไรที่วัดแล้วครับ
บุญที่เกิดจากการให้ทานนั้น ให้ผลน้อยกว่าบุญที่เกิดจากการภาวนาครับ และบุญอันสูงสุดคือการเจริญวิปัสนากรรมฐานครับและก่อนที่เราจะเจริญวิปัสนากรรมฐานได้
เราย่อมต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อนครับ ทำเองอยู่กับบ้านก็ได้ทำทุกวัน ได้บุญมากกว่าไปวัดแน่นอนครับ
ไม่เชื่อลองสังเกตุพระที่อยู่สิครับ ท่านไม่ได้ยึดติดท่านแค่ทำจิตใจให้สงบครับ
สาธุ มันเป็นเช่นนั้นจริง พระเจ้าข้า อีกเสียงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tobizaru_x
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 09:26:21 » |
|
ด้วยความเคารพครับ ผมมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความแตกต่างแตกแยกหรืออย่างไรครับ ที่ผมให้ความเห็นไป ผมมิได้มีเจตนาไม่ดี ผมคิดว่าความเห็นผมเป็นกลางแล้วนะครับ และสิ่งที่ต้องการสื่อก็คือ จะบอกทุกท่านว่า ทำดีได้ดีทำไม่ดีก็ไดับผลนั้นๆ ครับ ตราบใดที่สัตว์โลกยังต้องอยู่ในกฏแห่งกรรม และผมเองก็ยังไม่เชื่อเสียทีเดียวว่า ท่านที่อยู่ในคลิปดีหรือไม่ดีครับ เพราะสมัยก่อน คนไทยเราก็พูด กุ มิง ใช่มั้ยครับ... ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TAOTAO-TZ#056-
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 09:47:03 » |
|
ด้วยความเคารพครับ ผมมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความแตกต่างแตกแยกหรืออย่างไรครับ ที่ผมให้ความเห็นไป ผมมิได้มีเจตนาไม่ดี ผมคิดว่าความเห็นผมเป็นกลางแล้วนะครับ และสิ่งที่ต้องการสื่อก็คือ จะบอกทุกท่านว่า ทำดีได้ดีทำไม่ดีก็ไดับผลนั้นๆ ครับ ตราบใดที่สัตว์โลกยังต้องอยู่ในกฏแห่งกรรม และผมเองก็ยังไม่เชื่อเสียทีเดียวว่า ท่านที่อยู่ในคลิปดีหรือไม่ดีครับ เพราะสมัยก่อน คนไทยเราก็พูด กุ มิง ใช่มั้ยครับ... ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ ผมฟังจนจบครับ ดูกันที่แก่น ที่ท่านเทศน์ ก้อเป็นประโยชน์ ขาดแต่ความสำรวมอย่างที่พระควรมีนั้น ตกไป ปรับปรุงได้ คงดีครับ กู ..คุณ.. ปรกติครับ หลวงพ่อคูณ ท่านก้อใช้ กะ ลูก หลาน ลูกศิษย์ ลูกหา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 กันยายน 2011 09:49:24 โดย TAOTAO-TZ#056- »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
4d56
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 09:52:51 » |
|
ด้วยความเคารพนะคับ ต่างคนต่างเห็นต่างคิดคับ การเผยแผ่พระพุทธศาสนามีหลายกรรมวิธี ตามยุคตามสมัย แต่อย่าอยู่บนขอบเหวหมิ่นเหม่คับ ในการสั่งสอนของนักบวชท่านนี้(ขอใช้คำว่านักบวชคับ)ได้มีการเอาคำสอนของพระพุทธองค์ มาเผยแผ่ มาอ้างอิง ด้วยการตีความ"ของตนเอง" และด้วยการกระทำแบบนี้ผมมองว่า 1.เป็นโลกวัชะ ชาวโลกติเตียน จากการประพฤติ ถ้าจะเผยแผ่ด้วยวิธีนี้ แต่ยังใช้คำสอนของพระพุทธองค์ ผมว่าควรไปตั้งเป็นสำนักอะไรก้อได้ และไม่ควรแต่งสงฆ์หรือเรียกตัวเองว่าสงฆ์คับ จะบอกว่าดูที่แก่นอย่าดูวิธีปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริง ไม่ได้คับ แล้วถ้าจะสอนเรื่องห้ามประพฤติผิดในกามล่ะ มีต้องแก้ผ้าโชว์เลยหรอ ท่านไม่ใช่คนตั้งคำสอน คนอื่นที่นับถือศาสนานี้แล้วไม่เห็นชอบการปฏิบัติแบบนี้เพราะมองว่ามันไม่สมควร เค้ามีสิทธิ์ที่จะทักท้วง และห้ามกันทั่วประเทศคับ 2.ขอนี้ผมมองว่าไม่สมควรอย่างยิ่งสามารถปราชิกได้เลยล่ะ คือการทำให้"สงฆ์แตกแยก"ด้วยการกระทำ ไม่ว่าจะว่าสงฆ์อื่นจากคำที่ว่า"ถ้าอยากดังก้อต้อง พูดเพราะๆแบบที่เค้าทำกัน"เป็นการให้ร้ายผู้อื่น และภาพที่เอาเท้าไปเหยียบพระพุทธชินราช จนคนเค้าต้องมาอันเชิญพระพุทธชินราชไปไว้ที่อื่น และยิ่งซ้ำร้าย หากดูในรายการเรื่องจริงผ่านจอ มีชาวบ้านเอาพระพุทธรูปมาโยนรวทิ้งกันด้วย อันนี้ผมว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง 3.พฤตกรรมการเดินตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ หากถ้าผมจำไม่ผิด คำสอนของพระพุทธองค์ คำว่าสงฆ์หรือนักบวช แปลว่า ผู้ขอเค้ากิน คือสงฆ์จะไม่สามารถไปRequest หรือเลือกอาหารได้ วัดทั่วๆไปญาติโยมเอาอาหารไปใส่บาตรใส่สำรับคับค้อนเสร็จ ญาติโยมก้อจะยกไปถวายให้สงฆ์ฉัน สงห์ท่านก้อฉันตามนั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเลือก หรือบอกญาติโยมได้ว่า อาตมาจะเอาอันั้นอันนี้ หรือว่าไปเดินเลือกอาหารที่ญาติโยมศรัทธานำไปถวาย อันนี้คือความคิดส่วนตัวนะคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กำลังบ้าดีเซลโบควายคับ 4D56 รหัสเทพ 4M40 อิมก้ออิมเถอะ...ยาว ไหนๆใครว่าดีเซลไม่แรง ต้องลอง...ต้องลอง
|
|
|
tunatae
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 22 กันยายน 2011 09:58:58 » |
|
กู มรึง . เฉยๆครับ เเต่ท่าทางที่เเสดงออกมันทุเรศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|