เล่าเรื่อง...ไปแก้ช่วงล่างมีเสียงดังมาครับ

[pad101]

     วันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปแก้ไขช่วงล่างที่มีเสียงดังโครมครามตอนวิ่งผ่านถนนขลุขละเสียงดังมาจากล้อหน้าด้านซ้าย อู่อยู่แถวห้าแยกวัชระพล ขออนุญาตไม่บอกชื่ออู่นะครับ สาระสำคัญอาจจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆได้ ผมไปถึงอู่ เล่าอาการให้ช่างฟังก่อนพาไปขับให้ดูอาการจริงในหมู่บ้านแถวๆนั้น พอกลับมาถึงอู่ช่างก้เอาขึ้น Hoise  ผมแจ้งช่างไปว่า ผมเปลี่ยนลูกหมากล่างทั้งสองข้างใหม่ เบ้าโช๊คใหม่ โช๊คใหม่ทั้งหมด ลูกหมากกันโคลงก็ใหม่หมด ของทุกอย่างเบิกห้าง ช่างจัดการเคาะโน่นงัดนี่ ก้ไม่พบว่าส่วนไหนหลวม ก็เอาลงไปขับดูอีกรอบ พอกลับไปอู่ ช่างเอาขึ้น Hoise และช่างก็เอาเหล็กงัดที่ลูกหมากล่างด้านซ้ายดู เขาฟันธงว่าลุกหมากด้านซ้ายเริ่มไปละ ว่าไปโน่น ของผมเบิกวรจักร ใช้ได้แค่ไม่ถึงสามเดือนเองเหรอ ไหนๆ ก็ทักแล้ว ลองเปลี่ยนดูเอ้า... พอเปลี่ยนเสร็จไปลองอีก แต่..... หน้าแตกครับ....เสียงยังเหมือนเดิม โอ้แม่เจ้า... ผมเลยฟันธงบ้างให้ถอดปีกนกเปลี่ยนบูชไปเลยทั้ง ช่างก็ไม่ค่อยจะเชื่อเราอีก(ช่างพูดว่าก็ดูๆภายนอกบวกกับงัดแล้วก็ไม่เจอหลวมอะไรเลย) แต่ผมก็กำชับว่าถอดเหอะเปลี่ยนอะไรผมจะจ่ายให้หมด ช่างจึงจำต้องทำตามผม พอเปลียนเสร็จเอาไปลอง ปรากฎว่าเสียงที่เคยดัง เงียบกริบครับ
     ผมคิดว่า ช่างเก่งๆ ที่วิเคราะปัญหาเรื่องของเสียง ปัจจุบันก็มีเยอะนะครับ แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอมามักจะทำงานแบบหยาบๆ เชื่อมันตัวเองมากเกินไป โดยไม่รู้ว่าเราคิดกับเขาอย่างไรเวลาเห็นการทำงานของเขาเขา หารู้ว่า เราก็เป็นช่าง เพียงแต่เราไม่ได้ทำอู่เองก็แค่นั้น เพื่อนๆ ใครเคยพบเจออู่ที่เขาใสใจรายละเอียดเหล่านี้บ้าง ช่วยเล่าเรื่อและแนะนำอู่ให้เพื่อนๆคนอื่นบ้างนะครับ

[THE TONG]

+1 ครับ ของผมก็เริ่มดังแล้ว จะลองเช็คดู ขอบคุณแทนทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ

[keng110 >SZ<]

เมื่อวันเสาร์ก็พึ่งไปทำช่วงล่างมาเหมือนกันครับ
วิ่งถนนที่ไม่เรียบจะมีเสียงดัง ปุ๊กๆๆอยู่ที่ข้างซ้ายแล้วก็เสียงเหมือนเหล็กกระทบกัน อยู่ที่ด้านหน้าล่างๆแถวเพลาขับ
ขับจากสมุทรปราการไปบางแค แล้วไปนครนายกต่อพอไปถึงเอาเข้าร้านให้ช่างเช็คช่วงล่าง เช็คลูกหมากต่างๆปกติ
เลยเช็คเพลาขับปรากฏว่าหลวม ถอดมาดูจ๊ากไม่มีจารบีเลย เลยจัดการอัดจารบีใหม่สี่หัว เปลี่ยนยางหุ้มเพลา1ตัว
สลับยาง4ล้อทั้งหมด 840บาท อ้อขันน๊อตยึดแกนโช๊คด้วยครับออกมาเงียบกริบ

[แอลกอฮอล์40ดีกรี]

เก็บตังค่าจ่างช่างซ่อมไปซื้อเครื่องมือดีๆเอาใว้ซ่อมเองดีก่วาได้ความรู้ด้วยคับเดี๋ยวนี้เครื่องมือครบแล้วทำเองตลอดช่างไม่เคยได้ตังผมเลย  เอาความรู้เป็นกำไร เอาความเหนื่อยเป็นค่าจ้าง เอาตังค่าจ้างช่างทำไปซื้อเครื่องมือ ซื้อครบแล้วเอาตังไปซื้ออะไหล่ ซ่อมจบแล้ว รับซ่อมรถเพื่อนฝูง และคนอื่นๆ ได้ตัง เอาทำบุญ กับไว้ ใช้ ช่างระยำชอบฟัน ชอบวางยา จะหมดไป ส่วนช่างดีๆก็มีเอาไว้ ปรึกษา วันไหนไม่มีเวลาค่อยเอารถไปทำกับเขาบอกเพื่อนบอกฝูง ว่าร้านนี้ดี ช่างไม่ถือมีด   เอวัง

[pad101]

เห็นด้วยกับคุรเสกครับ

[salaeh kumuda]

เดือนที่แล้วขับอยู่ร้อยกว่าๆ  บนทางด่วนจากถนนโล่งๆ  ไปเจอว่ามีรถติดอยู่ข้างหน้า  และเบรคแต่รู้สึกว่า รถเบรคแล้วมีอาการตื้อ เหมือนจะเอาไม่อยู่  เหมือนหม้อลมไม่ดูดลม  ตกใจเลยดึงเบรคมือ แต่รถมาเร็ว จึงหมุนไปรอบหนึ่ง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร  เลยไปให้ช่างดู  บอกว่าหม้อลมน่าจะมีปัญหา   ช่างมาตรวจดู สอบถามเรื่องผ้าเบรค บอกไปว่าผ้าเบรคหน้าผมยังเหลืออีกพอสมควรเป็นผ้าที่มาพร้อมกับจานใบใหญ่ เปลี่ยนมานานแล้ว เบรคหลังเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ ไม่กี่เดือน  ช่างไปขยับแถวๆ  หม้อลม บอกว่าหม้อลมไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะไม่มีคราบน้ำมัน  คงเป็นเพราะผ้าเบรคหน้าที่เป็นเบรคหน้าคงหมดสภาพ  บอกให้เปลี่ยนผ้าเบรคหน้าใหม่  พร้อมเจียรจาน ก็เลยโอเค  หมดไปเกือบ ๒,๐๐๐ บาท  แต่ปรากฏว่าวันนั้นออกจากอู่ไม่ได้ขับและเบรคแรงๆ  เพราะอยู่ในช่วงเบินอิน  ไม่มีปัญหาอะไร  แต่พอพ้นระยะ ๓๐๐ กม. หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรค  ลองเบรค ปรากฏว่าอาการเดิมยังไม่หาย  เข้าไปให้ช่างดูอีกรอบ  ช่างบอกว่า ต้องไล่ระบบใหม่ท้ังหมด  และได้บอกช่างไปว่า คงเป็นเพราะตัวที่เกี่ยวกับหม้อลม  ช่างยังยืนยันว่าไม่ใช่  วันนั้นไม่มีเวลาเลยไม่ได้รื้อระบบเบรคตามที่ช่างบอก  แต่เริ่มสงสัยในตัวช่าง เลยลองหาข้อมูลในเน็ต ทั้งในนี้ และจาก Google  ได้ข้อมูลจากหลายๆ เว็บว่า ตัววันเวย์วาล์ว หากเสียเบรคแล้วจะมีอาการตื้อ  เลยรื้อจ้าววันเวย์มาเป่าลมดู  ปรากฏว่าลมออกได้ทั้งสองทาง   เลยไปหาซื้อวันเวย์เวย์วาล์วจากร้านขายอะไหล่แถวๆ  บานมาเปลี่ยนดู 
ปรากฏว่าอาการเบรคตื้อหายไป โดยเสียตังแค่ ๖๐ บาท (ไม่แท้) 
ถ้าเจอช่างที่วิเคราะห์เก่งๆ    คงไม่ต้องเสียตังเยอะขนาดนี้
ก็เลยได้ความรู้เพิ่ม

[แอลกอฮอล์40ดีกรี]

เดือนที่แล้วขับอยู่ร้อยกว่าๆ  บนทางด่วนจากถนนโล่งๆ  ไปเจอว่ามีรถติดอยู่ข้างหน้า  และเบรคแต่รู้สึกว่า รถเบรคแล้วมีอาการตื้อ เหมือนจะเอาไม่อยู่  เหมือนหม้อลมไม่ดูดลม  ตกใจเลยดึงเบรคมือ แต่รถมาเร็ว จึงหมุนไปรอบหนึ่ง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร  เลยไปให้ช่างดู  บอกว่าหม้อลมน่าจะมีปัญหา   ช่างมาตรวจดู สอบถามเรื่องผ้าเบรค บอกไปว่าผ้าเบรคหน้าผมยังเหลืออีกพอสมควรเป็นผ้าที่มาพร้อมกับจานใบใหญ่ เปลี่ยนมานานแล้ว เบรคหลังเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ ไม่กี่เดือน  ช่างไปขยับแถวๆ  หม้อลม บอกว่าหม้อลมไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะไม่มีคราบน้ำมัน  คงเป็นเพราะผ้าเบรคหน้าที่เป็นเบรคหน้าคงหมดสภาพ  บอกให้เปลี่ยนผ้าเบรคหน้าใหม่  พร้อมเจียรจาน ก็เลยโอเค  หมดไปเกือบ ๒,๐๐๐ บาท  แต่ปรากฏว่าวันนั้นออกจากอู่ไม่ได้ขับและเบรคแรงๆ  เพราะอยู่ในช่วงเบินอิน  ไม่มีปัญหาอะไร  แต่พอพ้นระยะ ๓๐๐ กม. หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรค  ลองเบรค ปรากฏว่าอาการเดิมยังไม่หาย  เข้าไปให้ช่างดูอีกรอบ  ช่างบอกว่า ต้องไล่ระบบใหม่ท้ังหมด  และได้บอกช่างไปว่า คงเป็นเพราะตัวที่เกี่ยวกับหม้อลม  ช่างยังยืนยันว่าไม่ใช่  วันนั้นไม่มีเวลาเลยไม่ได้รื้อระบบเบรคตามที่ช่างบอก  แต่เริ่มสงสัยในตัวช่าง เลยลองหาข้อมูลในเน็ต ทั้งในนี้ และจาก Google  ได้ข้อมูลจากหลายๆ เว็บว่า ตัววันเวย์วาล์ว หากเสียเบรคแล้วจะมีอาการตื้อ  เลยรื้อจ้าววันเวย์มาเป่าลมดู  ปรากฏว่าลมออกได้ทั้งสองทาง   เลยไปหาซื้อวันเวย์เวย์วาล์วจากร้านขายอะไหล่แถวๆ  บานมาเปลี่ยนดู 
ปรากฏว่าอาการเบรคตื้อหายไป โดยเสียตังแค่ ๖๐ บาท (ไม่แท้) 
ถ้าเจอช่างที่วิเคราะห์เก่งๆ    คงไม่ต้องเสียตังเยอะขนาดนี้
ก็เลยได้ความรู้เพิ่ม

เห็นไม๊คับได้ความรู้เพิ่มด้วย ถ้าไปหาช่าง ช่างคงรื้อทั้งคันงะคับ ช่างเก่งหายากเพราะแก่หมด หรือไม่ก็วางมือไปหมดแล้ว ช่างเขาไม่ได้มาใช้รถของเราหลอก เขาก็เปลี่ยนอะไหล่ไปทั่วงะคับ จนเราทนใช้รถไม่ไหวเพราะซ่อมไม่จบจน ขายรถทิ้ง

[salaeh kumuda]

เดือนที่แล้วขับอยู่ร้อยกว่าๆ  บนทางด่วนจากถนนโล่งๆ  ไปเจอว่ามีรถติดอยู่ข้างหน้า  และเบรคแต่รู้สึกว่า รถเบรคแล้วมีอาการตื้อ เหมือนจะเอาไม่อยู่  เหมือนหม้อลมไม่ดูดลม  ตกใจเลยดึงเบรคมือ แต่รถมาเร็ว จึงหมุนไปรอบหนึ่ง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร  เลยไปให้ช่างดู  บอกว่าหม้อลมน่าจะมีปัญหา   ช่างมาตรวจดู สอบถามเรื่องผ้าเบรค บอกไปว่าผ้าเบรคหน้าผมยังเหลืออีกพอสมควรเป็นผ้าที่มาพร้อมกับจานใบใหญ่ เปลี่ยนมานานแล้ว เบรคหลังเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ ไม่กี่เดือน  ช่างไปขยับแถวๆ  หม้อลม บอกว่าหม้อลมไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะไม่มีคราบน้ำมัน  คงเป็นเพราะผ้าเบรคหน้าที่เป็นเบรคหน้าคงหมดสภาพ  บอกให้เปลี่ยนผ้าเบรคหน้าใหม่  พร้อมเจียรจาน ก็เลยโอเค  หมดไปเกือบ ๒,๐๐๐ บาท  แต่ปรากฏว่าวันนั้นออกจากอู่ไม่ได้ขับและเบรคแรงๆ  เพราะอยู่ในช่วงเบินอิน  ไม่มีปัญหาอะไร  แต่พอพ้นระยะ ๓๐๐ กม. หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรค  ลองเบรค ปรากฏว่าอาการเดิมยังไม่หาย  เข้าไปให้ช่างดูอีกรอบ  ช่างบอกว่า ต้องไล่ระบบใหม่ท้ังหมด  และได้บอกช่างไปว่า คงเป็นเพราะตัวที่เกี่ยวกับหม้อลม  ช่างยังยืนยันว่าไม่ใช่  วันนั้นไม่มีเวลาเลยไม่ได้รื้อระบบเบรคตามที่ช่างบอก  แต่เริ่มสงสัยในตัวช่าง เลยลองหาข้อมูลในเน็ต ทั้งในนี้ และจาก Google  ได้ข้อมูลจากหลายๆ เว็บว่า ตัววันเวย์วาล์ว หากเสียเบรคแล้วจะมีอาการตื้อ  เลยรื้อจ้าววันเวย์มาเป่าลมดู  ปรากฏว่าลมออกได้ทั้งสองทาง   เลยไปหาซื้อวันเวย์เวย์วาล์วจากร้านขายอะไหล่แถวๆ  บานมาเปลี่ยนดู 
ปรากฏว่าอาการเบรคตื้อหายไป โดยเสียตังแค่ ๖๐ บาท (ไม่แท้) 
ถ้าเจอช่างที่วิเคราะห์เก่งๆ    คงไม่ต้องเสียตังเยอะขนาดนี้
ก็เลยได้ความรู้เพิ่ม

เห็นไม๊คับได้ความรู้เพิ่มด้วย ถ้าไปหาช่าง ช่างคงรื้อทั้งคันงะคับ ช่างเก่งหายากเพราะแก่หมด หรือไม่ก็วางมือไปหมดแล้ว ช่างเขาไม่ได้มาใช้รถของเราหลอก เขาก็เปลี่ยนอะไหล่ไปทั่วงะคับ จนเราทนใช้รถไม่ไหวเพราะซ่อมไม่จบจน ขายรถทิ้ง

ผมก็คิดอยู่นะครับว่าลองหาซื้อเครื่องในส่วนที่พอจะทำเองได้บ้างมาเก็บไว้ 
เพราะเมื่อเรามีเครื่องมือแล้ว  ความรู้บางอย่างเราอาจหาได้ในนี้ หรือในเน็ต
และตั้งใจไว้แล้วว่า  รถคันนี้จะใช้ไปจนกว่าจะไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยนเมื่อยามที่มันเสียขึ้นมาจนใช้ไม่ได้นะครับ

[Mart AE100 ™]

ก่อนเอารถไปทำ ผมอยากรู้ถึงสาเหตุก่อน เข้ามาตั้งกระทู้ ถามเพื่อนๆชาว AE ก่อนจะเอารถไปทำหน่ะครับ เพื่อความชัว ...